กรมวิชาการเกษตรเร่งถ่ายทอดเทคโนโลยีการผลิตปาล์มน้ำมันพื้นที่ภาคใต้ตอนบน มุ่งลดต้นทุน เพิ่มผลผลิตตามนโยบายรัฐ
หนังสือพิมพ์ไทยโพสต์ -- จันทร์ที่ 12 กันยายน 2559 00:00:29 น.
นายวิรัตน์ ธรรมบำรุง ผู้อำนวยการสานักวิจัยและพัฒนาการเกษตรเขตที่ 7 กรมวิชาการเกษตรเปิดเผยว่า สำนักวิจัยและพัฒนาการเกษตรเขตที่ 7 (สวพ.7) ดูแลรับผิดชอบพื้นที่ 8 จังหวัดภาคใต้ตอนบนซึ่งในพื้นที่ภาคใต้ตอนบมีการปลูกพืชเศรษฐกิจหลักได้แก่ ยางพาราและปาล์มน้ำมัน ซึ่งกรมวิชาการเกษตรได้มอบนโยบายให้ สวพ.7 ดูแลรักผิดชอบภารกิจการพัฒนาศักยภาพการผลิตพืชเศรษฐกิจหลักในพื้นที่ให้ครบ วงจรตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ อย่างเช่นปล์มน้ำมัน มีการดูแลควบคุมตั้งแต่การขึ้นทะเบียนแปลงเพราะกล้าปาล์มน้ำมัน โดยเครื่อข่ยสารวัตรเกษตรของหน่วยงานให้การควบคุมดูแลในแต่ละจังหวัด ตรวจสอบพันธุ์ปาล์มน้ำมันที่อยู่ในแปลงเพราะอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เกษตรกรได้มีเมล็ดพันธุ์ดีสำหรับการเพราะปลูกซึ่งจะส่งผลต่อการให้ ได้ผลผลิตที่มีคุณภาพในอนาคตต่อไป
พร้อมกันนั้นก็ได้ถ่ายทอดองค์ความรู้และเทคโนโลยีการผลิตปาล์มน้ำมัน ที่เหมาะสมต่อพื้นที่สู่เกษตรกร ผ่านช่องทางศูนย์เรียนรู้การเพิ่มสู่เกษตรกร ผ่านช่องทางศูนย์เรียนรู้การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตร(ศพ ก.)ของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยหน้าที่หลักของ สวพ.7 คือถ่ายทอดความรู้ทางวิชาการ ได้แก่ เรื่อง พันธุ์ดีพื้นที่ เทคโนโลยีในการจัดการที่เหมาะสม ตลอดจนใช้ปัจจัยการผลิตที่ถูกต้องแม่นยำ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการใช้ปุ๋ยเคมี เนื่องด้วยต้นทุนการปลูกปาล์มน้ำมันกว่าครึ่ง ซึ่งกรมวิชาการเกษตรมีเทคโนโลยแนะนำการใช้ปุ๋ยตามค่าวิเคราะห์ใบปาล์มน้ำมัน ซึ่งเป็นคำแนะนำให้ใช้ปุ๋ยเชิงเดี่ยวหรือแม่ปุ๋ย ที่สามารถช่วยลดต้นทุนการผลิตเมื่อเทียบกับการใช้ปุ๋ยสูตรในปริมาณธาตุอาหาร ที่เท่ากันได้ไม่ต่ำกว่า 1,000 บาท ต่อไร่ต่อปี
"การปลูกปาล์มน้ำมันให้ได้คุณภาพเป็นที่ต้องการของตลาด นอกจากดังกล่าวข้างต้นแล้ว สิ่งสำคัญอีกประการคือการเก็บเกี่ยวผลผลิตที่ต้องสุกแก่เท่านั้น ซึ่ง สวพ.7 ได้พยายามส่งเสริ์มให้เกษตรกรตระหนักถึงเรื่องดังกล่าว เพราะผลผลิตที่สุกแก่จะให้เปอร์เซ็นต์น้ำมันที่สูง เป็นที่ต้องการของโรงงานสามารถยกระดับคุณภาพและราคาจำหน่ายได้ ทั้งนี้ สวพ.7 ได้ทำแปลงต้นแบบถ่ายทอดผลงานวิจัยสู่การใช้ประโยชน์ กระจายอยู่ในทุกจังหวัดภาคใต้ตอนบนรวม 150 แปลง และในอนาคตตั้งเป้าจะขยายผลสู่การส่งเสริมในเกษตรแปลงใหญ่ปาล์มน้ำมัน ตามนโยบายรัฐบาลต่อไป เพื่อให้เกิดการขับเคลื่อนพัฒนาภาคเกษตรไทย ซึ่งเป็นรากฐานสำคัญของประเทศให้เกิดความเข้มแข็ง มั่นคง มั่งคั่งอย่างยั่งยืน" นายวิรัตน์ กล่าวย้ำ