ผู้เขียน หัวข้อ: คาดหมายอากาศทั่วไป ระหว่างวันที่ 15 - 21 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2566  (อ่าน 118 ครั้ง)

Rakayang.Com

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 84444
    • ดูรายละเอียด
คาดหมายอากาศทั่วไป  ระหว่างวันที่ 15 - 21 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2566

ในช่วงวันที่ 15 ? 17 ก.พ. 66 บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังค่อนข้างแรงจากประเทศจีนแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้ ในขณะที่ในช่วงวันที่ 16 ? 19 ก.พ. 66 คลื่นกระแสลมฝ่ายตะวันตกจะเคลื่อนผ่านภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ทำให้บริเวณดังกล่าวจะมีพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกบางแห่งเกิดขึ้นในระยะแรก หลังจากนั้นบริเวณประเทศไทยตอนบนอุณหภูมิจะลดลงกับมีลมแรง โดยอุณหภูมิจะลดลง 2 ? 4 องศาเซลเซียส สำหรับลมตะวันออกและลมตะวันออกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมอ่าวไทย ภาคใต้ และทะเลอันดามันจะมีกำลังแรงขึ้น ทำให้ภาคใต้มีฝนเพิ่มขึ้น ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันจะมีกำลังแรงขึ้น โดยอ่าวไทยตอนบนและทะเลอันดามันมีคลื่นสูง 1 ? 2 เมตร อ่าวไทยตอนล่างมีคลื่นสูง 2 - 3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร
ส่วนในช่วงวันที่ 18 ? 21 ก.พ. 66 บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังปานกลางระลอกใหม่จากประเทศจีนจะแผ่เสริมลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้ ยังคงทำให้ประเทศไทยตอนบนยังคงมีอากาศเย็นในตอนเช้า ในขณะที่ลมตะวันออกและลมตะวันออกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมอ่าวไทย ภาคใต้ และทะเลอันดามันจะมีกำลังอ่อนลง ทำให้ภาคใต้มีฝนลดลง ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันจะมีกำลังอ่อนลง โดยอ่าวไทยมีคลื่นสูง 1 ? 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร

?ข้อควรระวัง

ข้อควรระวัง ในช่วงวันที่ 15 ? 17 ก.พ. 66 ขอให้ประชาชนบริเวณภาคเหนือกับภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนระวังอันตรายจากพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรงและลูกเห็บตก โดยหลีกเลี่ยงการอยู่ในที่โล่งแจ้ง ใต้ต้นไม้ใหญ่ ป้ายโฆษณา และสิ่งปลูกสร้างที่ไม่แข็งแรง รวมถึงระวังอันตรายจากฟ้าผ่าที่อาจเกิดขึ้นได้ ส่วนเกษตรกรควรเตรียมการป้องกันและระวังความเสียหายที่จะเกิดต่อผลผลิตทางการเกษตรไว้ด้วย สำหรับชาวเรือบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง ส่วนชาวเรือบริเวณอ่าวไทยตอนล่างควรงดออกจากฝั่งในช่วงวันที่ 16 ? 17 ก.พ. 66 ไว้ด้วย

ออกประกาศ 15 กุมภาพันธ์ 2566 11:00 น.

คาดหมายอากาศรายภาค
ระหว่างวันที่ 15 ? 21 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2566

ภาคเหนือ

ในช่วงวันที่ 16 ? 17 ก.พ. 66 อากาศเย็นถึงหนาวในตอนเช้า โดยมีพายุฝนฟ้าคะนองร้อยละ 30 - 60 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกบางแห่ง
อุณหภูมิต่ำสุด 14 ? 23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30 ? 35 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10 ? 20 กม./ชม.
ส่วนในช่วงวันที่ 18 ? 21 ก.พ. 66 อากาศเย็นถึงหนาวในตอนเช้า โดยมีอากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน
อุณหภูมิต่ำสุด 11 ? 22 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33 ? 37 องศาเซลเซียส
บริเวณยอดดอยอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 5 ? 13 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10 ? 20 กม./ชม.

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

ในช่วงวันที่ 16 ? 17 ก.พ. 66 อากาศเย็นถึงหนาวในตอนเช้ากับมีลมแรง และอุณหภูมิจะลดลง 2 ? 4 องศาเซลเซียส
โดยมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 ? 20 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรง ส่วนมากทางตอนบนของภาค
อุณหภูมิต่ำสุด 14 ? 20 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 28 ? 35 องศาเซลเซียส
บริเวณยอดภูอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 11 ? 14 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15 ? 30 กม./ชม.
ส่วนในช่วงวันที่ 18 - 21 ก.พ. 66 อากาศเย็นในตอนเช้า โดยมีอากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน
อุณหภูมิต่ำสุด 16 ? 22 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32 ? 36 องศาเซลเซียส
บริเวณยอดภูอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 12 ? 15 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10 ? 30 กม./ชม.

ภาคกลาง

ในช่วงวันที่ 16 ? 18 ก.พ. 66 อากาศเย็นในตอนเช้ากับมีลมแรง โดยอุณหภูมิจะลดลง 2 ? 4 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิต่ำสุด 20 ? 23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32 ? 33 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15 ? 25 กม./ชม.
ส่วนในวันที่ 19 - 21 ก.พ. 66 มีอากาศเย็นในตอนเช้า โดยมีอากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน
อุณหภูมิต่ำสุด 23 ? 26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33 ? 36 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10 ? 30 กม./ชม.

ภาคตะวันออก

ในช่วงวันที่ 16 ? 18 ก.พ. 66 อากาศเย็นในตอนเช้ากับมีลมแรง โดยอุณหภูมิจะลดลง 2 ? 4 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิต่ำสุด 21 ? 25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29 ? 33 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15 ? 35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูง 1 - 2 เมตร
ส่วนในช่วงวันที่ 19 - 21 ก.พ. 66 อากาศเย็นในตอนเช้า โดยมีอากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน
อุณหภูมิต่ำสุด 22 ? 26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30 ? 35 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10 ? 30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร

ภาคใต้(ฝั่งตะวันออก)

ในช่วงวันที่ 15 ? 19 ก.พ. 66 มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 30 - 40 ของพื้นที่
ส่วนในช่วงวันที่ 20 ? 21 ก.พ. 66  มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 - 30 ของพื้นที่
ในช่วงวันที่ 15 ? 17 ก.พ. 66 ตั้งแต่ จ.สุราษฎร์ธานี ขึ้นมา ลมตะวันออก ความเร็ว 15 - 35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1 ? 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
ตั้งแต่ จ.นครศรีธรรมราช ลงไป ลมตะวันออก ความเร็ว 20 - 40 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 2 ? 3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร
ส่วนในช่วงวันที่ 18 ? 21 ก.พ. 66 ตั้งแต่ จ.สุราษฎร์ธานี ขึ้นมา ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15 - 30 กม./ชม.
ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 1 เมตร
ตั้งแต่ จ.นครศรีธรรมราช ลงไป ลมตะวันออก ความเร็ว 15 - 35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1 ? 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
อุณหภูมิต่ำสุด 21 ? 26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29 ? 35 องศาเซลเซียส

ภาคใต้(ฝั่งตะวันตก)

ในช่วงวันที่ 15 ? 17 ก.พ. 66 มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 20 ? 30 ของพื้นที่
ลมตะวันออก ความเร็ว 15 - 35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1 - 2 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร
ส่วนในช่วงวันที่ 18 ? 21 ก.พ. 66 มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 ? 20 ของพื้นที่
ลมตะวันออก ความเร็ว 10 - 30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร
อุณหภูมิต่ำสุด 22 ? 27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32 ? 36 องศาเซลเซียส

กรุงเทพและปริมณฑล

ในช่วงวันที่ 16 ? 18 ก.พ. 66 อากาศเย็นในตอนเช้ากับมีลมแรง โดยอุณหภูมิจะลดลง 1 ? 3 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิต่ำสุด 21 ? 24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31 ? 33 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15 ? 25 กม./ชม.
ส่วนในช่วงวันที่ 19 ? 21 ก.พ. 66 อากาศเย็นในตอนเช้า โดยมีอากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน
อุณหภูมิต่ำสุด 22 ? 25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31 ? 35 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10 ? 30 กม./ชม.


ออกประกาศ 15 กุมภาพันธ์ 2566 11:00 น.