ผู้เขียน หัวข้อ: 'ฉัตรชัย'โยนนายกฯดูปรับครม.ย้ำลุยแก้ยางตก  (อ่าน 529 ครั้ง)

Rakayang.Com

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 84462
    • ดูรายละเอียด
'ฉัตรชัย'โยนนายกฯดูปรับครม.ย้ำลุยแก้ยางตก


วันอังคารที่ 7 พฤศจิกายน พ.ศ.2560 10:27 น. ที่มา INN News

821075

"พล.อ.ฉัตรชัย" ย้ำปรับ ครม. เป็นดุลพินิจของนายกฯ เร่งช่วยเหลือเกษตรกรน้ำท่วม แก้ปัญหาราคายางตกต่ำ ยึดตามข้อเท็จจริงปมบอร์ดการยาง  แจงสถานการณ์น้ำภาคกลาง-อีสาน คลี่คลายแล้ว คาดภายในสิ้นเดือนพ.ย.กลับสู่ภาวะปกติ ขณะเฝ้าระวังพื้นที่ภาคใต้

พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวถึงการปรับคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ว่า เป็นเรื่องของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ขณะที่การช่วยเหลือฟื้นฟูผู้ประสบภัยน้ำท่วม นั้น กระทรวงเกษตรและสหกรณ์จะนำมาตราการช่วยเหลือประชาชนในวงเงินกว่า 4,000 ล้านบาท ที่จะเข้า ครม.ในวันนี้ เนื่องจากมีสำรวจความเดือดร้อนของประชาชนพบว่ามีความเดือนร้อนกว่า 1.6 ล้านคน

นอกจากนี้ ยังมีมาตราการช่วยเหลืออื่นเช่นการจ้างงาน และเรื่องของการชะลอการชำระหนี้ของ เกษตรกรพร้อมสนับสนุนด้านเมล็ดพันธุ์ ยืนยันว่าในฤดูกาลหน้า ในเขตชลประทานมีน้ำเพียงพอต่อการเพาะปลูกอย่างแน่นอน

ทั้งนี้ พล.อ.ฉัตรชัย ยังกล่าวถึงสถานการณ์ราคายางที่คาดว่าดีขึ้น และได้สั่งการให้ประธานบอร์ดการยางและผู้ว่าการยาง ดำเนินการติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด พร้อมยอมรับว่าราคายางที่มีการ ผันผวนตามตลาดที่มีการซื้อขายล่วงหน้าเป็นเรื่องปกติ แต่สิ่งที่กำลังผลักดันนั้นคือการใช้ยางในประเทศที่ต้องทำมากขึ้น โดยมีการตั้งเป้าใช้ยางในประเทศร้อยละ 30 แต่มีการใช้งานเพียง ร้อยละ 13-14 เท่านั้น ซึ่งยังต้องสร้างความเข้มแข็งให้กับเกษตรกรด้วย

ส่วนที่มีข้อเรียกร้องให้ปลด ประธานบอร์ดการยางฯ หลังราคายางตกต่ำ พล.อ.ฉัตรชัย ระบุว่า ต้องดูข้อเท็จจริง ถ้ามีข้อผิดพลาดต้องนำเข้าสู่กระบวนการพิจารณา ซึ่งกระทรวงเกษตรจะมีการลงไปพูดคุยกับทั้งสองฝ่าย

นอกจากนี้ พล.อ.ฉัตรชัย กล่าวถึงสถานการณ์น้ำท่วมภาคกลาง และลุ่มน้ำเจ้าพระยา ว่า ขณะนี้สถานการณ์คลี่คลายแล้ว เพราะการระบายน้ำลดลงจากสัปดาห์ที่แล้ว โดยเหลือประมาณ 2,100 ลูกบาศก์เมตร/วินาที ทำให้น้ำตั้งแต่ท้ายเขื่อนเจ้าพระยา ลดลงประมาน 50 เซนติเมตร ทำให้เหนือเขื่อนกลับสู่ภาวะปกติ ส่วนท้ายเขื่อนก็ลดระดับลง
ขณะที่ในส่วนของภาคอีสาน บริเวณเขื่อนอุบลรัตน์ นั้น ก็ได้ปรับลดการระบายน้ำเหลือเพียง 20 ลูกบาศก์เมตร/วัน จึงทำให้ลำน้ำพอง ลดระดับลง และคาดว่า ในระยะเวลาอันใกล้จะกลับสู่ภาวะปกติ ส่วนบริเวณลำน้ำชี ขณะนี้ ยังคงมีปัญหาอยู่ในช่วงกลาง ที่ จ.มหาสารคาม และกาฬสินธุ์ มีการระบายน้ำค่อนข้างช้า เนื่องจากมีทางน้ำที่คดเคี้ยว แต่คาดว่า จะสามารถคลี่คลายได้ภายในสิ้นเดือน พฤศจิกายน นี้ เช่นเดียวกับพื้นที่แก้มลิง ที่ได้มีการระบายน้ำออกบางส่วนเพื่อให้เกษตรกรได้ดำเนินการเพาะปลูก ได้ในต้นเดือนธันวาคม

ส่วนภาคใต้ของไทยนั้น ขณะนี้ ได้ประสบปัญหาในเรื่องพายุที่เข้ามาติดต่อกัน ซึ่ง นายกรัฐมนตรี ได้สั่งการติดตามปัญหาอย่างใกล้ชิด และได้ร่วมมือกับ กระทรวงมหาดไทย, กองทัพ และกระทรวงเกษตรฯ ซึ่งในด้านของกระทรวงเกษตรได้ตัดเครื่องสูบน้ำ 380 เครื่อง และเครื่องมืออื่นๆ รวมแล้วกว่า 500 เครื่อง วางกระจายในพื้นที่ 14 จุดเพื่อช่วยเหลือตามที่ประชาชนร้องขอได้อย่างรวดเร็ว ส่วนเรื่องของอาหารสัตว์ได้เตรียมวางไว้หมดแล้วเช่นกัน โดยจะใช้อาหารสัตว์ 2,000 ตัน พร้อมให้สัตวแพทย์จากกรมปศุสัตว์ลงพื้นที่อีกด้วย