ผู้เขียน หัวข้อ: ดัชนีเชื่อมั่นต.ค.เริ่มผงกหัว ชี้รับอานิสงส์มาตรการรัฐภาคใต้ยังวูบราคายางตก  (อ่าน 604 ครั้ง)

Rakayang.Com

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 84444
    • ดูรายละเอียด
ดัชนีเชื่อมั่นต.ค.เริ่มผงกหัว ชี้รับอานิสงส์มาตรการรัฐภาคใต้ยังวูบราคายางตก


  นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภค เดือน ต.ค. 58 อยู่ในระดับ 73.4 เป็นการปรับเพิ่มครั้งแรกในรอบ 10 เดือน หลังได้รับอานิสงส์จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้นของรัฐบาล เช่น โครงการกองทุนหมู่บ้านที่นำไปปล่อยสินเชื่อต่อให้กับสมาชิก, การอัดฉีดเงินตำบลละ 5 ล้านบาท เพื่อนำ ไปพัฒนาตำบล, การเร่งเบิกจ่ายงบประมาณโครงการขนาดเล็ก, มาตรการช่วยเหลือผู้ซื้อบ้าน ที่ปรับลดค่าธรรมเนียมการโอนและการจดจำนอง รวมถึงราคาขายปลีกน้ำมันที่ลดลงต่อเนื่อง
 "ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่ปรับตัวดีขึ้นทุกรายการ เป็นเพราะผู้บริโภครู้สึกว่าเศรษฐกิจไทยในปัจจุบันปรับตัวดีขึ้นเล็กน้อย และมีความหวังที่จะฟื้นตัวดีขึ้นในอนาคตอันใกล้ จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล แต่ผู้บริโภคยังมีความกังวลต่อความไม่แน่นอนของการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยและ เศรษฐกิจโลก และการส่งออกที่ยังไม่ฟื้นตัวขึ้น รวมทั้งมีปัญหาราคาสินค้าเกษตรที่ทรงตัวในระดับต่ำส่งผลกระทบต่อรายได้ของ เกษตรกร"
 ทั้งนี้ผลจากดัชนีความเชื่อมั่นที่เพิ่มขึ้น ยังส่งผลให้ดัชนีความเหมาะสมในการใช้จ่ายของผู้บริโภคปรับตัวเพิ่มขึ้นตามไป ด้วยโดยดัชนีความเหมาะสมในการซื้อรถยนต์คันใหม่อยู่ที่ 84.6 เพิ่มจาก 81.9, ดัชนีความเหมาะสมในการซื้อบ้านหลังใหม่อยู่ที่ 90.8 เพิ่มจาก 57.5, ดัชนีความเหมาะสมในการใช้จ่ายเพื่อการท่องเที่ยวอยู่ที่ 57.3 เพิ่มจาก 53.8 เช่นเดียวกับดัชนีความเหมาะสมในการลงทุนทำธุรกิจอยู่ที่ 42.9 เพิ่มจาก 40
 นายธนวรรธน์ กล่าวว่า จากแนวโน้มดัชนีความเชื่อมั่นที่เพิ่มขึ้น คาดว่าจะส่งผลทำให้การบริโภคของประชาชนค่อย ๆ ปรับตัวดีขึ้นในช่วงปลายปี หลังมีเงินจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลเข้าไปหมุนเวียนในระบบ เศรษฐกิจมากขึ้นตั้งแต่ไตร มาสที่ 4 นี้เป็นต้นไป โดยศูนย์ฯประเมินว่าการบริโภคน่าจะเริ่มฟื้นดีขึ้นตั้งแต่ช่วงปลายไตร มาสที่ 4 นี้เช่นเดียวกัน
 "ขณะนี้เศรษฐกิจไทยได้ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว หากรัฐบาลมีเงินเข้ามากระตุ้นเศรษฐกิจเข้าไปอีก จะทำให้เศรษฐกิจปีนี้ขยายตัวได้ 2.7-2.8% ส่วนปีหน้าคาดว่าจะขยายตัว 3.5-4% จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจการส่งเสริมการลงทุนและการผลักดันการส่งออก"
 นายวัฒนา ธนาศักดิ์เจริญ ประธานคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจภาคใต้หอการค้าไทย กล่าวว่า ยอมรับว่า ภาคการบริโภคในภาคใต้ ค่อนข้างชะลอตัวมากกว่าภาคอื่น ๆ เนื่องจากรายได้ประชากรส่วนใหญ่มาจากยางพาราที่มีราคาต่ำมาก รวมถึงปาล์มน้ำมันและประมง ที่ยังมีปัญหาอยู่ แต่คาดว่าภาคการบริโภคน่าจะฟื้นตัวได้อย่างชัดเจนได้ในไตรมาสที่ 1 ของปี 59 จากนโยบายการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล เช่น กองทุนหมู่บ้าน และโครงการตำบลละ 5 ล้านบาท
 ทั้งนี้ที่ผ่านมา ภาคการท่องเที่ยวและอสังหาริมทรัพย์ตามเมืองท่องเที่ยว จะเป็นตัวหลักในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจภาคใต้ เนื่องจากเข้าสู่ช่วงไฮซีชั่น ซึ่งมีนักท่องเที่ยวเข้ามาท่องเที่ยวจำนวนมาก โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจากจีนและเอเชีย ส่วนภาคอสังหาฯ จะขยายตัวตามแหล่งท่องเที่ยวที่ประชาชนได้ลงทุนสร้างบ้านแล้วพัฒนามาเป็นโฮ มสเตย์ เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวต่าง ๆ
 "ตอนนี้ภาคการบริโภคในภาคใต้ คงไม่รอราคายางพารา เพราะเชื่อว่าต้องใช้เวลานานกว่าเศรษฐกิจโลกจะฟื้นตัวและราคาน้ำมันตลาดโลก ปรับเพิ่มขึ้น แต่ต้องรอมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ที่ลงสู่ในระดับหมู่บ้านและตำบล ที่ก่อให้เกิดการจ้างงาน ขณะเดียวกันยังเป็นห่วงโครงการตำบลละ 5 ล้านบาท ที่หลายตำบลนำเงินไปใช้ในโครงการที่ไม่ก่อให้เกิดเงินหมุนเวียน เช่น ซ่อมถนน ซ่อมอาคาร เพราะเมื่อทำเสร็จเศรษฐกิจก็ไม่ได้รับประโยชน์มากนัก จึงอยากให้ตำบลต่างจัดทำโครงการที่ก่อให้เกิดประโยชน์ต่อเศรษฐกิจ เช่น การพัฒนาตลาดนัดชุมชน, ศูนย์สินค้าโอทอป เพราะจะเกิดการต่อยอดโครงการในอนาคตมากกว่า". บรรยายใต้ภาพ
      เดลินิวส์ (Th)