ผู้เขียน หัวข้อ: เงินบาทเปิดตลาด 31.07/08 ตลาดรอผล FOMC คืนนี้-จับตา Flow สิ้นเดือน  (อ่าน 698 ครั้ง)

Rakayang.Com

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 85639
    • ดูรายละเอียด
เงินบาทเปิดตลาด 31.07/08 ตลาดรอผล FOMC คืนนี้-จับตา Flow สิ้นเดือน

 
 
ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 30 ตุลาคม 2556 09:32:43 น.
นักบริหารเงิน กล่าวว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้ที่ระดับ 31.07/08 บาท/ดอลลาร์ ปรับตัวอ่อนค่าจากเย็นวานนี้ที่ระดับ 31.04/06 บาท/ดอลลาร์ ก่อนจะมีแรงซื้อดอลลาร์เข้ามาทำให้เงินบาทไปทำไฮที่ระดับ 31.11 บาท/ดอลลาร์ ก่อนที่จะกลับลงมาอยู่ที่ 31.05/07 บาท/ดอลลาร์
"วันนี้เงินบาทน่าจะแกว่งตัวในกรอบ รอผลประชุม FOMC คืนนี้ ซึ่งจะมีผลต่อตลาดบ้านเราพรุ่งนี้เช้า" นักบริหารเงิน กล่าว
 

ปัจจัยที่มีผลต่อตลาดน่าจะขึ้นอยุ่กับผลประชุมของคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ(FOMC) ซึ่งคาดว่ายังไม่มีอะไรชัดเจนมากนัก คงยื้อไปพิจารณาในการประชุมครั้งถัดไป ส่วนปัจจัยในประเทศเป็นเรื่องการไหลเข้า-ออกของเงินทุนต่างประเทศในช่วงสิ้นเดือน
นักบริหารเงิน ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันนี้ไว้ระหว่าง 31.00-31.15 บาท/ดอลลาร์

* ปัจจัยสำคัญ

- เงินเยนอยู่ที่ระดับ 98.24 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวานนี้ที่ระดับ 97.60/63 เยน/ดอลลาร์
- เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.3735 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวานนี้ที่ระดับ 1.3767/3770 ดอลลาร์/ยูโร
- อัตราแลกเปลี่ยนบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างของ ธปท.อยู่ที่ระดับ 31.0710 บาท/ดอลลาร์
- สมาคมแลกเปลี่ยนทองคำและเงินของจีน เผยราคาทองคำที่ตลาดฮ่องกงปรับตัวลง 20 ดอลลาร์ฮ่องกง เปิดที่ระดับ 12,480 ดอลลาร์ฮ่องกง/ตำลึงในวันนี้ หรือเทียบเท่ากับ 1,351.74 ดอลลาร์สหรัฐ/ทรอยออนซ์ ลดลง 2.17 ดอลลาร์สหรัฐ ที่อัตราแลกเปลี่ยน 1 ดอลลาร์สหรัฐ/7.75 ดอลลาร์ฮ่องกง
- China Foreign Exchange Trading System(CFETS) รายงานว่า เงินหยวนอ่อนค่าลง 0.39% แตะที่ 6.1412 หยวนต่อดอลลาร์เช้าวันนี้
- กระทรวงเศรษฐกิจ การค้า และอุตสาหกรรมญี่ปุ่น เผยผลผลิต???าคอุตสาหกรรมของญี่ปุ่นเดือน ก.ย.เพิ่มขึ้น 1.5% จากเดือนก่อนหน้า ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นครั้งแรกในรอบ 2 เดือน ขณะที่ดัชนีผลผลิตใน???าคโรงงานและเหมืองแร่อยู่ที่ระดับ 98.5 เทียบกับฐาน 100 ในปี 2553 ส่วนดัชนีการส่งออก???าคอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้น 1.6% สู่ระดับ 97.0 และดัชนีสต็อกสินค้าคงคลังลดลง 0.2% แตะที่ 108.3
- ดัชนี Jakarta Composite ตลาดหุ้นอินโดนีเซียปิดที่ 4,562.77 จุด ลดลง 27.77 จุด หรือ -0.60%, ดัชนี SENSEX ตลาดหุ้นอินเดียปิดที่ 20,929.01 จุด เพิ่มขึ้น 358.73 จุด หรือ +1.74%, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ปิดที่ 3,208.82 จุด เพิ่มขึ้น 0.97 จุด หรือ +0.03%, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียปิดที่ 1,815.65 จุด ลดลง 2.74 จุด หรือ -0.15%, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดที่ 22,846.54 จุด เพิ่มขึ้น 39.96 จุด หรือ +0.18%, ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ปิดที่ 6,543.46 จุด เพิ่มขึ้น 3.65 จุด หรือ +0.06%, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนปิดที่ 2,128.86 จุด ลดลง 5.01 จุด หรือ -0.23%, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ปิดที่ 2,051.76 จุด เพิ่มขึ้น 3.62 จุด หรือ +0.18%, ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดที่ 14,325.98 จุด ลดลง 70.06 จุด หรือ -0.49%, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันปิดที่ 8,420.98 จุด เพิ่มขึ้น 13.15 จุด หรือ +0.16%, ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 5,415.50 จุด ลดลง 25.90 จุด หรือ -0.48%
- ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ โดยดาวโจนส์ และ S&P 500 ปิดที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ เพราะได้แรงหนุนจากการคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) จะเดินหน้าใช้มาตรการ QE หลังจากสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอ โดยดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 15,680.35 จุด พุ่งขึ้น 111.42 จุด หรือ +0.72%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 1,771.95 จุด เพิ่มขึ้น 9.84 จุด หรือ +0.56% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 3,952.34 จุด เพิ่มขึ้น 12.21 จุด หรือ +0.31%
- ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเมื่อคืนนี้หลังได้แรงหนุนจากการคาดการณ์ว่าเฟดจะเดินหน้าใช้มาตรการ QE นอกจากนี้ตลาดยังได้รับปัจจัยบวกจากผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทเอกชนในยุโรป โดยดัชนี Stoxx 600 เพิ่มขึ้น 0.4% ปิดที่ 320.77 จุด, ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,278.09 จุด เพิ่มขึ้น 26.48 จุด หรือ +0.62%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 9,022.04 จุด เพิ่มขึ้น 43.39 จุด หรือ +0.48%, ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,774.73 จุด เพิ่มขึ้น 48.91 จุด หรือ +0.73%
- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส(WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลดลงเมื่อคืนนี้เนื่องจากคาดการณ์ว่าสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐจะเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากข้อมูลเศรษฐกิจที่ซบเซาของสหรัฐ โดยสัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ธ.ค.ลดลง 48 เซนต์ ปิดที่ 98.2 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือน ธ.ค.ที่ตลาดลอนดอน ลดลง 60 เซนต์ ปิดที่ 109.01 ดอลลาร์/บาร์เรล
- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้หลังได้รับแรงกดดันจากข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอของสหรัฐ รวมถึงดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโ???คและราคาบ้าน โดยสัญญาทองคำตลาด COMEX(Commodity Exchange) ส่งมอบเดือน ธ.ค.ร่วงลง 6.7 ดอลลาร์ หรือ 0.5% ปิดที่ 1,345.5 ดอลลาร์/ออนซ์ ขณะที่สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือน ธ.ค.ลดลง 4.6 เซนต์ ปิดที่ 22.492 ดอลลาร์/ออนซ์ ส่วนสัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือน ม.ค.ร่วงลง 11 ดอลลาร์ ปิดที่ 1461.90 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือน ธ.ค.ลดลง 3.40 ดอลลาร์ ปิดที่ 747.05 ดอลลาร์/ออนซ์
- สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ ขณะที่ตลาดจับตาดูการประชุมเฟดว่าจะเดินหน้าใช้มาตรการ QE หรือไม่ หลังจากสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอ โดยดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบเงินเยนที่ระดับ 98.11 เยน จากระดับของวันจันทร์ที่ 97.67 เยน และแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 0.8986 ฟรังค์ จากระดับ 0.8943 ฟรังค์ ส่วนยูโรอ่อนค่าลงสู่ระดับ 1.3748 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.3807 ดอลลาร์สหรัฐ เงินปอนด์อ่อนค่าลงสู่ระดับ 1.6047 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.6159 ดอลลาร์สหรัฐ และดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลงสู่ระดับ 0.9481ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.9581 ดอลลาร์สหรัฐ
อินโฟเควสท์ โดย ธนวัฏ เสือแย้ม/รัชดา โทร.02-2535000 ต่อ 317 อีเมล์: rachada@infoquest.co.th--