ผู้เขียน หัวข้อ: ของขายไม่ออกกำลังผลิตรถยนต์-ฮาร์ดดิสก์ร่วงระนาว กลุ่มอุตฯแย่ดัชนีติดลบ4.54%  (อ่าน 1277 ครั้ง)

Rakayang.Com

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 84444
    • ดูรายละเอียด
ของขายไม่ออกกำลังผลิตรถยนต์-ฮาร์ดดิสก์ร่วงระนาว กลุ่มอุตฯแย่ดัชนีติดลบ4.54%

 
 
ข่าวเศรษฐกิจ หนังสือพิมพ์แนวหน้า -- พฤหัสบดีที่ 29 สิงหาคม 2556 06:00:00 น.
สศอ.เผยดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรมเดือนกรกฎาคมติดลบ 4.54% สาเหตุหลักมาจากยอดผลิตของฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์, เหล็ก, อาหารทะเลกระป๋องและแช่แข็ง, รถยนต์, เครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านดาหน้าปรับลด เตรียมหั่นเป้าจีดีพีอุตฯอีกรอบ ยอมรับช่วงนี้ไร้ปัจจัยบวก ถึงค่าเงินบาทจะอ่อน แต่ถ้าขายไม่ได้ไม่มีออเดอร์ก็ไร้ประโยชน์
นายสมชาย หาญหิรัญ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) เปิดเผยดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม (MPI) โดยรวม 7 เดือนแรกของปี 2556?เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ลดลง 1.5% เฉพาะเดือนกรกฎาคม ลดลง 4.54% เมื่อเทียบกับปีก่อน ส่วนการใช้กำลังการผลิตเฉลี่ย 7 เดือนแรกของปี 2556 อยู่ที่ระดับ?65.56% สำหรับด้านการส่งออกสินค้าอุตสาหกรรม 7 เดือนแรกขยายตัว 3.2%
 

สำหรับ???าวะการผลิตอุตสาหกรรมเดือน กรกฎาคม?2556 ของอุตสาหกรรมที่สำคัญเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนพบว่า อุตสาหกรรมรถยนต์หดตัว 5.56% เนื่องจากการจำหน่ายในประเทศลดลง เป็นผลจากการส่งมอบรถยนต์คันแรกให้ผู้บริโ???คใกล้หมดลงแล้ว โดย ณ สิ้นเดือนกรกฎาคมส่งมอบไปแล้ว 1.06 ล้านคัน เหลือรอการส่งมอบ 1.92 แสนคัน ของจำนวนผู้ที่ขอใช้สิทธิ 1.25 ล้านราย
อุตสาหกรรมไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนการผลิตปรับตัวลดลง
โดยเฉพาะ HARD DISK DRIVE ลดลง 7.31% ตาม???าวะการชะลอตัวของตลาดคอมพิวเตอร์ เนื่องจากการขยายตัวของสมาร์ทโฟน และแท็บเลต
อุตสาหกรรมแปรรูปและการถนอมสัตว์น้ำ เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน การผลิตลดลง 31.11% จากสินค้ากุ้งแช่แข็งเป็นหลัก เนื่องจากยังไม่สามารถแก้ไขปัญหาการระบาดของโรคกุ้งตายด่วนตั้งแต่ปลายปีก่อน รวมถึงปัญหาตลาดในประเทศอิ่มตัวและตลาดส่งออกหดตัวจาก???าวะเศรษฐกิจโลกชะลอตัว
อุตสาหกรรมเหล็กและเหล็กกล้า เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน การผลิตลดลง 6.29% โดยเหล็กทรงยาว มีสาเหตุจากการสั่งซื้อไปมากแล้วในเดือนก่อน รวมถึงการใช้เหล็กที่ลดลงในช่วงฤดูฝนที่การก่อสร้างชะลอตัว เหล็กทรงแบน มีสาเหตุจากความต้องการในอุตสาหกรรมต่อเนื่องที่ลดลง ทั้งยานยนต์ เครื่องใช้ไฟฟ้า
อุตสาหกรรมสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่ม เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน การผลิตเสื้อผ้าสำเร็จรูปลดลง?1.17% เนื่องจากคำสั่งซื้อทั้งในประเทศและต่างประเทศลดลง?จาก???าวะเศรษฐกิจโลกชะลอตัว ต้นทุนการผลิตที่ปรับตัวสูงขึ้นจากราคาวัตถุดิบและการจ้างงานรวมถึงการที่ผู้ผลิตส่วนหนึ่งย้ายฐานการผลิตไป เวียดนาม ลาว และกัมพูชา
?อย่างไรก็ดีการที่เศรษฐกิจยุโรปและสหรัฐ เริ่มมีสัญญาณดีขึ้น ทำให้ล่าสุดส่งออกไปยุโรปกลับมาเป็นบวกที่ 3.47% หลังติดลบต่อเนื่องมา 3?เดือน สินค้าหลักที่ส่งไปยังยุโรปและสหรัฐ ก็คือกลุ่มเดียวกันกับจีน?คืออิเล็กทรอนิกส์ เครื่องคอมพิวเตอร์?รวมถึงอัญมณี ชิ้นส่วนยานยนต์ ประกอบกับค่าเงินบาทที่อ่อนค่าลงระยะนี้น่าจะช่วยหนุนให้การส่งออกใน 2-3 เดือนต่อจากนี้ขยายตัวและส่งผลให้การผลิตโดยรวมดีขึ้น?นายสมชายกล่าว
ในเดือนตุลาคมนี้ สศอ.จะปรับประมาณการอัตราการเติบโตผลิต???ัณฑ์มวลรวมประเทศ(จีดีพี)???าคอุตสาหกรรม เดิมประมาณการจีดีพีอุตสาหกรรมและผลผลิต???าคอุตสาหกรรมปีนี้ที่ 3-4% และ 0.5-1% ตามลำดับ เพราะต้องการดูข้อมูลเดือนสิงหาคม-ตุลาคมก่อนว่าการส่งออกไปสหรัฐและยุโรปจะช่วยให้ดีขึ้นได้หรือไม่ แต่ถ้าไม่ดีขึ้น เดือนพฤศจิกายนก็คงหวังได้ยากเพราะต้องเทียบกับฐานปีที่แล้วที่สูงมาก ถ้าเป็นแบบนั้นก็ต้องลดประมาณการลงเพราะตอนนี้ไม่มีปัจจัยที่เป็นบวกต่อเศรษฐกิจ
?แม้รัฐบาลจะเตรียมออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศ เชื่อว่าจะช่วยไม่มาก ตัวเลขเศรษฐกิจของประเทศคงกลับมาเติบโตยาก เพราะรายได้ประเทศราว 70-80% ยังมาจากการส่งออก สถานการณ์ส่งออกช่วง 7 เดือนไม่ดีนัก ส่วนค่าเงินบาทแม้อ่อนค่าลงเป็นประโยชน์ต่อผู้ส่งออกแต่ถ้าคำสั่งซื้อหด ผู้ส่งออกก็ขายสินค้าไม่ได้?นายสมชายกล่าว
ด้านนายมนตรี โสคติยานุรักษ์ ผู้อำนวยการหลักสูตรรัฐประศาสนศาสตร์มหาบัณฑิต (MPA) สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า)กลับมองว่าเศรษฐกิจในครึ่งปีหลังไม่น่ากังวล
เพราะเงินบาทที่อ่อนค่าส่งผลดีต่อการฟื้นตัวด้านการส่งออกโดยมีปัจจัยจากประเทศคู่ค้าของไทยทั้งสหรัฐ, ยุโรป และญี่ปุ่นที่เศรษฐกิจมีแนวโน้มเติบโตดีกว่าที่คาดทำให้มีความต้องการสั่งซื้อสินค้าเพิ่มขึ้น ทำให้โอกาสในการส่งออกดีขึ้น
ขณะเดียวกันงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2557 ที่รัฐบาลใช้นโยบายขาดดุล 2.5 แสนล้านบาท ที่จะเริ่มมีเงินเข้าสู่ระบบในช่วงต้นเดือนตุลาคม 2556 และการเร่งผลักดันการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน 2 ล้านล้านบาท จะเป็นอีกหนึ่งแรงขับเคลื่อนเศรษฐกิจทั้งในระยะสั้นและระยะยาว ส่งผลดีต่อจิตวิทยาด้านบรรยากาศการลงทุนให้???าคเอกชนกล้าลงทุนขยายกิจการและผลักดันตัวเลขเศรษฐกิจไทยให้เติบโตได้