ผู้เขียน หัวข้อ: In Focus: ทำความรู้จักกฎหมายประกันสุข???าพที่ โอบามาแคร์ แต่ รีพับลิกันไม่แคร์  (อ่าน 961 ครั้ง)

Rakayang.Com

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 84897
    • ดูรายละเอียด
In Focus: ทำความรู้จักกฎหมายประกันสุข???าพที่ โอบามาแคร์ แต่ รีพับลิกันไม่แคร์

 
 
ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 9 ตุลาคม 2556 14:15:00 น.
ล่วงเข้าสู่สัปดาห์ที่สองแล้วสำหรับการปิดหน่วยงานบางส่วนของรัฐบาลกลางสหรัฐชั่วคราว หรือ Government Shutdown ซึ่งผิดความคาดหมายของใครหลายคนที่มองในแง่ดีว่าสถานการณ์นี้ไม่น่าจะยืดเยื้อนานเกินหนึ่งสัปดาห์ โดยจนถึงตอนนี้ลูกจ้างรัฐบาลกลางกว่า 700,000 คนยังคงต้องถูกพักงานโดยไม่ได้รับค่าตอบแทน ขณะที่พิพิธ???ัณฑ์และอุทยานแห่งชาติทั่วประเทศ รวมถึงอนุสาวรีย์เทพีเสรี???าพ ต้องปิดให้บริการโดยไม่มีกำหนด
 

แต่ทว่าในขณะที่วิกฤต "ชัตดาวน์" ยังไม่ทีท่าจบลงง่ายๆ สถานการณ์ที่น่าหวาดหวั่นยิ่งกว่าก็กำลังคืบคลานเข้ามา นั่นก็คือการที่สหรัฐกลับมาเผชิญกับ???าวะ "หน้าผาการคลัง" หรือ Fiscal Cliff เป็นคำรบสอง เข้าตำรา "ความวัวยังไม่ทันหาย ความควายเข้ามาแทรก"
ทั้งนี้ หนี้สาธารณะของสหรัฐพุ่งชนเพดานตามที่กฎหมายกำหนดไว้ที่ระดับ 16.699 ล้านล้านดอลลาร์แล้ว และสหรัฐอาจเข้าสู่???าวะถังแตกหากส???าคองเกรสไม่สามารถผ่านร่างกฎหมายขยายเพดานหนี้ได้ทันกำหนดเส้นตายวันที่ 17 ตุลาคม
ย้อนกลับไปเมื่อเดือนสิงหาคม 2012 สหรัฐเคยเผชิญ???าวะ "ฟิสคัล คลิฟฟ์" มาแล้ว แต่ยังเคราะห์ดีที่ในครั้งนั้นลงเอยด้วยการที่ส???าคองเกรสสามารถบรรลุข้อตกลงก่อนถึงกำหนดชำระหนี้เพียงสองวัน
อย่างไรก็ตาม บรรดานักเศรษฐศาสตร์กำลังกังวลกันว่า คราวนี้สหรัฐอาจไม่สามารถหลบเลี่ยงการตกหน้าผาได้อย่างหวุดหวิดเหมือนครั้งที่แล้ว หากสองขั้วอำนาจการเมืองยังถือคติ "ยอมหัก ไม่ยอมงอ" ในการอ???ิปรายจัดทำงบประมาณประจำปี 2014 อันจะส่งผลให้สหรัฐผิดนัดชำระหนี้ครั้งแรกในประวัติศาสตร์ ซึ่งจะสร้างความเสียหายรุนแรงกว่าชัตดาวน์เป็นไหนๆ และอาจนำไปสู่วิกฤตเศรษฐกิจโลกครั้งใหญ่เกินกว่าที่ใครจะคาดคิด

ชนวนเหตุ "ชัตดาวน์" สู่ "ฟิสคัล คลิฟฟ์"

ชนวนเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดวิกฤต "ชัตดาวน์" และกำลังขยายวงสู่ "ฟิสคัล คลิฟฟ์" นั้นมีที่มาที่ไปจากความขัดแย้งเรื่องกฎหมาย Patient Protection and Affordable Care Act  หรือกฎหมายประกันสุข???าพที่เรียกกันติดปากว่า "โอบามาแคร์" (Obamacare) ซึ่งพรรคเดโมแครต???ูมิใจหนักหนา แต่ข้างฝ่ายรีพับลิกันกลับพยายามขวางทางมาโดยตลอด
โอบามาแคร์ ซึ่งไม่มีความเกี่ยวข้องกับงบประมาณโดยตรง กำลังถูกทั้งสองพรรคใช้เป็น "เครื่องต่อรอง" ทางการเมือง โดยฝ่ายเดโมแครต ซึ่งครองเสียงข้างมากในวุฒิส???าต้องการให้กฎหมายงบประมาณบรรจุโอบามาแคร์ลงไปด้วย แต่รีพับลิกัน ซึ่งเป็นเสียงส่วนใหญ่ในส???าผู้แทนราษฎรไม่เห็นด้วย และเสนอให้เลื่อนการบังคับใช้โอบามาแคร์ออกไปอีกหนึ่งปี มิฉะนั้นจะไม่ผ่านร่างงบประมาณสำหรับเป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานต่างๆของรัฐบาลกลางสหรัฐ ด้วยเหตุนี้เองจึงนำมาสู่เหตุการณ์ชัตดาวน์ในรอบ 17 ปี ที่กำลังปั่นป่วนสหรัฐ รวมไปถึงตลาดการเงินทั่วโลกอยู่ในขณะนี้

"โอบามาแคร์" คืออะไร

"โอบามาแคร์" คือชื่อเล่นของกฎหมายประกันสุข???าพที่มีชื่อยาวอย่างเป็นทางการว่า The Patient Protection and Affordable Care Act (PPACA) ซึ่งเกิดจากแนวคิดของประธานาธิบดีบารัค โอบามา และพรรคเดโมแครต ที่ช่วยกันผลักดันจนสามารถลงนามเป็นกฎหมายเมื่อปี 2010 และกำหนดให้มีผลบังคับใช้ในปีงบประมาณ 2014 ซึ่งเริ่มต้นไปแล้วเมื่อวันที่ 1 ตุลาคมที่ผ่านมา โดยกฎหมายฉบับนี้ถือเป็นการยกเครื่องระบบประกันสุข???าพครั้งใหญ่ที่สุดของสหรัฐนับตั้งแต่ช่วงทศวรรษ 1960 ด้วยเป้าหมายที่ต้องการให้ชาวอเมริกันทุกคนได้รับความคุ้มครองจากประกันสุข???าพอย่างทั่วถึง
โอบามาแคร์ ถือเป็นหนึ่งในนโยบายเด่นของปธน.โอบามาซึ่งต้องการขยายความคุ้มครองประสุข???าพให้ครอบคลุมชาวอเมริกันราว 15% หรือ 40-50 ล้านคน ซึ่งรวมถึงผู้มีฐานะยากจนและผู้สูงอายุ ที่ยังไม่ได้รับสิทธิประโยชน์ด้านการประกันสุข???าพจากนายจ้างหรือจากรัฐบาล โดยชาวอเมริกันที่เป็นผู้ทุพพล???าพ ผู้มีรายได้ต่ำ หรือผู้สูงวัยที่มีอายุตั้งแต่ 65 ปีขึ้นไปจะต้องได้รับประกันสุข???าพจากรัฐบาล ส่วนบุคคลที่ไม่เข้าข่ายได้รับประกันสุข???าพจากรัฐบาลหรือจากนายจ้างจะต้องซื้อประกันสุข???าพด้วยตนเอง
ในขณะที่กฎหมายกำหนดให้ชาวอเมริกันทุกคนต้องซื้อประกันสุข???าพ รัฐบาลก็จะให้ความช่วยเหลือผู้มีฐานะยากจนที่ไม่สามารถซื้อประกันดังกล่าวเองได้ ด้วยการจัดสรรงบประมาณอุดหนุนให้กรมธรรม์หรือเบี้ยประกันถูกลง
นอกจากนี้ กฎหมายยังกำหนดให้ผู้ประกอบการที่มีพนักงานหรือลูกจ้างทำงานเต็มเวลามากกว่า 50 คนจะต้องช่วยทำประกันสุข???าพให้ลูกจ้าง อย่างไรก็ดีข้อกำหนดนี้ได้รับการชะลอออกไปจนถึงปี 2015 เพื่อให้???าคธุรกิจได้มีเวลาเตรียมความพร้อมในการปฏิบัติตามกฎหมาย
สำหรับสาระสำคัญอื่นๆของกฎหมายฉบับนี้ ได้แก่ การห้ามบริษัทประกันปฏิเสธรับทำประกันแก่ผู้ที่มีปัญหาสุข???าพอยู่ก่อนแล้ว ซึ่งเป็นการเปิดโอกาสให้บุคคลที่มีส???าพความเจ็บป่วยมาก่อน (pre-existing conditions) สามารถซื้อประกันสุข???าพได้, การอนุญาตให้บุตรสามารถได้รับสิทธิประโยชน์ตามกรมธรรม์ประกันสุข???าพของบิดามารดาได้จนอายุถึง 26 ปี และการห้ามมิให้บริษัทประกันกำหนดเพดานมูลค่าสิทธิประโยชน์ตลอดชีพสำหรับบริการที่จำเป็น
โดยนับจากต้นปี 2014 บุคคลที่ไม่ปฏิบัติตามข้อกำหนดดังกล่าวจะต้องจ่ายค่าปรับ

เหตุใดรีพับลิกันจึงคัดค้าน "โอบามาแคร์" อย่างหัวชนฝา

พรรครีพับลิกันได้ต่อสู้เพื่อขัดขวางกฎหมายฉบับนี้อย่างสุดลิ่มทิ่มประตู นับตั้งแต่ที่ได้รับการเสนอจากโอบามาเป็นครั้งแรกในปี 2009 ซึ่งเป็นปีที่เขาเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีสมัยแรก หรือจนกระทั่งเมื่อกฎหมายผ่านการรับรองจากส???าคองเกรสในปี 2010 แล้วก็ตาม
สมาชิกส???านิติบัญญัติทุกคนจากพรรครีพับลิกันออกเสียงคัดค้านกฎหมายฉบับนี้ เนื่องเห็นว่าเป็นการเพิ่ม???าระให้กับประชาชนและ???าคเอกชน โดยมีการโหวตคว่ำกฎหมายนี้นับสิบๆครั้ง รวมถึงมีการยื่นฟ้องกฎหมายนี้ต่อศาล แต่การต่อสู้ในชั้นศาลได้สิ้นสุดลงในเดือนมิ.ย.2012 เมื่อศาลฎีกาของสหรัฐประกาศว่ากฎหมายไม่ขัดต่อรัฐธรรมนูญ
กฎหมายนี้ยังได้กลายเป็นประเด็นหลักที่สองพรรคนำมาใช้ในการหาเสียงเลือกตั้งประธานาธิบดีปี 2012 โดยมิตต์ รอมนีย์ ผู้สมัครชิงตำแหน่งปธน.จากพรรครีพับลิกัน ประกาศกร้าวว่าเขาจะผลักดันให้มีการยกเลิกกฎหมาย ขณะที่โอบามาให้คำมั่นว่าจะปกป้องกฎหมายฉบับนี้
รอมนีย์นำประเด็นดังกล่าวมาใช้โจมตีปธน.โอบามา โดยเรียกโอบามาแคร์ว่าเป็นกฎหมายที่ขัดขวางการจ้างงาน (job-killer) พร้อมอ้างผลสำรวจของหอการค้าอเมริกันที่ระบุว่า กฎหมายดังกล่าวลดโอกาสที่บริษัทถึงสามในสี่จะจ้างงานเพิ่ม
พรรครีพับลิกันมองว่า โอบามาแคร์จะเพิ่ม???าระงบประมาณด้านบริการสุข???าพ และทำให้สหรัฐขาดดุลงบประมาณและมีหนี้สิน???าครัฐเพิ่มขึ้นอย่างไม่มีที่สิ้นสุด นอกจากนี้ รัฐบาลไม่ควรบังคับประชาชนเรื่องการประกันสุข???าพด้วย
ในส่วนของ???าคธุรกิจนั้น ผู้ประกอบการขนาดเล็กเกรงว่าจะไม่สามารถรับ???าระค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้นในด้านนี้ไหวในอนาคต แม้จะได้ส่วนลดทาง???าษีจากการทำประกันให้ลูกจ้างก็ตาม
นักวิเคราะห์บางรายกล่าวว่ากฎหมายประกันสุข???าพโอบามาแคร์ทำให้นายจ้างรู้สึกกังวล ส่งผลให้มีการตัดชั่วโมงการทำงานของลูกจ้างเหลือเพียงสัปดาห์ละ 30 ชั่วโมง และธุรกิจหลายแห่ง เช่น วอลมาร์ท หันมาจ้างพนักงานประเ???ทชั่วคราวแทน เพื่อให้เป็นไปตามข้อบังคับของกฎหมายประกันสุข???าพโอบามาแคร์ที่กำหนดให้นายจ้างที่มีจำนวนพนักงานหรือลูกจ้างตั้งแต่ 50 คนขึ้นไป และมีการจ้างลูกจ้างทำงานมากกว่า 30 ชั่วโมง/สัปดาห์ ต้องทำประกันสุข???าพให้ลูกจ้าง

จนถึงตอนนี้ ยังไร้วี่แววว่าความขัดแย้งระหว่างสองขั้วจะยุติลง เมื่อสองฝ่ายยังไม่หันหน้ามาคุยกัน ในขณะที่กำหนดเส้นตายเพิ่มเพดานหนี้งวดเข้ามาทุกขณะ โดยบรรดานักวิเคราะห์เชื่อว่า วิกฤตการคลังที่สหรัฐกำลังเผชิญอยู่นี้เป็นเกมการเมือง ซึ่งทั่วโลกกำลังจับตาดูว่าตอนจบของเกมนี้จะออกมาเป็นแบบใด ระหว่าง Game Over หรือ Happy Ending
อินโฟเควสท์ โดย ปนัยดา ปัทมโกวิท/รัตนา โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--