ผู้เขียน หัวข้อ: กนย.เตือนสวนยางเกิดใหม่ดั้มราคาไทย  (อ่าน 912 ครั้ง)

Rakayang.Com

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 83305
    • ดูรายละเอียด
กนย.เตือนสวนยางเกิดใหม่ดั้มราคาไทย (28/10/2556)
 กนย.ส่งสัญญาณเตือนรัฐบาลเตรียมแผนรองรับยางเกิดใหม่ใน ลาว พม่า กัมพูชา เวียดนาม อาจส่งผลกระทบต่อไทย
          นายบุญส่ง นับทอง นายกสมาคมสหพันธ์ชาวสวนยางแห่งประเทศไทย และคณะกรรมการนโยบายยางธรรมชาติ (กนย.) กล่าวว่า แนวโน้มข้างหน้าน่าเป็นห่วงชาวสวนยางในประเทศมาก เพราะขณะนี้ทั่วโลกปลูกยางกันมาก โดยเฉพาะที่สำคัญผู้สั่งยางจากประเทศไทยรายใหญ่ คือประเทศจีน ได้มีการลงทุนปลูกยางอย่างขนานใหญ่ ในประเทศเพื่อนบ้าน เช่น พม่า ลาว และกัมพูชา ซึ่งสามารถกรีดได้เป็นจำนวนมากในปี 2559 เป็นต้นไป
 
        ?จีนในฐานะผู้ซื้อยางรายใหญ่ที่สุดของไทย เพื่อนำไปแปรรูป เมื่อจีนมียางเป็นของตนเองก็จะเกิดอำนาจต่อรองสูงที่จะซื้อยางจากประเทศไทย และจะเป็นผู้กำหนดราคาเอง แล้วจะส่งส่งผลกระทบต่อชาวสวนยางไทยอย่างเลี่ยงไม่พ้น และราคาก็จะตกต่ำลง
         นายบุญส่ง กล่าวอีกว่า รัฐบาลจะต้องดำเนินการแก้ไขปัญหาอย่างยั่งยืน ร่วมกับเจ้าของสวนยาง สำหรับต้นน้ำ ต้องยกระดับการผลิตให้ได้ กว่า 1,000 กก. / ไร่ / ปี ไม่ใช่ผลผลิตที่อยู่ที่ 260 กก. / ไร่ / ปี เพราะอนาคตเมื่อยางราคามาอยู่ที่ 60 บาท/กก.ก็สามารถอยู่ได้ กลางน้ำ จะต้องมีการแปรรูปเพื่อเพิ่มมูลค่า ซึ่งรัฐบาลมีนโยบายต่าง ๆ ที่จะผลิตจากยางอยู่แล้ว เช่น ทำถนน สนามกีฬา แท๊งน้ำ อ่างเก็บน้ำ ฯลฯ ปลายน้ำ ต้องวางโครงสร้างเอื้อประโยชน์เพื่อเกษตรกร
          ?ประการสำคัญจะต้องตั้ง???าคียางโลกให้ได้ ของกลุ่มผู้ผลิตยางรายใหญ่ เช่น ไทย อินโดนีเซีย มาเลเซีย อินเดีย เวียดนาม ศรีลังกา ลาว กัมพูชา พม่า เพื่อเป็นผู้กำหนดนโยบาย?
           แหล่งข่าวนักวิชาการยางยางระดับสูง เปิดเผยว่า สวนยางรายใหม่ที่ปลูกบริเวณรอบประเทศเพื่อนบ้าน พม่า ลาว กัมพูชา และเวียดนาม กว่า 1 ล้านไร่ และในปี 2557 สามารถจะกรีดได้ประมาณ 200,000 ไร่ เป็นอันดับแรก โดยสวนยางส่วนใหญ่ จะลงทุนจากผู้ประกอบการส่งออกยางพารา และจากผู้ประกอบการแปรรูปจากยางจากประเทศไทย และมาเลเซีย สิงคโปร์ และจีน ซึ่งต่างเป็นผู้ประกอบการอุตสาหกรรมยาง และเป็นผู้สั่งยางรายใหญ่จากประเทศไทย ที่นำไปแปรรูปเป็นผลิต???ัณฑ์ และจำหน่ายให้กับต่างประเทศ
         แหล่งข่าว ยังกล่าวอีกว่า จากการลงทุนไปปลูกยางในประเทศลาว กัมพูชา พม่า และเวียดนาม ของผู้สั่งยางรายใหญ่จากไทยจะมีผลกระทบต่อยางพาราไทยในอนาคตอย่างเลี่ยงไม่พ้นโดยเฉพาะเจ้าของสวนยางพารารายขนาดเล็ก โดย???าพรวม ประมาณ 10 ? 15 เปอร์เซ็นต์ และหากบวกรวมกับความเป็นไปของเศรษฐกิจโลก ถ้ามาประยุกต์กับวันนี้ จะถึง 40 เปอร์เซ็นต์
           ?ขณะนี้มีสวนยางที่อยู่ในระบบของไทยประมาณ 19.2 ล้านไร่ และยังมีนอกระบบที่ปลูกตามพื้นที่หวงห้ามอีกจำนวนมาก และโดยเฉลี่ยเป็นเจ้าของสวนยางายละประมาณ 8.8 ไร่ / ราย
         แหล่งข่าว ยังกล่าวอีกว่า และอีกปัจจัยสำคัญที่จะส่งผลกระทบ เพราะประเทศพม่า ลาว กัมพูชา เวียดนาม ต้นการผลิตต่ำกว่าของไทย ทั้งแรงงานราคาต่ำ และที่ดินราคาถูก.
ที่มา : หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์ (วันที่ 28 ตุลาคม 2556)   
http://thairubberparty.com/