ผู้เขียน หัวข้อ: World Markets: สรุปภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ  (อ่าน 646 ครั้ง)

Rakayang.Com

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 85164
    • ดูรายละเอียด

World Markets: สรุปภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ


สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- จันทร์ที่ 12 มิถุนายน 2560 06:06:33 น.
 
ดัชนีและภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ ประจำวันที่ 9 มิ.ย. 2560
 
-- ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดแดนบวกเมื่อวันศุกร์ (9 มิ.ย.) จากแรงซื้อหุ้นกลุ่มการเงินและพลังงาน อย่างไรก็ตาม ดาวโจนส์ลดช่วงบวกลงจากระดับสูงเป็นประวัติการณ์ในระหว่างวัน หลังจากที่นักลงทุนแห่เทขายหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี ซึ่งฉุดให้ดัชนี Nasdaq ปิดร่วงลงไปถึงเกือบ 2%



ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 21,271.97 จุด เพิ่มขึ้น 89.44 จุด หรือ +0.42% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,431.77 จุด ขยับลง 2.02 จุด หรือ -0.08% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 6,207.92 จุด ร่วงลง 113.85 จุด หรือ -1.80%
 
-- ตลาดหุ้นยุโรปปิดปรับตัวขึ้นเมื่อวันศุกร์ (9 มิ.ย.) ขานรับกระแสคาดการณ์ที่ว่าอังกฤษอาจถอนตัวออกจากสหภาพยุโรปในแนวทางที่ผ่อนปรนลงกว่าเดิม หลังผลการเลือกตั้งอย่างไม่เป็นทางการชี้พรรคอนุรักษ์นิยมของนางเทเรซา เมย์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษ ไม่สามารถครองเสียงข้างมากในสภาได้ นอกจากนี้ภาวะการซื้อขายยังได้แรงหนุนจากเงินปอนด์ที่อ่อนค่าลง ซึ่งเป็นผลดีต่อบรรดาบริษัทจดทะเบียนในตลาดหุ้นลอนดอน ซึ่งจำนวนมากเป็นบริษัทข้ามชาติที่จะทำรายได้และกำไรจากต่างประเทศได้มากขึ้น เมื่อเงินปอนด์อ่อนค่าลง
 
ดัชนี Stoxx Europe 600 ปรับตัวขึ้น 1.24 จุด หรือ 0.32% ปิดที่ 390.39 จุด สำหรับทั้งสัปดาห์ ดัชนีลดลง 0.6%
 
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,299.71 จุด เพิ่มขึ้น 35.47 จุด หรือ 0.67% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 12,815.72 จุด เพิ่มขึ้น 102.14 จุด หรือ 0.80% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นอังกฤษปิดที่ 7,527.33 เพิ่มขึ้น 77.35 หรือ 1.04%
 
-- ตลาดหุ้นลอนดอนดีดตัวขึ้นปิดแดนบวกเมื่อวันศุกร์ (9 มิ.ย.) หลังปรับตัวลดลงมา 4 วันติดต่อกัน โดยภาวะการซื้อขายได้ปัจจัยหนุนจากความคาดหวังของนักลงทุนที่มองว่า การที่พรรคอนุรักษ์นิยมของนางเทเรซา เมย์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษ ไม่ได้เสียงข้างมากในสภาและต้องจัดตั้งรัฐบาลผสมนั้น อาจส่งผลให้การถอนตัวออกจากสหภาพยุโรปจะเป็นไปในแนวทางที่ผ่อนปรนลงกว่าเดิม หรือซอฟต์ เบร็กซิต (Soft Brexit) นอกจากนี้ เงินปอนด์ที่อ่อนค่าลงก็เป็นปัจจัยหนุนตลาดเช่นกัน
 
ดัชนี FTSE 100 ปรับตัวขึ้น 77.35 จุด หรือ 1.04% ปิดที่ 7,527.33 จุด สำหรับทั้งสัปดาห์ ดัชนีร่วงลง 1.3%
 
-- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดดีดตัวขึ้นเมื่อวันศุกร์ (9 มิ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนซื้อเก็งกำไรหลังจากราคาสัญญาน้ำมันปรับตัวลดลงติดต่อกันมา 2 วัน อย่างไรก็ตาม บรรยากาศการซื้อขายโดยรวมยังคงถูกกดดันจากแนวโน้มภาวะน้ำมันล้นตลาด แม้กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) พยายามลดกำลังการผลิต
 
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ค. เพิ่มขึ้น 19 เซนต์ หรือ 0.4% ปิดที่ 45.83 ดอลลาร์/บาร์เรล ขณะที่ตลอดสัปดาห์ สัญญาร่วงลง 3.8%
 
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนส.ค. เพิ่มขึ้น 29 เซนต์ หรือ 0.6% ปิดที่ 48.15 ดอลลาร์/บาร์เรล สำหรับทั้งสัปดาห์ สัญญาเบรนท์ร่วงลง 3.6%
 
-- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดปรับตัวลดลงเป็นวันที่ 3 ติดต่อกันในวันศุกร์ (9 มิ.ย.) โดยได้รับแรงกดดันจากสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐที่แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับปอนด์และยูโร โดยเฉพาะเงินปอนด์ที่ร่วงลงอย่างมาก หลังผลการเลือกตั้งอย่างไม่เป็นทางการชี้พรรคอนุรักษ์นิยมของนางเทเรซา เมย์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษ ไม่สามารถครองเสียงข้างมากในสภาได้
 
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนส.ค. ลดลง 8.10 ดอลลาร์ หรือ 0.63% ปิดที่ระดับ 1,271.40 ดอลลาร์/ออนซ์ ขณะที่ทั้งสัปดาห์ ราคาทองลดลง 0.7% ซึ่งเป็นการลดลงครั้งแรกในรอบ 5 สัปดาห์
 
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ค. ลดลง 19.1 เซนต์ หรือ 1.1% ปิดที่ 17.223 ดอลลาร์/ออนซ์
 
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนก.ค. เพิ่มขึ้น 2.2 ดอลลาร์ หรือ 0.2% ปิดที่ 940.3 ดอลลาร์/ออนซ์
 
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนก.ย. เพิ่มขึ้น 9.7 ดอลลาร์ หรือ 1.2% ปิดที่ 856.2 ดอลลาร์/ออนซ์
 
-- สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐยังคงแข็งค่าขึ้นอย่างต่อเนื่องเมื่อเทียบกับเงินสกุลหลักอื่นๆ ในการซื้อขายที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อวันศุกร์ (9 มิ.ย.) โดยเฉพาะเงินปอนด์ที่ร่วงลงอย่างมาก หลังผลการเลือกตั้งอย่างไม่เป็นทางการชี้พรรคอนุรักษ์นิยมของนางเทเรซา เมย์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษ ไม่สามารถครองเสียงข้างมากในสภาได้
 
ยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1197 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1222 ดอลลาร์ ในขณะที่ปอนด์อ่อนค่าลงที่ระดับ 1.2730 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2937 ดอลลาร์ และดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลง ที่ระดับ 0.7528 ดอลลาร์ จากระดับ 0.7547 ดอลลาร์
 
ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเยน ที่ระดับ 110.17 เยน จากระดับ 109.91 เยน และแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9690 ฟรังก์สวิส จากระดับ 0.9670 ฟรังก์สวิส ขณะที่อ่อนค่าลงแตะ 1.3469 ดอลลาร์แคนาดา จาก 1.3505 ดอลลาร์แคนาดา
ดัชนี DJIA ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 21,271.97 จุด เพิ่มขึ้น 89.44 จุด, +0.42%
ดัชนี NASDAQ ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 6,207.92 จุด ลดลง 113.85 จุด, -1.80%
ดัชนี S&P500 ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 2,431.77 จุด ลดลง 2.02 จุด, -0.08%
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดวัน 12,815.72 จุด เพิ่มขึ้น 102.14 จุด, +0.80%
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,527.33 จุด เพิ่มขึ้น 77.35 จุด, +1.04%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดวันที่ 5,299.71 จุด เพิ่มขึ้น 35.47 จุด, +0.67%
ดัชนี SENSEX ตลาดหุ้นอินเดียปิดที่ 31,262.06 จุด เพิ่มขึ้น 48.70 จุด, +0.16%
ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ปิดที่ 3,254.19 จุด เพิ่มขึ้น 17.14 จุด, +0.53%
ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียปิดที่ 1,788.89 จุด เพิ่มขึ้น 3.32 จุด, +0.19%
 
ดัชนี Jakarta Composite ตลาดหุ้นอินโดนีเซียปิดที่ 5,675.52 จุด ลดลง 27.40 จุด, -0.48%
ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดที่ 26,030.29 จุด ลดลง 32.77 จุด, -0.13%
 
ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ปิดที่ 7,990.24 จุด เพิ่มขึ้น 31.61 จุด, +0.40%
ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนปิดที่ 3,158.40 จุด เพิ่มขึ้น 8.07 จุด, +0.26%
ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ปิดที่ 2,381.69 จุด เพิ่มขึ้น 18.12 จุด, +0.77%
 
ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 5,677.80 จุด เพิ่มขึ้น 1.20 จุด, +0.02%
 
ดัชนี ALL ORDINARIES ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 5,715.50 จุด เพิ่มขึ้น 0.70 จุด, +0.01%
 
ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดที่ 20,013.26 จุด เพิ่มขึ้น 104.00 จุด, +0.52%
ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันปิดที่ 10,199.65 จุด ลดลง 26.13 จุด, -0.26%