หวั่นพลังงานขาดแคลน
โดย ไทยรัฐฉบับพิมพ์ 7 เม.ย. 2559 07:15
นายทวารัฐ สูตะบุตร ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) เปิดเผยว่า เมื่อเร็วๆ นี้ ผู้แทนของศูนย์วิจัยพลังงานเอเชียแปซิฟิก (APERC) ได้นำเสนอภาพรวมของอนาคตความต้องการและความสามารถในการจัดหาแหล่งพลังงานของ ไทยให้กับ สนพ.รับทราบ โดยได้นำข้อมูลผลจากการพยากรณ์ความต้องการใช้พลังงานของ 21 ประเทศในกลุ่มเอเปก โดยใช้ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีพีดี) จากธนาคารโลก (World Bank) มาใช้ในแบบจำลองและแลกเปลี่ยนความเห็นกับหน่วยงานด้านนโยบายพลังงานของ ประเทศ เพื่อปรับให้มีความสอดคล้องกัน
สำหรับประเทศไทยมีข้อสรุปว่า ในอีก 20-30 ปีข้างหน้า ไทยยังคงมีการใช้พลังงานสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยจะเพิ่มขึ้น 86% ในปี 2583 แต่แหล่งผลิตพลังงานภายในประเทศจะมีปริมาณลดลง และต้องนำเข้าพลังงานเพิ่มขึ้นจาก 42% เป็น 78% ทั้งนี้ จากข้อมูลดังกล่าวจะเห็นได้ว่า ในปัจจุบันและในอนาคตประเทศไทยยังจะต้องดำเนินมาตรการอนุรักษ์พลังงานอย่าง ต่อเนื่อง โดยเฉพาะการประหยัดพลังงานในภาคขนส่ง ได้แก่ การส่งเสริมการใช้รถยนต์ประสิทธิภาพสูง การเปลี่ยนมาใช้รถยนต์ไฟฟ้า และเชื้อเพลิงภาคขนส่งเป็นพลังงานทดแทน แทนน้ำมันเชื้อเพลิง เป็นต้น
นายอาทิตย์ ทิพย์พิชัย นักวิจัยศูนย์วิจัยพลังงานเอเชียแปซิฟิก กล่าวว่า ประเทศไทยได้ตั้งเป้าหมายลดการใช้พลังงานลง 30% ตามแผนอนุรักษ์พลังงาน และตั้งเป้าหมายเพิ่มการใช้พลังงานทดแทนจาก 15% เป็น 30% ตามแผนพัฒนาพลังงานทดแทนและพลังงานทางเลือก ซึ่งการศึกษาในครั้งนี้จะทำให้รู้ว่าปัจจุบันและอนาคตการใช้พลังงานเป็น อย่างไร สามารถดำเนินการให้บรรลุเป้าหมายหรือไม่ และควรดำเนินการมาตรการอื่นๆ เพิ่มเติมอีกหรือไม่?.