ชสยท.ผนึกต่างชาติลงขันพันล้าน ตั้งโรงงานแปรรูปยางครบวงจร
02 มิ.ย. 2557 เวลา 19:57:08 น.
ชสยท.ผนึกกลุ่มทุนไทย-ต่างชาติร่วมลงทุน 1,000 ล้าน สร้างโรงงานอุตสาหกรรมยางแท่ง-ยางคอมพาวนด์ กำลังการผลิตเฟสแรก 2 หมื่นตัน/ปี เล็งทำเลตั้งโรงงานใกล้ท่าเรือแหลมฉบัง พร้อมเดินหน้าเฟสสองผลิตล้อยาง
นายเพิก เลิศวังพง ประธานชุมนุมสหกรณ์ชาวสวนยางแห่งประเทศไทย จำกัด (ชสยท.) เปิดเผยกับ "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้คณะ ชสยท.และกลุ่มทุนไทยและต่างประเทศ จำนวน 28 คน ได้เดินทางไปประเทศจีนเพื่อดูงานการแปรรูปผลิตภัณฑ์ยางพาราที่ซื้อจากประเทศไทย ซึ่งพบว่าสามารถแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ได้หลากหลายประเภท ซึ่งชาวสวนยางในประเทศไทยจะต้องมีการพัฒนายางพารา จะทำรูปแบบเดิมไม่ได้อีกแล้ว และจะต้องพึ่งพาตนเองเป็นสำคัญ
ดังนั้น ชสยท.จึงได้จับมือกับกลุ่มทุนไทยและต่างชาติ ร่วมกันตั้งโรงงานแปรรูปยางพาราขึ้น โดยในเบื้องต้นมีแผนที่จะแปรรูปเป็นยางแท่งและยาง คอมพาวนด์ (Rubber Compound) หลังจากนั้นมีเป้าหมายเข้าสู่การแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ เป้าหมายหลักคือ การผลิตล้อยางซึ่งขณะนี้อยู่ในขั้นตอนของการหาที่ตั้งโรงงาน โดยจะตั้งในพื้นที่ภาคตะวันออก เนื่องจากอยู่ใกล้กับท่าเรือแหลมฉบัง และจะก่อสร้างให้เสร็จภายในปี 2558
สำหรับโรงงานอุตสาหกรรมแปรรูปเป็นยางแท่งและยางคอมพาวนด์ ใช้เงินลงทุนเริ่มแรก 200 ล้านบาท มีกำลังการผลิตประมาณ 20,000 ตัน/ปี และเฟสต่อไปจะลงทุนโรงงานผลิตล้อยาง รวมมูลค่าการลงทุนทั้งหมดประมาณ 1,000 ล้านบาท ซึ่งตั้งเป้าดำเนินการในระยะเวลา 5 ปีนี้
"การร่วมมือกันครั้งนี้ กลุ่มทุนต่างประเทศจะเป็นผู้ลงทุนเครื่องจักร ส่วนเรื่องเงินลงทุนและการตลาดนั้น ทางกลุ่มทุนไทยและ ชสยท.เป็นผู้ดำเนินการ ซึ่งกำลังการผลิต 20,000 ตัน/ปีนั้นมีตลาดรองรับอยู่แล้ว ส่วนวัตถุดิบคือยางพาราจะรับซื้อมาจากเครือข่าย ชสยท.และตลาดทั่วไป ซึ่งจะเป็นการผลิตยางพาราแบบครบวงจรระหว่างต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ" นายเพิกกล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ยางคอมพาวนด์ หรือ Rubber Compound เป็นผลิตภัณฑ์ยางพาราที่เกิดจากส่วนผสมของยาง (ยางแผ่นรมควัน, ยางแท่ง STR 20 และยางอื่น ๆ) กับสารเคมีให้มีความเป็นเนื้อเดียวกันพร้อมที่จะขึ้นรูปเป็นผลิตภัณฑ์ชนิดต่าง ๆ เช่น ล้อรถยนต์ ซึ่งประเทศจีนมีความต้องการยางคอมพาวนด์เพิ่มมากขึ้น แต่ผู้ประกอบการในประเทศไทยยังมีน้อย เพราะการผลิตยางคอมพาวนด์มีต้นทุนการผลิตค่อนข้างสูงเครื่องจักรมีราคาแพง
ปัจจุบันประเทศไทยเป็นประเทศที่ผลิตยางธรรมชาติมากที่สุดในโลก มีกำลังการผลิตประมาณ 3.2 ล้านตันต่อปี โดยส่งออกต่างประเทศเกือบทั้งหมดในรูปแบบของยางแผ่นรมควันอัดก้อน, ยางแท่ง และน้ำยางข้น และใช้ยางธรรมชาติในประเทศเพียง 10% เท่านั้น