ผู้เขียน หัวข้อ: สรุปภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ ข่าวหุ้น-การเงิน 22 เมษายน 2566  (อ่าน 163 ครั้ง)

Rakayang.Com

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 85629
    • ดูรายละเอียด

ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก: ดาวโจนส์ปิดบวก 22.34 จุด นลท.จับตาผลประกอบการ-ทิศทางดอกเบี้ย
          สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (22 เม.ย. 2566)--ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเล็กน้อยในวันศุกร์ (21 เม.ย.) หลังการซื้อขายเป็นไปอย่างผันผวน ขณะที่นักลงทุนจับตาผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน และทิศทางอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐ
          ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 33,808.96 จุด เพิ่มขึ้น 22.34 จุด หรือ +0.07%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,133.52 จุด เพิ่มขึ้น 3.73 จุด หรือ +0.09% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 12,072.46 จุด เพิ่มขึ้น 12.90 จุด หรือ +0.11%
          แต่ในรอบสัปดาห์นี้ ดัชนีดาวโจนส์ลดลง 0.2% หลังปรับตัวขึ้น 4 สัปดาห์ติดต่อกัน, ดัชนี S&P500 ลดลง 0.1% และดัชนี Nasdaq ลดลง 0.4%
          บรรยากาศการซื้อขายยังคงถูกกดดัน ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอย และผลประกอบการที่ซบเซาของบริษัทจดทะเบียน
          ข้อมูลจาก Refinitiv IBES ระบุว่า นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า บริษัทในดัชนี S&P 500 จะรายงานตัวเลขกำไรลดลง 5.2% ในไตรมาส 1/2566 หลังจากคาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่าจะมีกำไรเพิ่มขึ้น 1.4% ในไตรมาสดังกล่าว
          ผลสำรวจบ่งชี้ว่า กิจกรรมทางธุรกิจในสหรัฐเพิ่มขึ้นอย่างมากในเดือนเม.ย. แตะระดับสูงสุดในรอบเกือบ 1 ปี ซึ่งข้อมูลใหม่นี้ทำให้คาดการณ์ได้ยากขึ้นว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะดำเนินนโยบายการเงินอย่างไรในอนาคต โดยในช่วงต้นสัปดาห์นี้ ข้อมูลเศรษฐกิจอื่น ๆ บ่งชี้ว่า เศรษฐกิจสหรัฐปรับตัวได้ไม่ดีนัก ซึ่งทำให้สถานการณ์ไม่มีความแน่นอน
          เอสแอนด์พี โกลบอลเปิดเผยในวันศุกร์ว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) รวมภาคการผลิตและภาคบริการเบื้องต้นของสหรัฐ ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 53.5 ในเดือนเม.ย. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 11 เดือน จากระดับ 52.3 ในเดือนมี.ค.
          ดัชนี PMI อยู่สูงกว่าระดับ 50 ซึ่งบ่งชี้ว่าภาคธุรกิจของสหรัฐมีการขยายตัว โดยได้ขยายตัวติดต่อกันเป็นเดือนที่ 3 และได้รับแรงหนุนจากการดีดตัวของการจ้างงานและคำสั่งซื้อใหม่ ขณะที่ความเชื่อมั่นของภาคธุรกิจปรับตัวขึ้นเช่นกัน
          ทั้งนี้ ดัชนี PMI ภาคการผลิตเบื้องต้น อยู่ที่ 50.4 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 6 เดือน จากระดับ 49.2 ในเดือนมี.ค. และดัชนี PMI ภาคบริการเบื้องต้น อยู่ที่ 53.7 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 12 เดือน จากระดับ 52.6 ในเดือนมี.ค.
          การคาดการณ์แนวโน้มผลประกอบการที่สดใสได้ช่วยหนุนตลาด โดยหุ้นเอชซีเอ เฮลท์แคร์ อิงค์ ซึ่งเป็นบริษัทประกอบการด้านโรงพยาบาล พุ่งขึ้นราว 4% หลังปรับเพิ่มคาดการณ์ผลประกอบการในปีนี้ และได้ช่วยหนุนหุ้นผู้ประกอบการโรงพยาบาลอื่นๆ ขึ้นด้วย
          หุ้นพรอคเตอร์ แอนด์ แกมเบิล พุ่งขึ้น 3.5% หลังปรับเพิ่มยอดขายและผลกำไรในอนาคต เนื่องจากลูกค้ายังคงซื้อผลิตภัณฑ์ของบริษัท แม้มีการปรับขึ้นราคาก็ตาม
          แต่หุ้นกลุ่มวัสดุปรับตัวลง 0.9% สวนทางตลาด และเป็นกลุ่มที่ปรับตัวลงมากที่สุดในดัชนี S&P500 โดยถูกกดดันจากการร่วงลง 4.1% ของหุ้นฟรีพอร์ต-แมคโมแรนหลังเปิดเผยผลกำไรไตรมาสแรกลดลง และหุ้นอัลเบมาร์ล คอร์ปซึ่งร่วงลง 10% หลังชิลีเปิดเผยแผนการที่จะเข้าควบคุมอุตสาหกรรมลิเทียม         
          สำหรับทิศทางของตลาดในสัปดาห์หน้านั้น บรรดานักลงทุนจะรอดูการเปิดเผยผลประกอบการของบริษัทเทคโนโลยีขนาดใหญ่
โดย กัลยาณี ชีวะพานิช

ภาวะตลาดน้ำมัน: น้ำมัน WTI ปิดบวก 50 เซนต์ ขานรับข้อมูล PMI แข็งแกร่ง
          สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (22 เม.ย. 2566)--สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดปรับตัวขึ้นในวันศุกร์ (21 เม.ย.) โดยได้แรงหนุนจากการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่สดใสซึ่งจะช่วยหนุนความต้องการใช้น้ำมัน โดยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ปรับตัวดีขึ้นในยูโรโซน, สหราชอาณาจักร และสหรัฐ
          ทั้งนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมิ.ย.เพิ่มขึ้น 50 เซนต์ หรือ 0.65% ปิดที่ 77.87 ดอลลาร์/บาร์เรล แต่ลดลง 5.5% ในรอบสัปดาห์นี้
          ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนมิ.ย.เพิ่มขึ้น 56 เซนต์ หรือ 0.69% ปิดที่ 81.66  ดอลลาร์/บาร์เรล แต่ลดลง 5.4% ในรอบสัปดาห์นี้
          เอสแอนด์พี โกลบอลเปิดเผยในวันศุกร์ว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) รวมภาคการผลิตและภาคบริการเบื้องต้นของสหรัฐ ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 53.5 ในเดือนเม.ย. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 11 เดือน จากระดับ 52.3 ในเดือนมี.ค.
          ดัชนี PMI อยู่สูงกว่าระดับ 50 ซึ่งบ่งชี้ว่าภาคธุรกิจของสหรัฐมีการขยายตัว โดยได้ขยายตัวติดต่อกันเป็นเดือนที่ 3 และได้รับแรงหนุนจากการดีดตัวของการจ้างงานและคำสั่งซื้อใหม่ ขณะที่ความเชื่อมั่นของภาคธุรกิจปรับตัวขึ้นเช่นกัน
          ทั้งนี้ ดัชนี PMI ภาคการผลิตเบื้องต้น อยู่ที่ 50.4 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 6 เดือน จากระดับ 49.2 ในเดือนมี.ค. และดัชนี PMI ภาคบริการเบื้องต้น อยู่ที่ 53.7 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 12 เดือน จากระดับ 52.6 ในเดือนมี.ค.
          สำหรับดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) รวมภาคการผลิตและบริการขั้นต้นของสหภาพยุโรป (อียู) อยู่ที่ 54.4 ในเดือนเม.ย. ทำสถิติสูงสุดในรอบ 11 เดือน เพิ่มขึ้นจากระดับ 53.7 ในเดือนมี.ค.
          ดัชนีที่อยู่เหนือระดับ 50 บ่งชี้ว่า กิจกรรมภาคธุรกิจของอียูอยู่ในภาวะขยายตัว และตัวเลขดังกล่าวยังสูงกว่าที่โพลล์ของสำนักข่าวรอยเตอร์คาดไว้ว่าดัชนี PMI จะคงระดับเดิม
          นอกจากนี้ เอสแอนด์พี โกลบอล/ซีไอพีเอสรายงานว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) รวมภาคการผลิตและบริการขั้นต้นของอังกฤษอยู่ที่ 53.9 ในเดือนเม.ย. เพิ่มขึ้นจากระดับ 52.2 ในเดือนมี.ค. ซึ่งส่งสัญญาณการเติบโตแข็งแกร่งที่สุดนับตั้งแต่เดือนเม.ย.ปีที่แล้ว
          ดัชนีที่อยู่เหนือระดับ 50 บ่งชี้ว่า กิจกรรมภาคธุรกิจของอังกฤษอยู่ในภาวะขยายตัว และนับว่าเติบโตเป็นเดือนที่ 3 ติดต่อกันแล้ว และสูงกว่าที่โพลล์ของสำนักข่าวรอยเตอร์คาดไว้ที่ระดับ 52.5
โดย กัลยาณี ชีวะพานิช

ภาวะตลาดทองคำนิวยอร์ก: ทองปิดลบ $28.60 หลังตลาดคาดเฟดขึ้นดอกเบี้ยเดือนหน้า
          สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (22 เม.ย. 2566)--สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลดลงในวันศุกร์ (21 เม.ย.) ขณะที่นักลงทุนวิตกว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะยังคงเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อ
          ทั้งนี้ สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนมิ.ย. ลดลง 28.60  ดอลลาร์ หรือ 1.42% ปิดที่ 1,990.50 ดอลลาร์/ออนซ์ และลดลง 1.3% ในรอบสัปดาห์นี้
          สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนพ.ค. ลดลง 31.50 เซนต์ หรือ 1.24% ปิดที่ 25.058 ดอลลาร์/ออนซ์
          สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนก.ค. เพิ่มขึ้น 31.10 ดอลลาร์ หรือ 2.81% ปิดที่ 1,138.70 ดอลลาร์/ออนซ์
          สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมิ.ย. เพิ่มขึ้น 18.70 ดอลลาร์ หรือ 1.2% ปิดที่ 1,607.40 ดอลลาร์/ออนซ์
          นางลอเรตตา เมสเตอร์ ประธานเฟดสาขาคลีฟแลนด์แสดงความเห็นเช่นเดียวกับประธานเฟดคนอื่น ๆ ในการสนับสนุนการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกเพื่อควบคุมเงินเฟ้อ โดยระบุว่า อัตราดอกเบี้ยระยะสั้นจะอยู่เหนือระดับ 5%
          นักวิเคราะห์ตลาดคาดว่า มีโอกาสมากกว่า 80% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 0.25% ในการประชุมเดือนพ.ค.
          การปรับตัวขึ้นของอัตราดอกเบี้ยจะเพิ่มต้นทุนค่าเสียโอกาสในการถือครองทองคำ เนื่องจากทองคำเป็นสินทรัพย์ที่ไม่มีผลตอบแทนในรูปดอกเบี้ย
          เอสแอนด์พี โกลบอลเปิดเผยในวันศุกร์ว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) รวมภาคการผลิตและภาคบริการเบื้องต้นของสหรัฐ ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 53.5 ในเดือนเม.ย. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 11 เดือน จากระดับ 52.3 ในเดือนมี.ค.
          ดัชนี PMI อยู่สูงกว่าระดับ 50 ซึ่งบ่งชี้ว่าภาคธุรกิจของสหรัฐมีการขยายตัว โดยได้ขยายตัวติดต่อกันเป็นเดือนที่ 3 และได้รับแรงหนุนจากการดีดตัวของการจ้างงานและคำสั่งซื้อใหม่ ขณะที่ความเชื่อมั่นของภาคธุรกิจปรับตัวขึ้นเช่นกัน
          ทั้งนี้ ดัชนี PMI ภาคการผลิตเบื้องต้น อยู่ที่ 50.4 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 6 เดือน จากระดับ 49.2 ในเดือนมี.ค. และดัชนี PMI ภาคบริการเบื้องต้น อยู่ที่ 53.7 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 12 เดือน จากระดับ 52.6 ในเดือนมี.ค.
โดย กัลยาณี ชีวะพานิช