ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก: ดาวโจนส์ปิดร่วง 196.10 จุด วิตกสงครามการค้า,หุ้นค้าปลีกออนไลน์ดิ่งหนัก
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงติดต่อกันเป็นวันที่ 8 เมื่อคืนนี้ (21 มิ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับการทำสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและประเทศต่างๆ โดยรายงานล่าสุดระบุว่า อินเดียได้ประกาศเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากสหรัฐ เพื่อตอบโต้สหรัฐที่เรียกเก็บภาษีนำเข้าเหล็กและอลูมิเนียมจากอินเดียก่อนหน้านี้ ขณะที่หุ้นกลุ่มค้าปลีกออนไลน์ร่วงลงอย่างหนัก ซึ่งรวมถึงหุ้นอเมซอน หลังจากศาลฎีกาสหรัฐมีคำพิพากษาให้บริษัทค้าปลีกออนไลน์เรียกเก็บภาษีขายจากลูกค้า
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 24,461.70 จุด ลดลง 196.10 จุด หรือ -0.80% ขณะที่ดัชนี S&P 500 ปิดที่ 2,749.76 จุด ลดลง 17.56 จุด หรือ -0.63% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,712.95 จุด ลดลง 68.56 จุด หรือ -0.88%
ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กยังคงได้รับแรงกดดันจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับการทำสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและประเทศต่างๆ โดยล่าสุดกระทรวงการคลังของอินเดียประกาศเรียกเก็บภาษีนำเข้าถั่วอัลมอนด์จากสหรัฐในอัตรา 20% และเก็บภาษีนำเข้าวอลนัทจากสหรัฐในอัตราสูงถึง 120% โดยจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 4 ส.ค. นอกจากนี้ อินเดียยังประกาศเรียกเก็บภาษีต่อสินค้าเกษตร และผลิตภัณฑ์เหล็กของสหรัฐ เพื่อเป็นการตอบโต้สหรัฐที่เรียกเก็บภาษีเหล็กและอลูมิเนียมจากอินเดียก่อนหน้านี้
ทางด้านสหภาพยุโรป (EU) ประกาศเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากสหรัฐ ซึ่งรวมถึงสินค้าเกษตร, เหล็ก และอลูมิเนียมจากสหรัฐ คิดเป็นมูลค่าราว 2.8 พันล้านยูโร หรือ 3.24 พันล้านดอลลาร์ โดยจะเริ่มมีผลบังคับใช้ในวันนี้ เพื่อตอบโต้สหรัฐที่เรียกเก็บภาษีเหล็ก 25% และอลูมิเนียม 10% ที่นำเข้าจาก EU ซึ่งมีผลบังคับใช้ไปตั้งแต่เมื่อวันที่ 1 มิ.ย.ที่ผ่านมา
ส่วนสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีนนั้น ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ขู่ว่าจะเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจีนรอบใหม่ในอัตรา 10% วงเงิน 2 แสนล้านดอลลาร์ ขณะที่รัฐบาลจีนก็เตือนว่าพร้อมจะตอบโต้อย่างรุนแรง หากสหรัฐเรียกเก็บภาษีสินค้าจากจีนเพิ่มอีก 10% ตามที่ปธน.ทรัมป์ขู่ไว้
หุ้นกลุ่มอุตสาหกรรมยังคงได้รับแรงกดดันจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับสงครามการค้า โดยหุ้นโบอิ้ง ร่วงลง 1.5% หุ้นแคทเธอร์พิลลาร์ ดิ่งลง 2.5% หุ้น 3M ปรับตัวลง 1.3% ยูไนเต็ด เทคโนโลยีส์ ลดลง 1.5% หุ้นเอเมอร์สัน อิเล็กทริก ร่วงลง 1.7% และหุ้นอีตัน คอร์ป ร่วงลงกว่า 2%
หุ้นกลุ่มค้าปลีกออนไลน์ร่วงลงอย่างหนัก หลังจากศาลฎีกาสหรัฐมีคำพิพากษาให้รัฐต่างๆในสหรัฐมีอำนาจในการบังคับให้บริษัทค้าปลีกออนไลน์เรียกเก็บภาษีขายจากลูกค้า โดยหุ้นอเมซอน ร่วงลง 1.3% หุ้นเวย์แฟร์ ดิ่งลง 1.6% หุ้นอีเบย์ ร่วงลง 3.2% หุ้น Etsy ลดลง 1.4% หุ้นโอเวอร์สต็อก ดิ่งลง 7.1% และหุ้นช็อปปิฟาย ร่วงลง 4.4%
หุ้นกลุ่มพลังงานร่วงลงตามทิศทางราคาน้ำมันในตลาดโลก หลังจากมีรายงานว่า รัสเซียและซาอุดิอาระเบียอาจสนับสนุนให้มีการปรับเพิ่มเพดานการผลิตในการประชุมกลุ่มโอเปกที่กรุงเวียนนาในวันนี้ โดยหุ้นเอ็กซอน โมบิล ร่วงลง 1% หุ้นเชฟรอน ดิ่งลง 2.1% หุ้นอ็อคซิเดนเชียล ปิโตรเลียม ลดลง 1.3% หุ้นมาราธอน ออยล์ ร่วงลง 5.4% และหุ้นเชซาพีค เอนเนอร์จี ลดลง 0.2%
หุ้นกลุ่มรถยนต์ร่วงลงเช่นกัน หลังจากบริษัทเดมเลอร์ได้ปรับลดคาดการณ์ผลกำไรในปีงบการเงิน 2561 โดยหุ้นเจเนอรัล มอเตอร์ (GM) ร่วงลง 2% หุ้นฟอร์ด มอเตอร์ ปรับตัวลง 1.4% หุ้นเฟียต ไคร์สเลอร์ ดิ่งลง 4.1%
สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่มีการเปิดเผยเมื่อคืนนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลง 3,000 ราย สู่ระดับ 218,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว สวนทางนักวิเคราะห์ที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 220,000 ราย ขณะที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาฟิลาเดลเฟีย เปิดเผยดัชนีภาวะธุรกิจในภูมิภาคมิด-แอตแลนติก ดิ่งลงสู่ระดับ 19.9 ในเดือนมิ.ย. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ย.2559 จากระดับ 34.4 ในเดือนพ.ค.
ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐที่มีกำหนดเปิดเผยในวันนี้ได้แก่ ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการขั้นต้นเดือนมิ.ย.จากมาร์กิต และดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตขั้นต้นเดือนมิ.ย.จากมาร์กิต