(เพิ่มเติม) บาทเช้านี้อ่อนค่ามาที่ 32.88 คาดสัปดาห์นี้มีโอกาสทะลุ 33 ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- จันทร์ที่ 2 มิถุนายน 2557 11:15:44 น.
นักบริหารเงิน เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ระดับ 32.83/85 บาท/ดอลลาร์ ขยับอ่อนค่าจากปิดตลาดช่วงเย็นวันศุกร์ที่ระดับ 32.82/83 บาท/ดอลลาร์ ก่อนจะอ่อนค่าไปทำไฮที่ระดับ 32.88 บาท/ดอลลาร์ เคลื่อนไหวตามภูมิภาคหลังดอลลาร์ปรับตัวแข็งค่า
"เงินบาทขยับอ่อนค่าตามภูมิภาคเอเชีย หลังดอลลาร์แข็งค่าขึ้นมา...สัปดาห์นี้มีโอกาสเห็นขึ้นไปทดสอบที่ระดับ 33.00(บาท/ดอลลาร์)" นักบริหารเงิน กล่าว
ปัจจัยที่ตลาดจับตามองในสัปดาห์นี้เป็นการประกาศตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรกรรมของสหรัฐ และผลประชุมของธนาคารกลางสหภาพยุโรป(ECB)
นักบริหารเงิน คาดวันนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 32.80-32.90 บาท/ดอลลาร์
ล่าสุด SPOT อยู่ที่ระดับ 32.8817 บาท/ดอลลาร์ ส่วน THAI BAHT FIX 3M(30 พ.ค.) อยู่ที่ 1.74204% และ THAI BAHT FIX 6M(30 พ.ค.) อยู่ที่ 1.73087%
* ปัจจัยสำคัญ
- เงินเยนอยู่ที่ระดับ 101.97 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวันศุกร์ที่ระดับ 101.68 เยน/ดอลลาร์
- เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.3623 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวันศุกร์ที่ระดับ 1.3608 ดอลลาร์/ยูโร
- อัตราแลกเปลี่ยนบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของ ธปท.วันนี้อยู่ที่ระดับ 32.8000 บาท/ดอลลาร์
- พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก(ผบ.ทบ.) ในฐานะหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) เรียกประชุมรองหัวหน้า คสช.ทั้งหมด คือ พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฎิมาประกร ผู้บัญชาการทหารสูงสุด(ผบ.สส.), พล.ร.อ.ณรงค์ พิพัฒนาศัย ผู้บัญชาการทหารเรือ(ผบ.ทร.), พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง ผู้บัญชาการทหารอากาศ(ผบ.ทอ.), พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว และ พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รอง ผบ.ทบ.ในฐานะเลขาธิการ คสช.เพื่อสรุปงานในรอบ 1 สัปดาห์ ก่อนจะมีการประชุมระหว่าง คสช.กับที่ปรึกษา ในวันพรุ่งนี้
- คสช.สั่งตรึง "ดีเซล-แอลพีจี" บรรเทาความเดือนร้อนประชาชน พร้อมเตรียมแพกเกจใหญ่กระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้น ลั่นในเดือนมิ.ย.นี้ ต้องเสร็จด้าน "พล.อ.ประยุทธ์" ถกรองคสช.-หน่วยงานเศรษฐกิจ วันนี้กำหนดโรดแมพประเทศ ขณะนักเศรษฐศาสตร์ประเมินความเชื่อมั่นฟื้นในระยะสั้น หนุนเศรษฐกิจโตครึ่งปีหลัง
- พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง ผู้บัญชาการทหารอากาศ รองหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) หัวหน้ากลุ่มงานเศรษฐกิจ เปิดเผยถึงแนวทางและรูปแบบการบริหารจัดการด้านเศรษฐกิจ (โรดแมป) หลังจากหารือกับผู้บริหารกระทรวงการคลังเป็นเวลานาน 4 ชั่วโมง ว่ามีเรื่องเร่งด่วนระยะสั้นที่เป็นโรดแมป ซึ่งจะต้องดำเนินการโดยเร็ว 10 มาตรการ
- กระทรวงการคลังญี่ปุ่น เผยตัวเลขการใช้จ่ายด้านทุนของบริษัทญี่ปุ่นประจำไตรมาสแรกปีนี้ ปรับตัวเพิ่มขึ้น 7.4% เมื่อเทียบเป็นรายปีสู่ระดับ 12.23 ล้านล้านเยน โดยตัวเลขการใช้จ่ายด้านทุนของบริษัทเอกชนนั้น ครอบคลุมถึงการใช้จ่ายในธุรกิจต่างๆนอกภาคการเงิน เช่น การใช้จ่ายด้านการก่อสร้างโรงงานและจัดซื้ออุปกรณ์
- ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อวันศุกร์ เนื่องจากนักลงทุนยังคงมีมุมมองที่เป็นบวกต่อแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐ หลังจากทางการสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่สดใส รวมถึงดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค
- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส(WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อวันศุกร์ เนื่องจากนักลงทุนเทขายทำไรหลังจากสัญญาน้ำมันดิบพุ่งขึ้นเมื่อวันก่อน นอกจากนี้การชะลอตัวลงของตัวเลขการใช้จ่ายผู้บริโภคสหรัฐยังส่งผลให้บรรยากาศการซื้อขายในตลาดซบเซาลงด้วย โดยสัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ก.ค.ปรับตัวลง 87 เซนต์ ปิดที่ 102.71 ดอลลาร์/บาร์เรล ขณะที่สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือน ก.ค.ที่ตลาดลอนดอน ลดลง 56 เซนต์ ปิดที่ 109.41 ดอลลาร์/บาร์เรล
- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อวันศุกร์ ซึ่งเป็นการปรับตัวลงติดต่อกัน 5 วันทำการ เนื่องจากการพุ่งขึ้นของตลาดหุ้นนิวยอร์กและข้อมูลเศรษฐกิจที่ส่งสัญญาณเป็นบวกของสหรัฐ ได้กดดันให้นักลงทุนเทขายสัญญาทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย โดยสัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือน ส.ค.ร่วงลง 11.1 ดอลลาร์ หรือ 0.88% ปิดที่ 1246 ดอลลาร์/ออนซ์ ขณะที่สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือน ก.ค.ลดลง 33.2 เซนต์ ปิดที่ 18.682 ดอลลาร์/ออนซ์ ส่วนสัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือน ก.ค.ร่วงลง 7.4 ดอลลาร์ ปิดที่ 1452.7 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือน มิ.ย.เพิ่มขึ้น 1.85 ดอลลาร์ ปิดที่ 836.35 ดอลลาร์/ออนซ์
- สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อวันศุกร์ หลังจากสหรัฐเปิดเผยว่าตัวเลขการใช้จ่ายผู้บริโภคชะลอตัวลง ซึ่งข้อมูลดังกล่าวส่งผลให้นักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มอุปสงค์ภายในประเทศ โดยดอลลาร์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 101.69 เยน จากระดับของวันพฤหัสบดีที่ 101.73 เยน และอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 0.8951 ฟรังค์ จากระดับ 0.8977 ฟรังค์ ส่วนยูโรแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์ที่ระดับ 1.3633 ดอลลาร์ จากระดับ 1.3602 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์แข็งค่าขึ้นแตะระดับ 1.6764 ดอลลาร์ จากระดับ 1.6720 ดอลลาร์ และดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้นแตะระดับ 0.9302 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.9290 ดอลลาร์สหรัฐ
อินโฟเควสท์ โดย ธนวัฏ เสือแย้ม/รัชดา โทร.02-2535000 ต่อ 317 อีเมล์:
rachada@infoquest.co.th-- 
