'ยุคล'เร่งขึ้นทะเบียนเกษตรกรสวนยาง!รับเงินช่วยเหลือปัจจัยการผลิต
ข่าวทั่วไป หนังสือพิมพ์แนวหน้า -- พุธที่ 11 กันยายน 2556 14:15:00 น.
11 ก.ย.56 นายยุคล ลิ้มแหลมทอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า หลังจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้มีมติเห็นชอบโครงการแก้ไขปัญหายางพาราทั้งระบบ ปี 2557 ตามมติคณะกรรมการนโยบายยางธรรมชาติ (กนย.) ที่ได้เสนอปรับปรุงมาตรการแก้ไขปัญหายางพาราระยะสั้นเร่งด่วน โดยอนุมัติงบกลางรายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็นเพื่อการดำเนินงานตามแนวทางแก้ไขปัญหาระยะสั้นของโครงการ วงเงิน 21,248.95 ล้านบาท จากเดิมที่ได้อนุมัติไว้แล้วจำนวน 5,628.01 ล้านบาท โดยเพิ่มขึ้นจำนวน 15,620.94 ล้านบาท เพื่อจ่ายเงินช่วยเหลือในด้านปัจจัยการผลิตแก่เกษตรกรชาวสวนยางที่มีพื้นที่ยางเปิดกรีดไม่เกิน 25 ไร่ ตามพื้นที่เปิดกรีดจริง ส่วนเกษตรกรที่มีพื้นที่ยางเปิดกรีด 25 ไร่ขึ้นไป จะได้รับความช่วยเหลือไม่เกิน 25 ไร่ ในอัตราไร่ละ 2,520 บาท
ทั้งนี้ ในส่วนความคืบหน้าการขึ้นทะเบียนเกษตรกรผู้ปลูกยางที่จะเข้าร่วมโครงการจำนวน 991,717 ราย พื้นที่เป้าหมายประมาณ 8.97 ล้านไร่ ขณะนี้มีเกษตรกรมาแจ้งขึ้นทะเบียนแล้วประมาณ 5 หมื่นราย จึงได้กำชับกรมส่งเสริมการเกษตรเร่งประชาสัมพันธ์ให้เกษตรกรมาแจ้งขึ้นทะเบียน เพื่อให้กระบวนการตรวจสอบพื้นที่และการจ่ายเงินช่วยเหลือผ่านบัญชีธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เกิดความรวดเร็วมากขึ้น
อย่างในก็ตาม ด้านความคืบหน้าการดำเนินการในการช่วยเหลือเกษตรกรที่ไม่มีเอกสิทธิ์นั้น กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จะหารือร่วมกันเพื่อหาแนวทางช่วยเหลือเกษตรกรชาวสวนยาง ???ายใต้ขอบเขตของกฎหมาย ซึ่งเบื้องต้นทางกรมป่าไม้ได้มีแนวทางและวิธีดำเนินการในพื้นที่ป่าอยู่แล้ว เมื่อได้ข้อมูลการแจ้งขึ้นทะเบียนเกษตรกรว่ามีจำนวนเกษตรกรที่ไม่มีเอกสารสิทธิ์มีจำนวนเท่าใด และอยู่ที่ใดบ้าง ก็น่าจะมีแนวทางที่ชัดเจนในการให้ความช่วยเหลือในเร็วๆ นี้
สำหรับมาตรการระยะปานกลางที่รัฐบาลจะเข้าไปสนับสนุนสินเชื่อดอกเบี้ยผ่อนปรน วงเงินสินเชื่อ 5,000 ล้านบาท เพื่อให้สถาบันเกษตรกรที่มีศักย???าพได้ใช้ประโยชน์จากโรงงานแปรรูปที่มีการสร้างไว้แล้ว หรือลงทุนจัดสร้างโรงงานใหม่ โดยเสนอโครงการเพื่อขอรับการสนับสนุนเงินสินเชื่อจาก ธ.ก.ส.นั้น ได้มอบหมายให้องค์การสวนยาง (อ.ส.ย.) เป็นพี่เลี้ยงให้กลุ่มเกษตรกรที่มีความเข็งแข็งในการตั้งโรงงานขึ้นมา หรือปรับปรุงโรงงานที่มีโครงสร้างเดิมอยู่แล้ว โดยพิจารณาเรื่องการตลาดและเชื่อมโยงกับอุตสาหกรรมปลายน้ำ เช่น โรงผลิตน้ำยางข้น เพื่อป้อนโรงงานผลิตถุงมือยาง เป็นต้น
ขณะที่ส่วนของอุตสาหกรรมปลายน้ำ ซึ่งธนาคารออมสินจะเข้ามาดำเนินการสนับสนุนสินเชื่อให้แก่กลุ่มอุตสาหกรรม ผู้ประกอบการรายใหญ่ เพื่อสนับสนุนการขยายกำลังการผลิตและการปรับเปลี่ยนเครื่องจักรการผลิต ในวงเงินสินเชื่อ 15,000 ล้านบาทนั้น จะดำเนินการโดยส???าอุตสาหกรรมฯ ที่จะเสนอโครงการเข้ามายังสถาบันการเงิน ที่จะเป็นผู้พิจารณาความเหมาะสมและความเป็นไปได้ของโครงการ