วิเคราะห์ปัจจัยที่มีผลต่อราคายาง
วันอังคารที่ 8 มีนาคม พ.ศ. 2559
ปัจจัย
วิเคราะห์
1. สภาพภูมิอากาศ
- ทั่วทุกภาคของประเทศมีอุณหภูมิสูงขึ้นกับมีหมอกบางในตอนเช้าและมีอากาศร้อน
ในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้นได้ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่างภาคตะวันออกและภาคกลาง ร้อยละ 10 ของพื้นที่
2. การใช้ยาง
- อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า ยอดขายรถยนต์ภายในภูมิภาคอาเชียนประจำปี 2558 เพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมาร้อยละ 3.3 ด้วยยอดขายจำนวน 103,975 คัน โดยกัมพูชาถือเป็นตลาดที่เติบโตเร็วที่สุดในภูมิภาคอาเซียน ด้วยยอดขายที่เพิ่มจากปีที่ผ่านมาถึงร้อยละ 41.0
3. เศรษฐกิจโลก
- กระทรวงเศรษฐกิจเยอรมนี เปิดเผยว่า ยอดสั่งซื้อภาคโรงงานของเยอรมนีเดือนมกราคม ปรับตัวลงร้อยละ 0.1 จากเดือนก่อนหน้า สะท้อนให้เห็นว่าเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวและราคาน้ำมันที่ปรับตัวลงส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจเยอรมนี
- ธนาคารกลางจีน (PBOC) เปิดเผยว่าทุนสำรองเงินตราต่างประเทศของจีนลดลง เนื่องจากส่วนใหญ่นำไปใช้ในการพัฒนาประเทศหลายภาคส่วน โดยปริมาณทุนสำรองเงินตราต่างประเทศลดลง 2.857 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ ในเดือนกุมภาพันธ์ ต่ำกว่าที่คาดไว้ว่าจะลดลง 3.0 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ หลังจากที่ลดลง 9.95 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ ในเดือนมกราคม และลดลง 1.079 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ ในเดือนธันวาคม ซึ่งเป็นการปรับตัวลงมากที่สุดเป็นประวัติการณ์
- ผู้ว่าการธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) กล่าวว่า นโยบายอัตราดอกเบี้ยติดลบ จะช่วยกระตุ้นราคาหุ้น และทำให้เงินเยนอ่อนค่าลง แต่ผลบวกดังกล่าวในขณะนี้ได้รับผลกระทบจากการที่นักลงทุนหลีกเลี่ยงสินทรัพย์เสี่ยงในตลาดการเงิน และเขาเชื่อว่าตลาดการเงินจะปรับตัวดีขึ้นทันทีที่นักลงทุนกลับมามีความเชื่อมั่น ซึ่งจะเห็นผลบวกต่อเศรษฐกิจในไม่ช้า
- ธนาคารกลางจีน เปิดเผยว่า ธนาคารกลางจีนไม่มีแนวโน้มที่จะใช้นโยบายอัตราดอกเบี้ยติดลบ แม้ว่าเศรษฐกิจภายในประเทศชะลอตัวลงก็ตาม
4. อัตราแลกเปลี่ยน
- เงินบาทอยู่ที่ 35.46 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ อ่อนค่า 0.01 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ
- เงินเยนอยู่ที่ 112.80 เยนต่อดอลลาร์สหรัฐ แข็งค่า 1.01 เยนต่อดอลลาร์สหรัฐ
5. ราคาน้ำมัน
- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาด Nymex ส่งมอบเดือนเมษายน 2559 ปิดตลาดที่ 37.90 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้น 1.98 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล โดยได้รับแรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่าจีนจะเดินหน้าใช้มาตรการกระตุ้นอุปสงค์และเศรษฐกิจภายในประเทศอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ยังได้รับปัจจัยบวกจากรายงานที่ว่าการขุดเจาะน้ำมันและการผลิตน้ำมันในสหรัฐฯ ปรับตัวลดลง
- สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (Brent) ตลาดลอนดอนส่งมอบเดือนเมษายน 2559 ที่ตลาดลอนดอนปิดที่ 40.84 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้น 2.12 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล
6. การเก็งกำไร
- ราคา TOCOM ส่งมอบเดือนมีนาคม 2559 อยู่ที่ 167.3 เยนต่อกิโลกรัม ลดลง 3.7 เยนต่อกิโลกรัม และส่งมอบเดือนสิงหาคม 2559 อยู่ที่ 174.5 เยนต่อกิโลกรัม ลดลง 5.0 เยนต่อดอลลาร์สหรัฐ
- ราคา SICOM เปิดตลาดที่ 150.0 เซนต์สหรัฐต่อกิโลกรัม เพิ่มขึ้น 2.0 เซนต์สหรัฐต่อกิโลกรัม
7. ข่าว
- ทางการจีนเปิดเผยว่าปริมาณทองคำสำรองของจีนเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 57.5 ล้านออนซ์ ในเดือนกุมภาพันธ์ จากระดับ 57.8 ล้านออนซ์ในเดือนมกราคม
8. ข้อคิดเห็นของประกอบการ
- ราคายางน่าจะทรงตัวหรือเปลี่ยนแปลงในช่วงแคบ ๆ เพราะปริมาณยางที่มีน้อยทำให้อาจจะมีผู้ที่ต้องการเร่งซื้อ เพราะเกรงจะขาดแคลนยาง ซึ่งทำให้ราคาสูงขึ้นได้อีก ดังนั้นจึงต้องรอดูสถานการณ์ว่าราคาที่ปรับตัวสูงขึ้นนั้นเป็นความต้องการซื้อจริง ๆ หรือเป็นการปั่นราคาในตลาดล่วงหน้า ทำให้ทั้งผู้ซื้อและผู้ขายยังคงรอดูสถานการณ์ที่ชัดเจน เพราะโดยภาพรวมแล้วยังคงขายออกยาก ผู้ซื้อยังซื้อในราคาที่ต่ำกว่าราคา Sicom ประมาณ 2-3 เซนต์ต่อกิโลกรัม
แนวโน้ม ราคายางมีแนวโน้มปรับตัวลดลงในทิศทางเดียวกับตลาดโตเกียว จากการแข็งค่าของเงินเยนและนักลงทุนเทขายเพื่อเก็งกำไรหลังจากราคาปรับตัวสูงขึ้น แตะระดับสูงสุดในรอบ 6 เดือนครึ่ง ประกอบกับความกังวลเกี่ยวกับเศรษฐกิจจีน หลังจากธนาคารกลางจีนเปิดเผยว่าปริมาณทุนสำรองเงินตราต่างประเทศลดลงเกินคาดในเดือนกุมภาพันธ์ อย่างไรก็ตาม ปริมาณผลผลิตที่ลดลงในช่วงยางผลัดใบ และราคาน้ำมันที่มีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้นยังเป็นปัจจัยหนุนราคายางได้ในระดับหนึ่ง
ทีมวิเคราะห์สำนักงานตลาดกลางยางพาราสงขลา
