ผู้เขียน หัวข้อ: (REPEAT) ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก: ดาวโจนส์ปิดบวก 18.43 จุด รับข้อมูลศก.สดใส  (อ่าน 529 ครั้ง)

Rakayang.Com

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 84444
    • ดูรายละเอียด

(REPEAT) ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก: ดาวโจนส์ปิดบวก 18.43 จุด รับข้อมูลศก.สดใส


 
ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- จันทร์ที่ 2 มิถุนายน 2557 06:01:39 น.
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อวันศุกร์ (30 พ.ค.) เนื่องจากนักลงทุนยังคงมีมุมมองที่เป็นบวกต่อแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐ หลังจากทางการสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่สดใส รวมถึงดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค


ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 16,717.17 จุด เพิ่มขึ้น 18.43 จุด หรือ +0.11% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,242.62 จุด ลดลง 5.33 จุด หรือ -0.13% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 1,923.57 จุด เพิ่มขึ้น 3.54 จุด หรือ +0.18%


ในช่วงแรกนั้นตลาดหุ้นนิวยอร์กเปิดตลาดปรับตัวลง หลังจากยอดการใช้จ่ายผู้บริโภคสหรัฐร่วงลง 0.1% ในเดือนเม.ย. จากระดับเดือนมี.ค.ที่ขยายตัว 1%  เนื่องจากผลกระทบจากสภาพอากาศที่หนาวเย็นอย่างรุนแรง


อย่างไรก็ตาม หลังจากนั้นเมื่อสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่สดใสหลายรายงาน ตลาดหุ้นนิวยอร์กก็ดีดตัวขึ้นและปิดในแดนบวก โดยรอยเตอร์/มหาวิทยาลัยมิชิแกนรายงานวส่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคช่วงท้ายเดือนพ.ค.ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 81.9 จากก่อนหน้านี้ที่ 81.8 พร้อมระบุว่า รายงานตัวเลขเศรษฐกิจที่อ่อนแอในช่วงไตรมาสแรกนั้นไม่ได้มีผลต่อความเชื่อมั่นผู้บริโภคมากนัก


ขณะเดียวกันมีรายงาน ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) เขตชิคาโกปรับตัวเพิ่มขึ้นแตะ 65.5 ในเดือนพ.ค. จากระดับ 63 ในเดือนเม.ย. ทำสถิติเพิ่มขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 7 เดือน และขยายตัวสวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้จะลดลงสู่ระดับ 61 เนื่องจากมียอดสั่งซื้อที่เพิ่มขึ้น


ตัวเลขที่ขยายตัวสดใสนี้ได้รับปัจจัยหนุนจากอุปสงค์สินค้าคงทนที่พุ่งสูงขึ้น ทั้งในกลุ่มยานยนต์ เครื่องใช้ไฟฟ้า และเครื่องจักร ซึ่งส่งผลให้ยอดสั่งซื้อขยายตัว แต่ขณะเดียวกัน การผลิตและการจ้างงานภาคโรงงานขยายตัวช้าลงในเดือนนี้


ทั้งนี้ ตัวเลขที่อยู่เหนือระดับ 50 บ่งชี้ถึงการขยายตัว และการรายงานดัชนี PMI ที่ออกมาในแง่บวกนี้จะเป็นสัญญาณที่บ่งชี้ว่าภาคการผลิตจะช่วยกระตุ้นให้เศรษฐกิจสหรัฐให้ดีขึ้น


หุ้นวอล-มาร์ท ปรับตัวขึ้น 1% หุ้นไลออนส์ เกท เอนเตอร์เทนเมนท์ ร่วงลง 12% หลังจากบริษัทเปิดเผยผลประกอบการที่น้อยกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ ส่วนหุ้นยูเอส สตีล ร่วงลง 4.6% ซึ่งเป็นการปรับตัวลงมากที่สุดในบรรดาหุ้นที่จดทะเบียนซื้อขายในดัชนี S&P 500


อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--