ผู้เขียน หัวข้อ: จีนใช้ยางธรรมชาติแตะระดับ 4.68 ล้านตันในปี 2558 (13/09/2559)  (อ่าน 572 ครั้ง)

Rakayang.Com

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 85862
    • ดูรายละเอียด
จีนใช้ยางธรรมชาติแตะระดับ 4.68 ล้านตันในปี 2558 (13/09/2559)

ตามรายงานตลาดฉบับใหม่ในประเทศจีนในหัวข้อ ?อุตสาหกรรมยางธรรมชาติประเทศจีนและทั่วโลกในช่วงระหว่างปี 2559-2563? ระบุว่า นับตั้งแต่ปี 2554 อุปทานยางธรรมชาติทั่วโลกอยู่ในสภาวะล้นตลาด แตะระดับ 220,000 ตันในปี 2554 และราว 140,000 ตันในปี 2558 ซึ่งตามรายงานของเว็บไซต์ RnRMarketResearch.com ระบุว่า ปัญหาดังกล่าวเนื่องมาจากการมีพื้นที่กรีดยางเพิ่มขึ้นในประเทศผลิตยาง และการเติบโตของอุตสาหกรรมยางล้อชะลอตัวลง รวมถึงปัจจัยอื่นๆ ที่ส่งผลให้มีปริมาณยางธรรมชาติทั่วโลกมากเกินความต้องการภายในช่วงระหว่างปี 2559-2563 และคาดว่าปริมาณยางทั่วโลกที่มากเกินความต้องจะมีมากถึง 110,000 ตันภายในปี 2563 นอกจากนี้ จากปัญหาสภาวะเศรษฐกิจทั่วโลกซบเซา และยางธรรมชาติมีมากเกินความต้องการของตลาด ส่งผลให้ยางมีราคาตกต่ำ และในช่วงปลายปี 2558 ราคายางในประเทศจีนได้ร่วงลงมาแตะระดับ 1,140 เหรียญสหรัฐต่อตัน ซึ่งเป็นราคาต้นทุน สำหรับในปีนี้ราคายางโดยเฉลี่ยทั่วโลกเคลื่อนไหวอยู่ในช่วงระหว่าง 1,200?1,500 เหรียญสหรัฐต่อตัน ในปี 2558 ผลผลิตยางธรรมชาติในจีนลดลงร้อยละ 5.5 เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า เหลือเพียง 794,200 ตัน โดยมีปัจจัยด้านสภาพภูมิอากาศที่ส่งผลกระทบต่อพื้นที่ปลูกยางของจีน ทำให้ปลูกได้ในพื้นที่จำกัด ประกอบกับราคายางก็ต่ำพอๆ กับราคาต้นทุน ทำให้เกษตรกรเลิกผลิตยางพารามากขึ้น และคาดว่าในปีนี้ผลผลิตยางธรรมชาติของจีนจะลดลงร้อยละ 5.3 เหลือเพียง 752,100 ตัน จีนเป็นประเทศผู้ใช้ยางรายใหญ่ที่สุดของโลก โดยในปี 2558 จีนใช้ยางมากถึง 4.682 ล้านตัน หรือคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 38.5 ของปริมาณการใช้ทั่วโลก และท่ามกลางความไม่สมดุลกันระหว่างอุปสงค์และอุปทานยางในจีน ทำให้จีนนำเข้ายางพาราเป็นจำนวนมากเพื่อให้ตอบสนองความต้องการใช้ในจีนที่มีเพิ่มขึ้น โดยในปี 2558 จีนนำเข้ายางเพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้าร้อยละ 4.8 หรือมีปริมาณการนำเข้า 2.736 ล้านตัน ในขณะที่ราคายางนำเข้าลดลงจากปีก่อนหน้าร้อยละ 24.5 เหลือเพียง 1,431.6 ล้านเหรียญสหรัฐต่อตัน ในช่วงที่ราคายางลดลงประกอบกับการมีพื้นที่ปลูกยางน้อยลง ในขณะที่อุตสาหกรรมยานยนต์ของจีนกำลังขยายตัวเนื่องจากความต้องการเป็นเจ้าของรถยนต์ที่มีเพิ่มขึ้น ส่งผลให้อุปสงค์ของอุตสาหกรรมยางล้อเพิ่มขึ้น ซึ่งหนุนให้ความต้องการใช้ยางธรรมชาติเพิ่มขึ้นตามไปด้วย ในช่วงระหว่างปี 2559-2563 ช่องว่างระหว่างอุปสงค์และอุปทานยางในจีนนับจะยิ่งมีเพิ่มขึ้น โดยภายในปี 2563 ความแตกต่างระหว่างอุปสงค์และอุปทานยางจะมีมากถึง 5.142 ล้านตัน เพิ่มขึ้นจากปี 2558 ถึงร้อยละ 32.3 แหล่งอุตสาหกรรมยางธรรมชาติที่สำคัญคือ ประเทศไทย มาเลเซีย และประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยบริษัทผลิตยางรายสำคัญ ได้แก่ ศรีตรังแอโกรอินดัสทรี, วงศ์บัณฑิต, เซาท์แลนด์รับเบอร์, ไทยรับเบอร์ลาเท็คซ์ และซิโนเค็ม การชะลอตัวของตลาดยางธรรมชาติทำให้บริษัทต่างๆ เร่งพัฒนาแหล่งทรัพยากรและกลยุทธ์ เพิ่มพื้นที่ปลูกในประเทศผู้ผลิตยางรายสำคัญ และเพิ่มกำลังการผลิต นอกเหนือจากนั้นแล้ว บริษัทผู้ผลิตอาจให้ความสนใจกับการใช้ยางธรรมชาติในผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่าเพิ่มสูงหรือตามความต้องการของลูกค้า เช่น ยางล้อที่ใช้ในทางทหาร เพื่อเพิ่มผลกำไรและเพิ่มความสามารถในการแข่งขันให้กับผลิตภัณฑ์

ที่มา http://rubberjournalasia.com, 09/09/2016