My Community
ยินดีต้อนรับคุณ,
บุคคลทั่วไป
กรุณา
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?
1 ชั่วโมง
1 วัน
1 สัปดาห์
1 เดือน
ตลอดกาล
เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว:
SMF - Just Installed!
หน้าแรก
ช่วยเหลือ
ค้นหา
เข้าสู่ระบบ
สมัครสมาชิก
My Community
»
ข่าวที่มีผลต่อราคายาง
»
ข่าวทั่วไป
»
สรุปภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ ข่าวหุ้น-การเงิน 22 ธันวาคม พ.ศ. 2563
« หน้าที่แล้ว
ต่อไป »
พิมพ์
หน้า: [
1
]
ผู้เขียน
หัวข้อ: สรุปภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ ข่าวหุ้น-การเงิน 22 ธันวาคม พ.ศ. 2563 (อ่าน 757 ครั้ง)
Rakayang.Com
Administrator
Hero Member
กระทู้: 84897
สรุปภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ ข่าวหุ้น-การเงิน 22 ธันวาคม พ.ศ. 2563
«
เมื่อ:
ธันวาคม 22, 2020, 07:41:33 AM »
***ดาวโจนส์ปิดบวกเพียง 37.40 จุด วิตกไวรัสโควิดกลายพันธุ์ในอังกฤษ
ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday December 22, 2020 06:46 ?สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)
ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก: ดาวโจนส์ปิดบวกเพียง 37.40 จุด วิตกไวรัสโควิดกลายพันธุ์ในอังกฤษ
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเพียงเล็กน้อยเมื่อคืนนี้ (21 ธ.ค.) ขณะที่ดัชนี S&P500 และ Nasdaq ปิดในแดนลบ เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับการกลายพันธุ์ของไวรัสโควิด-19 ในอังกฤษ โดยข่าวดังกล่าวได้บดบังปัจจัยบวกจากการที่แกนนำในสภาคองเกรสสหรัฐสามารถบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจวงเงิน 9 แสนล้านดอลลาร์
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 30,216.45 จุด เพิ่มขึ้น 37.40 จุด หรือ +0.12% ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,694.92 จุด ลดลง 14.49 จุด หรือ -0.39% ส่วนดัชนี Nasdaq ปิดที่ 12,742.52 จุด ลดลง 13.12 จุด หรือ -0.10%
ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กได้รับแรงกดดันจากข่าวการพบเชื้อไวรัสโควิด-19 กลายพันธุ์ในอังกฤษ ซึ่งสามารถแพร่เชื้อได้รวดเร็วกว่าเดิมถึง 70% โดยข่าวดังกล่าวส่งผลให้หลายประเทศทั่วโลกพากันระงับเที่ยวบินจากอังกฤษ ซึ่งรวมถึงฝรั่งเศส อิตาลี เยอรมนี อินเดีย ฮ่องกง และแคนาดา
ข่าวการกลายพันธุ์ของโควิด-19 ในอังกฤษได้บดบังปัจจัยบวกจากรายงานที่ว่า แกนนำในสภาคองเกรสสหรัฐสามารถบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจวงเงิน 9 แสนล้านดอลลาร์ในเช้าวานนี้ตามเวลาไทย โดยมาตรการดังกล่าวมีเป้าหมายที่จะเยียวยาประชาชนและภาคธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
หุ้นกลุ่มสายการบินร่วงลงจากการที่หลายประเทศทั่วโลกระงับเที่ยวบินจากอังกฤษ โดยหุ้นอเมริกัน แอร์ไลน์ ดิ่งลง 2.48% หุ้นยูไนเต็ด แอร์ไลน์ ร่วงลง 1.53% หุ้นเดลต้า แอร์ไลน์ ปรับตัวลง 1.33% นอกจากนี้ ข่าวดังกล่าวยังได้ฉุดราคาหุ้นกลุ่มธุรกิจเรือสำราญและกลุ่มโรงแรมร่วงลงด้วย โดยหุ้นคาร์นิวัล คอร์ป ร่วงลง 1.86% หุ้นรอยัล คาริบเบียน ครูซ ลดลง 0.65% หุ้นหุ้นแมริออท อินเตอร์เนชั่นแนล ร่วงลง 1.16% หุ้นฮิลตัน เวิล์ดไวด์ โฮลดิ้ง ปรับตัวลง 0.6%
หุ้น 9 ใน 11 กลุ่มที่คำนวณในดัชนี S&P500 ปรับตัวลง นำโดยดัชนีหุ้นกลุ่มพลังงานที่ร่วงลงหนักสุดถึง 1.8% โดยหุ้นเอ็กซอน โมบิล ร่วงลง 1.83% หุ้นเชฟรอน ดิ่งลง 1.26% หุ้นโคโนโค ฟิลลิปส์ ร่วงลง 1.81% หุ้นออคซิเดนเชียล ปิโตรเลียม ทรุดลง 5.72%
หุ้นล็อคฮีด มาร์ติน ซึ่งเป็นผู้ผลิตเครื่องบินรบและอาวุธรายใหญ่ที่สุดของโลก ร่วงลง 1.88% หลังล็อคฮีด มาร์ติน ประกาศซื้อกิจการบริษัท Aerojet Rocketdyne Holdings ในวงเงิน 4.4 พันล้านดอลลาร์
หุ้นอินเตอร์เนชันแนล บิสิเนส แมชีนส์ (IBM) ดิ่งลง 1.95% หลัง IBM ประกาศแผนเข้าซื้อธุรกิจสตาร์ทอัพ Nordcloud โดยมีเป้าหมายที่จะเสริมความแข็งแกร่งของของธุรกิจคลาวด์คอมพิวติง
หุ้นเทสลาได้รับการคำนวนในดัชนี S&P500 แล้วเมื่อวานนี้ ซึ่งจะทำให้หุ้นเทสลามีน้ำหนักในดัชนี S&P500 ประมาณ 1.69% อย่างไรก็ดี หุ้นเทสลาปิดตลาดร่วงลง 6.49% เมื่อคืนนี้
หุ้นกลุ่มธนาคารดีดตัวขึ้น หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ประกาศผ่อนปรนกฎข้อบังคับในการซื้อหุ้นคืนของธนาคารพาณิชย์ โดยหุ้นเจพีมอร์แกน เชส พุ่งขึ้น 3.75% หุ้นโกลด์แมน แซคส์ ทะยานขึ้น 6.07% หุ้นแบงก์ ออฟ อเมริกา พุ่งขึ้น 3.73% หุ้นมอร์แกน สแตนลีย์ พุ่งขึ้น 5.69%
นักลงทุนจับตาข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่มีกำหนดเปิดเผยในสัปดาห์นี้ ซึ่งได้แก่ ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 3 (ประมาณการครั้งสุดท้าย), ยอดขายบ้านมือสองเดือนพ.ย., รายได้และการใช้จ่ายส่วนบุคคลเดือนพ.ย., ดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) เดือนพ.ย., ดัชนีราคาบ้านเดือนต.ค., ยอดขายบ้านใหม่เดือนพ.ย., ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนธ.ค.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน, จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนพ.ย.
***น้ำมัน WTI ปิดร่วง $1.36 หวั่นโควิดกลายพันธุ์ฉุดดีมานด์น้ำมัน
ข่าวต่างประเทศ Tuesday December 22, 2020 06:59 ?สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเกือบ 3% เมื่อคืนนี้ (21 ธ.ค.) เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลว่า การกลายพันธุ์ของไวรัสโควิด-19 ในอังกฤษซึ่งทำให้หลายประเทศพากันระงับเที่ยวบินจากอังกฤษนั้น จะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและความต้องการใช้น้ำมัน
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนม.ค. ร่วงลง 1.36 ดอลลาร์ หรือ 2.8% ปิดที่ 47.74 ดอลลาร์/บาร์เรล โดยสัญญาน้ำมันดิบ WTI เดือนม.ค.ได้ครบกำหนดส่งมอบแล้วในวันจันทร์ที่ 21 ธ.ค.
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนก.พ. ร่วงลง 1.35 ดอลลาร์ หรือ 2.6% ปิดที่ 50.91 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบร่วงลงหลังจากมีรายงานพบเชื้อไวรัสโควิด-19 กลายพันธุ์ในอังกฤษ ซึ่งสามารถแพร่เชื้อได้รวดเร็วกว่าเดิมถึง 70% โดยข่าวดังกล่าวส่งผลให้หลายประเทศทั่วโลกพากันระงับเที่ยวบินจากอังกฤษ ซึ่งรวมถึงฝรั่งเศส อิตาลี เยอรมนี อินเดีย ฮ่องกง และแคนาดา
ข่าวดังกล่าวทำให้นักลงทุนวิตกกังวลว่าจะส่งผลกระทบต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ และยังได้บดบังปัจจัยบวกจากรายงานที่ว่า แกนนำในสภาคองเกรสสหรัฐสามารถบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจวงเงิน 9 แสนล้านดอลลาร์ในเช้าวานนี้ตามเวลาไทย โดยมาตรการดังกล่าวมีเป้าหมายที่จะเยียวยาประชาชนและภาคธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
นอกจากนี้ การแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ยังสร้างแรงกดดันต่อตลาดน้ำมัน โดยดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน เพิ่มขึ้น 0.02% แตะที่ 90.0400 เมื่อคืนนี้
ทั้งนี้ การแข็งค่าของดอลลาร์ทำให้สัญญาน้ำมันซึ่งกำหนดราคาเป็นดอลลาร์นั้น มีราคาแพงขึ้น และมีความน่าดึงดูดน้อยลงสำหรับนักลงทุนที่ถือเงินสกุลอื่นๆ
นักลงทุนจับตาการเปิดเผยตัวเลขสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) ในวันพรุ่งนี้ เวลา 22.30 น.ตามเวลาไทย
***ภาวะตลาดทองคำนิวยอร์ก: ทองปิดลบ $6.1 เหตุดอลล์แข็งสกัดแรงซื้อ
ข่าวต่างประเทศ Tuesday December 22, 2020 07:20 ?สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)
สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (21 ธ.ค.) เนื่องจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ได้สกัดแรงซื้อทองคำ หลังจากที่ช่วงแรก สัญญาทองคำดีดตัวขึ้นขานรับข่าวแกนนำในสภาคองเกรสสหรัฐสามารถบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจวงเงิน 9 แสนล้านดอลลาร์
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนก.พ. ลดลง 6.1 ดอลลาร์ หรือ 0.32% ปิดที่ 1,882.8 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนมี.ค. เพิ่มขึ้น 34.6 เซนต์ หรือ 1.33% ปิดที่ 26.379 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค. ลดลง 27 ดอลลาร์ หรือ 2.59% ปิดที่ 1,016.1 ดอลลาร์/ออนซ์
ส่วนสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมี.ค. ร่วงลง 55.60 ดอลลาร์ หรือ 2.3% ปิดที่ 2,316.40 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาทองคำได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ โดยดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน เพิ่มขึ้น 0.02% แตะที่ 90.0400 เมื่อคืนนี้
ทั้งนี้ การแข็งค่าของดอลลาร์ทำให้สัญญาทองคำซึ่งกำหนดราคาเป็นดอลลาร์นั้น มีราคาแพงขึ้น และมีความน่าดึงดูดน้อยลงสำหรับนักลงทุนที่ถือเงินสกุลอื่นๆ
อย่างไรก็ดี สัญญาทองคำได้รับแรงหนุนในช่วงแรก หลังจากแกนนำในสภาคองเกรสสหรัฐสามารถบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจวงเงิน 9 แสนล้านดอลลาร์ในเช้าวานนี้ตามเวลาไทย โดยมาตรการดังกล่าวมีเป้าหมายที่จะเยียวยาประชาชนและภาคธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
นักลงทุนจับตาข่าวการกลายพันธุ์ของไวรัสโควิด-19 ในอังกฤษซึ่งสามารถแพร่เชื้อได้รวดเร็วกว่าเดิมถึง 70% โดยข่าวดังกล่าวส่งผลให้หลายประเทศทั่วโลกพากันระงับเที่ยวบินจากอังกฤษ ซึ่งรวมถึงฝรั่งเศส อิตาลี เยอรมนี อินเดีย ฮ่องกง และแคนาดา
(รีบทักด่วนๆ)รู้ทุกเรื่องเกี่ยวกับ"ราคายาง"ใครที่ยังไม่มีไอดีและยังไม่เคยสมัครเข้าไปแจ้งสมัครได้ครับที่ไลน์ >>
https://lin.ee/7DBOMZD
::::ดูวิธีการสมัครและอัปเกรดได้ที่นี่
http://rakayang.net/vip/howtoregisterpremiumid.php
:::สอบถามเกี่ยวกับพรีเมี่ยมไอดี(วิธีสมัคร สมัครผ่านไลน์) กดแอดไลน์ >>
https://line.me/ti/p/oOaV5zv6N2
:::หรือ ให้แจ้งไปที่ไลน์นี้ครับ
https://lin.ee/7DBOMZD
หรืออีกช่องทางด่วน โทร 0849693999
บันทึกการเข้า
พิมพ์
หน้า: [
1
]
« หน้าที่แล้ว
ต่อไป »
My Community
»
ข่าวที่มีผลต่อราคายาง
»
ข่าวทั่วไป
»
สรุปภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ ข่าวหุ้น-การเงิน 22 ธันวาคม พ.ศ. 2563