ผู้เขียน หัวข้อ: สรุปภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ ประจำวันศุกร์ที่ 6 พฤษภาคม 2563  (อ่าน 397 ครั้ง)

Rakayang.Com

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 83283
    • ดูรายละเอียด

***ความเห็นแง่ลบของ3ปธ.เฟดฉุดราคาน้ำมันร่วงเกือบ2%

8 พฤษภาคม 2563  ที่มา กรุงเทพธุรกิจ

ความเห็นแง่ลบของ3ปธ.เฟดฉุดราคาน้ำมันร่วงเกือบ2% ขณะมีการเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานโดยรวมพุ่งขึ้นสู่ระดับ 33.5 ล้านรายในช่วง 7 สัปดาห์ที่ผ่านมา

ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส ปิดตลาดวันพฤหัสบดี(7พ.ค.)ปรับตัวร่วงลงเกือบ 2% หลังจากประธานเฟด3แห่งของสหรัฐแสดงความเห็นแง่ลบเกี่ยวกับกิจกรรมทางเศรษฐกิจ และมีการเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานโดยรวมพุ่งขึ้นสู่ระดับ 33.5 ล้านรายในช่วง 7 สัปดาห์ที่ผ่านมา

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส ส่งมอบเดือนมิ.ย. ซึ่งมีการซื้อขายที่ตลาดไนเม็กซ์ ลดลง 44 เซนต์ ปิดที่ 23.55 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ ส่งมอบเดือนก.ค. ลดลง 26 เซนต์ ปิดที่ 29.46 ดอลลาร์/บาร์เรล

ทั้งนี้ บรรดานายธนาคารกลางสหรัฐสาขาต่างๆ 3 แห่งให้ความเห็นไปในทางเดียวกันว่า ไม่คาดหวังว่ากิจกรรมทางเศรษฐกิจของสหรัฐจะฟื้นตัว แม้ว่ารัฐต่างๆเริ่มทยอยผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์สกัดการแพร่ระบาดไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่(โควิด-19) กันแล้ว

นอกจากนี้ ราคาน้ำมันยังถูกกดดันจากข้อมูลภารแรงงานสหรัฐหลังตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานโดยรวมพุ่งขึ้นสู่ระดับ 33.5 ล้านรายในช่วง 7 สัปดาห์ที่ผ่านมา นับตั้งแต่ที่สหรัฐประกาศล็อกดาวน์ในรัฐต่างๆในช่วงครึ่งหลังของเดือนมี.ค.

ข้อมูลตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานที่เพิ่มขึ้นอย่างมาก บ่งชี้ถึงการปลดพนักงานอย่างกว้างขวางในภาคอุตสาหกรรมต่างๆของเศรษฐกิจสหรัฐ และยังคงมีการปลดพนักงานเป็นจำนวนมาก แม้ว่าหลายพื้นที่ของประเทศเริ่มเปิดเศรษฐกิจอีกครั้งแล้วก็ตาม

***ดาวโจนส์ปิดบวกขานรับคลายล็อกดาวน์

ดัชนีดาวโจนส์ ปิดตลาดวันพฤหัสบดี(7พ.ค.)ปรับตัวขึ้น ขานรับการผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ของสหรัฐ และข่าวดีจากบริษัทโมเดอร์นาที่เปิดเผยว่าได้รับอนุญาตจากเอฟดีเอให้เดินหน้าทดลองวัคซีนต้านโรคโควิด-19 ระยะที่2

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 211.25 จุด หรือ 0.89% ปิดที่ 23,875.89 จุด ดัชนีเอสแอนด์พี 500 เพิ่มขึ้น 32.77 จุด หรือ 1.15% ปิดที่ 2,881.19 จุด และดัชนีแนสแด็ก เพิ่มขึ้น 125.27 จุด หรือ 1.41% ปิดที่ 8,979.66 จุด

ทั้งนี้ ราคาหุ้นของบริษัทโมเดอร์นาพุ่งขึ้นในวันนี้ หลังจากที่บริษัทได้รับการอนุมัติจากสำนักงานอาหารและยาของสหรัฐ (เอฟดีเอ)ให้ทำการทดลองวัคซีนต้านเชื้อไวรัสโควิด-19 ในเฟส 2

โมเดอร์นา ระบุว่า บริษัทจะเริ่มทำการทดลองวัคซีนในเฟส 2 กับอาสาสมัครจำนวน 600 รายในไม่ช้า และหวังว่าจะเริ่มทดลองในเฟส 3 ได้ในช่วงฤดูร้อนนี้ ซึ่งจะทำให้ทางบริษัทมีแนวโน้มที่จะได้รับการอนุมัติในการผลิตวัคซีนต้านเชื้อไวรัสโควิด-19 อย่างเร็วที่สุดในปีหน้า

ด้านเวียคอม ซีบีเอส อิงค์ บริษัทสื่อยักษ์ใหญ่ของสหรัฐ เปิดเผยกำไรและรายได้สูงกว่าคาดในไตรมาสแรก โดยได้รับแรงหนุนจากสมาชิกที่เพิ่มขึ้น หลังจากรัฐบาลประกาศมาตรการล็อกดาวน์เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19

ทั้งนี้ เวียคอมซีบีเอสเปิดเผยว่า บริษัทมีรายได้ 6.67 พันล้านดอลลาร์ สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ระดับ 6.59 พันล้านดอลลาร์ ขณะที่รายได้จากบริการสตรีมมิงและดิจิทัลวิดีโอพุ่งขึ้น 51% สู่ระดับ 471 ล้านดอลลาร์

นอกจากนี้ บริษัทมีกำไร 1.13 ดอลลาร์/หุ้น สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ระดับ 0.96 ดอลลาร์/หุ้น

ขณะเดียวกัน บริษัทมีสมาชิกของบริการสตรีมมิงจำนวนกว่า 13.5 ล้านรายในสหรัฐ เพิ่มขึ้น 50% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว

ทั้งนี้ เวียคอมได้เสร็จสิ้นการควบรวมกิจการกับซีบีเอสในเดือนธ.ค.ปีที่แล้ว เพื่อรับมือกับการแข่งขันจากเน็ตฟลิกซ์, วอลท์ดิสนีย์, แอปเปิล อิงค์ รวมทั้งบริษัทสื่ออื่นๆ

กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกจำนวน 3.17 ล้านรายในสัปดาห์ที่แล้ว โดยได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 โดยตัวเลขดังกล่าวสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 3.05 ล้านราย

ทั้งนี้ ตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานโดยรวมพุ่งขึ้นสู่ระดับ 33.5 ล้านรายในช่วง 7 สัปดาห์ที่ผ่านมา นับตั้งแต่ที่สหรัฐประกาศล็อกดาวน์ในรัฐต่างๆในช่วงครึ่งหลังของเดือนมี.ค.เพื่อสกัดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19

อย่างไรก็ดี ตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานที่มีการรายงานในวันนี้ถือว่าต่ำที่สุดในช่วง 7 สัปดาห์ดังกล่าว

***ราคาทองทะยานกว่า37ดอลล์หลังสหรัฐเผยตัวเลขคนตกงานพุ่ง

ราคาทองฟิวเจอร์ ปิดตลาดวันพฤหัสบดี(7พ.ค.)พุ่งขึ้นกว่า 37 ดอลลาร์ ขณะที่นักลงทุนพากันซื้อทองในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย หลังการเปิดเผยตัวเลขผู้ว่างงานที่พุ่งขึ้นในสหรัฐ ซึ่งทำให้เกิดความวิตกเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจตกต่ำทั่วโลก

สัญญาทองคำตลาดโคเม็กซ์ ส่งมอบเดือนมิ.ย. ดีดตัวขึ้น 37.30 ดอลลาร์ ปิดที่ราคา 1,725.80 ดอลลาร์/ออนซ์

ทั้งนี้ ตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานโหมกระพือความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบของโควิด-19 ที่มีต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ ปัจจัยนี้กระตุ้นให้นักลงทุนหันถือครองสินทรัพย์เสี่ยงต่ำ และดันราคาทองคำในวันพฤหัสบดี(7พ.ค.) พุ่งแรง โดยราคาทองคำตลาดโคเม็กซ์ งวดส่งมอบเดือนมิถุนายน เพิ่มขึ้น 37.30 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,725.80 ดอลลาร์

กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกจำนวน 3.17 ล้านรายในสัปดาห์ที่แล้ว โดยได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 โดยตัวเลขดังกล่าวสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 3.05 ล้านราย

ส่วนในวันศุกร์นี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐจะรายงานตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร ซึ่งนักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าตัวเลขดังกล่าวจะดิ่งลง 21.5 ล้านตำแหน่งในเดือนเม.ย. ขณะที่อัตราการว่างงานจะพุ่งขึ้นสู่ระดับ 16%

นายเจมส์ บูลลาร์ด ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาเซนต์หลุยส์ กล่าวว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรที่จะมีการเปิดเผยในวันพรุ่งนี้ จะเป็นหนึ่งในตัวเลขการจ้างงานที่ย่ำแย่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของสหรัฐ

?อัตราการว่างงานจะพุ่งสูงมาก โดยอาจสูงกว่า 20%? นายบูลลาร์ดกล่าว

นายบูลลาร์ดกล่าวเสริมว่า ผลกระทบส่วนใหญ่จากการแพร่ระบาดจากไวรัสโควิด-19 จะปรากฎในไตรมาส 2 แต่คาดว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะมีการขยายตัวอย่างรวดเร็วในไตรมาส 3 และอัตราการว่างงานจะกลับสู่ตัวเลขหลักเดียวในไตรมาส 4 ขณะที่เศรษฐกิจฟื้นตัวขึ้น