ผู้เขียน หัวข้อ: เงินบาทเปิด 32.55/57 แกว่งในกรอบแคบ รอความชัดเจนปัจจัยการเมือง  (อ่าน 487 ครั้ง)

Rakayang.Com

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 84444
    • ดูรายละเอียด

เงินบาทเปิด 32.55/57 แกว่งในกรอบแคบ รอความชัดเจนปัจจัยการเมือง


 
ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 21 พฤษภาคม 2557 09:31:16 น.
นักบริหารเงิน เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ระดับ 32.55/57 บาท/ดอลลาร์ ใกล้เคียงกับช่วงเย็นวานนี้ที่ปิดตลาดที่ระดับ 32.55/57 บาท/ดอลลาร์


"วันนี้เงินบาทคาดว่าจะแกว่งอยู่ในกรอบนี้ เพราะต่างคงดูท่าทีกันหลังจากที่เมื่อวานขยับไปค่อนข้างมาก วันนี้ปัจจัยสำคัญที่ยังต้องจับตาดูคือ การเมืองในประเทศ แต่จะมี Dollar Index ที่บ้านเราค่อยๆ ขยับตามไปบ้าง เพราะเมื่อคืนดอลลาร์อ่อนค่า บ้านเราก็ขยับไป แต่ไม่มีนัยอะไรมากเท่ากับปัจจัยภายในประเทศ" นักบริหารเงิน ระบุ


นักบริหารเงิน คาดว่า วันนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 32.50-32.60 บาท/ดอลลาร์
* ปัจจัยสำคัญ
- เปิดตลาดเช้านี้เงินเยนอยู่ที่ระดับ 101.26 เยน/ดอลลาร์ จากเมื่อเย็นวานนี้ที่ระดับ 101.32 เยน/ดอลลาร์


- ส่วนเงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.3704 ดอลลาร์/ยูโร จากเมื่อเย็นวานนี้ที่ระดับ 1.3698 ดอลลาร์/ยูโร


- อัตราแลกเปลี่ยนบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของ ธปท.อยู่ที่ระดับ 32.5520 บาท/ดอลลาร์


- สำนักวิจัยซีไอเอ็มบีไทยลดเป้าจีดีพีโตเหลือ 1.5% ปีหน้า 3% ระบุการเมืองเป็นปัจจัยกดดันชั่วคราว แต่ที่น่าห่วงเป็นปัญหาเชิงโครงสร้างที่สะสมมานาน ทั้งหนี้ครัวเรือน ประสิทธิภาพการผลิต-แรงงาน ที่ถ่วงการเติบโตจีดีพีในระยะต่อไป แนะรัฐบาลใหม่ให้ความสำคัญ เร่งแก้ไข


- นายประสาร ไตรรัตน์วรกุล ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ขณะนี้พื้นฐานเศรษฐกิจไทยแข็งแกร่ง แต่กลับขาดความเชื่อมั่นจากปัญหาการเมืองในประเทศ ขาดผู้นำรัฐบาลบริหารประเทศ ในระยะสั้นทำให้ต่างชาติชะลอการเข้ามาลงทุนในไทยออกไป หากสถานการณ์ยืดเยื้อทำให้ไทยไม่มีการลงทุน ไทยขาดดุลการค้าและดุลบัญชีเดินสะพัดโดยไม่มีการแก้ปัญหาในระยะปานกลางและยาว ถึงจุดหนึ่งเศรษฐกิจไทยจะสึกกร่อน นักลงทุนอาจไม่เข้ามาลงทุน แม้วิกฤตเศรษฐกิจครั้งนี้ไม่เท่ากับปี 2540 แต่ถ้าไม่บำรุงรักษาให้ดี ไทยจะสูญเสียความสามารถการแข่งขันในที่สุด


- แบงก์ชาติเผยเอ็นพีแอลเพิ่มขึ้น 1.41 หมื่นล้านบาท เทียบกับไตรมาสก่อน เพิ่มขึ้นทุกธุรกิจ อันดับหนึ่ง ธุรกิจอุปโภคบริโภคส่วนบุคคลเพิ่มขึ้น 7.41 พันล้านบาท รองลงมาภาคผลิต 3.06 พันล้านบาท และกิจกรรมอสังหาริมทรัพย์ 1.1 พันล้านบาท พบลูกหนี้ใหม่ และ รีเอ็นทรีก่อตัวจากธุรกิจอุปโภคบริโภคส่วนบุคคลมากที่สุด


- พาณิชย์สั่งทูตพาณิชย์ 64 แห่งทั่วโลก เร่งแจงการประกาศกฎอัยการศึก สร้างความเชื่อมั่นให้ประเทศคู่ค้า เดินหน้าจัดงานไทยเฟ็กซ์ คาดมีผู้ซื้อจากต่างประเทศเข้าร่วมไม่ต่ำกว่า 25,000 ราย


- ดอลลาร์สหรัฐดีดตัวขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ส่วนใหญ่เมื่อคืนนี้(20 พ.ค.) แต่อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินเยน ขณะที่ผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ยังคงปรับตัวลงต่อ


- คณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) นัดประชุมเพื่อพิจารณาหนังสือตอบรับจากรัฐบาล หลังจากเมื่อวานนี้รัฐบาลมีหนังสือตอบกลับมาถึง กกต.โดยเสนอวันเลือกตั้ง ส.ส.เป็นการทั่วไปใหม่ในวันที่ 3 ส.ค.57 พร้อมยืนยันว่านายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล ปฏิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรี มีอำนาจในการทูลเกล้าฯ ร่างแก้ไขเพิ่มเติม พ.ร.ฎ.การกำหนดวันเลือกตั้ง รวมทั้งมีอำนาจในการรับสนองพระบรมราชโองการฯ ด้วย


- ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่องในช่วงเช้าวันนี้ โดยดัชนี MSCI Asia Pacific ลดลง 0.3% สู่ระดับ 138.68 จุด เมื่อเวลา 09.37 น.ตามเวลาโตเกียว เนื่องจากเงินเยนแข็งค่าก่อนที่ธนาคารกลางญี่ปุ่น(บีโอเจ)จะแถลงมติการประชุมนโยบายการเงินในวันนี้


- สมาคมแลกเปลี่ยนทองคำและเงินของจีน เปิดเผยว่า ราคาทองคำที่ตลาดฮ่องกงปรับตัวขึ้น 40 ดอลลาร์ฮ่องกง เปิดที่ระดับ 12,000 ดอลลาร์ฮ่องกง/ตำลึงในวันนี้ โดยราคาดังกล่าวเทียบเท่ากับ 1,299.75 ดอลลาร์สหรัฐ/ทรอยออนซ์ เพิ่มขึ้น 4.33 ดอลลาร์สหรัฐ ที่อัตราแลกเปลี่ยนล่าสุด 1 ดอลลาร์สหรัฐ/ 7.75 ดอลลาร์ฮ่องกง


- สหภาพยุโรป(อียู) ได้ออกแถลงการณ์เรียกร้องให้ไทยดำเนินการเจรจาเพื่อแก้ไขวิกฤตทางการเมืองอย่างสันติ โดยมองว่าความจำเป็นเร่งด่วนในขณะนี้ คือการกำหนดกรอบเวลาในการจัดการเลือกตั้งที่ชัดเจน เพื่อนำไปสู่การจัดตั้งรัฐบาลที่สามารถทำหน้าที่ได้อย่างเต็มที่ และมีความชอบธรรมตามระบอบประชาธิปไตยโดยเร็วที่สุด


- เลขาธิการสหประชาชาติ(UN) กล่าวเตือนทุกฝ่ายในไทยให้หยุดการใช้ความรุนแรง และเคารพสิทธิมุนษยชน หลังกองทัพไทยประกาศใช้กฎอัยการศึกทั่วประเทศ


อินโฟเควสท์ โดย กษมาพร กิตติสัมพันธ์/รัชดา โทร.02-2535000 ต่อ 317 อีเมล์: rachada@infoquest.co.th--