ผู้เขียน หัวข้อ: ชาวสวนเฮระบายยาง 2.1 แสนตันหัวทิ่ม  (อ่าน 1595 ครั้ง)

Rakayang.Com

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 85221
    • ดูรายละเอียด

ชาวสวนเฮระบายยาง 2.1 แสนตันหัวทิ่ม




ชาวสวนเฮ รัฐประหารช่วยชะลอแผนระบายสต๊อกยาง 2.1 แสนตัน ฝันดันราคาพุ่ง ด้าน บิ๊ก อ.ส.ย.ยันเดินหน้าตามเดิม ขณะการจัดตั้งคณะกรรมการระบายยังลูกผีลูกคน โบ้ยกันไปมา ทุกฝ่ายหวั่นตกเป็นแพะ ผวา สตง./ป.ป.ช.เชือด แย้มมีคนสนใจซื้อเพียบทั้งไทยและต่างชาติ "อุทัย" แฉมีทนายเกษตร-เอเยนต์จีน ดิ้นล็อบบี้ขอให้ถอนฟ้องศาลปกครองกลางให้ระงับขาย


นายเพิก  เลิศวังพง ประธานชุมนุมสหกรณ์ชาวสวนยางจันทบุรี จำกัด เปิดเผยกับ "ฐานเศรษฐกิจ" จากการทำรัฐประหารยึดอำนาจการปกครองประเทศโดยพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.)  เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2557 นั้น จะทำให้แผนการระบายยางพาราในสต๊อกรัฐบาล 2.1 แสนตันที่ได้รับอนุมัติจากคณะรัฐมนตรี (ครม.)แล้ว ต้องเลื่อนออกไปอย่างไม่มีกำหนด มองว่าจะส่งผลช่วยดันราคายางในประเทศปรับเพิ่มขึ้น ขณะที่แผนระบายยางของรัฐบาลเชื่อว่ามีผู้ส่งออกบางรายรีบจับจองเป็นเจ้าของ แล้ว หวังที่จะกดราคารับซื้อไว้เก็งกำไรในอนาคต สอดคล้องนายอนันต์ ดาโลดม  นายกสมาคมพืชสวนแห่งประเทศไทย กล่าวว่า จะต้องล้มการขายยางไปโดยปริยาย ต้องรอรัฐบาลชุดใหม่มาดำเนินการว่าจะขายยางต่อหรือว่าจะชะลอออกไปก่อนจนกว่า ราคายางจะปรับตัวสูงขึ้น สิ่งสำคัญอยากจะฝากว่ารัฐประหารครั้งนี้ไม่อยากให้เสียของเหมือนในอดีต จะต้องทำจริงจัง อาทิ  การยึดทรัพย์นักการเมืองที่ไร้คุณธรรม โกงกิน ไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่าง เป็นต้น


ดร.ปรีดี  ลีลาเศรษฐวงศ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท แกรนด์ รับเบอร์ จำกัด กล่าวถึงสถานการณ์ราคายางในช่วงเดือนมิถุนายนว่า คาดราคายางในประเทศและในตลาดโลกจะขยับสูงขึ้น จากปัจจัยประเทศอินโดนีเซียเป็นช่วงต้นยางผลัดใบผลผลิตออกสู่ตลาดน้อยลง  ส่วนการประกาศระบายยาง 2.1 แสนตันที่ผ่านมานั้นมีผลต่อตลาดทำให้ผู้ค้ายางในตลาดซื้อขายล่วงหน้า บางรายเปลี่ยนสถานะจากการซื้อยางเป็นเร่งขายยางแทน ทำให้ราคายางในตลาดอ่อนไหวลดลงมาก
นายไชยยศ สินเจริญกุล นายกสมาคมยางพาราไทย กล่าวว่า สถานการณ์ส่งออกยางพารายังไร้ปัจจัยบวก ไม่เกี่ยวกับสถานการณ์การเมืองในประเทศ สาเหตุที่ราคายางในประเทศและตลาดโลกไม่ปรับตัวขึ้นเพราะสต๊อกในประเทศจีนยัง มีอีกมาก ยังไม่เร่งซื้อ ในมุมมองสิ่งที่จะช่วยดันราคายางในประเทศได้ง่ายๆ คือ ให้ชาวสวนชะลอการกรีดยาง 2-3 เดือน เพื่อลดอุปทาน จะช่วยดันราคาทั้งในประเทศและตลาดโลกให้ขยับขึ้นได้
ขณะที่นายชนะชัย  เปล่งศิริวัฒน์ ผู้อำนวยการองค์การสวนยาง (อ.ส.ย.) กล่าวว่า การทำรัฐประหารไม่เกี่ยวกับการดำเนินขายระบายยางในสต๊อกรัฐบาล เพราะเป็นการดำเนินงานตามนโยบายปกติ แต่ปัญหาที่เกิดขึ้นในเวลานี้คือการจัดตั้งคณะทำงานระบายยาง ที่ประกอบด้วย กรมวิชาการเกษตร กระทรวงการคลัง และกระทรวงพาณิชย์นั้น จะมีความล่าช้าออกไป และยังไม่สามารถที่จะกำหนดทิศทางได้ เนื่องจากในที่ประชุมบอร์ด อ.ส.ย. ที่มีนายยุคล ลิ้มแหลมทอง รักษาการรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม 2557 ได้ให้กระทรวงการคลังเป็นประธานคณะกรรมการบริหารสต๊อกยาง 2.1 แสนตัน และให้อ.ส.ย. เป็นกรรมการและเลขานุการ หากกระทรวงการคลังไม่ยอมเป็นประธานก็ต้องแก้ไข ท้ายสุดก็ต้องมีการประชุมใหม่ อาจจะใช้เวลานานโดยเฉพาะช่วงนี้ทุกฝ่ายเกรงว่าหากทำอะไรผิดจะถูกสำนักงาน ตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) และ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ตรวจสอบ
อย่างไรก็ดีในเบื้องต้นทีโออาร์ระบายยางคร่าวๆ ที่จะเสนอ มี  2 วิธี  ได้แก่ การเสนอราคาแบบเปิดเผย และเสนอแบบซองปิด จะเสนอขายภายใต้เงื่อนไขที่ขายเสร็จแล้วส่งมอบภายใน 1 เดือน ถ้าหากรับของไม่ทัน ผู้ซื้อจะต้องเช่าโกดังต่อ และจะขายพร้อมกันทุกโกดัง 36 แห่งทั่วประเทศ ตามสภาพ อาทิ บางโกดังจะขายเท่ากับราคาตลาด แต่ถ้าคุณภาพดี ก็จะสูงกว่าราคาตลาด หรือหากบางโกดังจะตีเป็นเศษยางก็ได้ แต่การกำหนดทีโออาร์จะต้องรัดกุม
ด้านนายอุทัย สอนหลักทรัพย์ ประธานคณะทำงานเศรษฐกิจมหภาค การเงินการคลัง สภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ  กล่าวว่า ล่าสุดมีทนายประจำกระทรวงเกษตรและสหกรณ์  และตัวแทนบริษัท teck bee hang จากประเทศจีน คือ นาย zhao haifeng และ su xiao มาพบโดยแจ้งว่ามีความต้องการซื้อยางในสต๊อกรัฐบาล จึงขอให้ถอนฟ้องต่อศาลปกครองเพื่อให้ระงับการระบาย แต่ได้ยืนยันไปว่าจะไม่ถอนฟ้อง และจะดำเนินการให้ถึงที่สุด


ที่มา หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ (วันที่ 25 - 28  พฤษภาคม  2557)