อังกฤษผลิตรถยนต์ร่วงเกือบ 10% แม้ยอดผลิตรถยนต์ EV เพิ่ม 4.8%
สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (26 ม.ค. 2566)--สมาคมผู้ผลิตและผู้ค้ารถยนต์ (SMMT) ของอังกฤษเปิดเผยในวันนี้ (26 ม.ค.) ว่า การผลิตรถยนต์ของอังกฤษร่วงลงเกือบ 10% ในปี 2565 อันเนื่องมาจากปัญหาการขาดแคลนชิปเซมิคอนดักเตอร์ทั่วโลก และผลพวงจากการล็อกดาวน์สกัดโควิด-19 ของจีน แต่การผลิตรถยนต์ที่ใช้พลังงานไฟฟ้าเพียงอย่างเดียวนั้นเพิ่มขึ้นเกือบ 5%
SMMT รายงานว่า การผลิตรถยนต์ของอังกฤษลดลง 9.8% ในปี 2565 สู่ระดับ 775,014 คัน แต่ยังคงต่ำกว่าระดับของปี 2562 อยู่ประมาณ 40% ซึ่งเป็นช่วงก่อนโควิด-19 แพร่ระบาดทั่วโลก
อย่างไรก็ตาม การผลิตรถยนต์ไฟฟ้า (EV) หรือรถยนต์ไฟฟ้าแบตเตอรี่ (BEV), รถยนต์ไฟฟ้าปลั๊กอินไฮบริด (PHEV) และรถยนต์ไฟฟ้าไฮบริด (HEV) ของอังกฤษสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 234,066 คัน โดยมียอดการผลิตรวมกันเพิ่มขึ้น 4.5% เมื่อเทียบกับปี 2564 โดยรถยนต์ไฮบริดและรถยนต์ไฟฟ้าแบตเตอรี่ คิดเป็น 30.2% ของการผลิตรถยนต์ทั้งหมด
ทั้งนี้ ยอดการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าแบตเตอรี่เพิ่มขึ้น 4.8% ในปี 2565
นายไมค์ ฮาเวส ประธานบริหารของ SMMT ระบุในแถลงการณ์ว่า ตัวเลขเหล่านี้แสดงให้เห็นว่า ปี 2565 นั้นเป็นปีที่ยากลำบากเพียงใดสำหรับการผลิตรถยนต์ของอังกฤษ ถึงแม้ว่าเราจะยังคงผลิตรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นที่ใหม่และมีมูลค่าสูงเป็นที่ต้องการทั่วโลกได้มากขึ้นกว่าที่เคยก็ตาม
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า เกือบ 80% ของรถยนต์ที่ผลิตของอังกฤษในปี 2565 ถูกผลิตขึ้นเพื่อส่งออกไปยังตลาดต่างประเทศ โดยเกือบ 60% ของการส่งออก มีจุดหมายปลายทางไปยังประเทศต่าง ๆ ในสหภาพยุโรป (EU)
โดย ตนุพัฒน์ ปิยะรัตน์/กัลยาณี ชีวะพานิช
