ผู้เขียน หัวข้อ: วิเคราะห์ปัจจัยที่มีผลต่อราคายาง วันพุธที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2558  (อ่าน 902 ครั้ง)

Rakayang.Com

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 86765
    • ดูรายละเอียด

วิเคราะห์ปัจจัยที่มีผลต่อราคายาง
วันพุธที่  16  กันยายน  พ.ศ. 2558
ปัจจัย[/t][/t] [/t]

วิเคราะห์
1. สภาพภูมิอากาศ
 
- พายุดีเปรสชั่น หว่าม ก๋อ (VAMCO) อ่อนกำลังลงเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมประเทศไทย ทำให้ประเทศไทยมีฝนตกและตกหนักบางแห่ง ร้อยละ 60 - 80 ของพื้นที่ ส่งผลกระทบต่อการกรีดยางทั่วทุกภาคของไทย
 
2. การใช้ยาง
 
- สมาคมอุตสาหกรรมยานยนต์อินโดนีเซียเปิดเผยว่า ยอดจำหน่ายรถยนต์เดือนสิงหาคมลดลงร้อยละ 6.4 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ลดลงเป็นเดือนที่ 12 ติดต่อกัน อย่างไรก็ดี ยอดจำหน่ายรถยนต์ปรับตัวขึ้นร้อยละ   62.7 สู่ระดับ 90,500 คันในเดือนสิงหาคม หลังจากที่ลดลงในเดือนกรกฎาคม
 
3. เศรษฐกิจโลก
 
- กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ   เปิดเผยยอดค้าปลีกเดือนสิงหาคมเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.2 เมื่อเทียบเป็นรายเดือน   สอดคล้องกับตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ หลังจากเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.7 ในเดือนกรกฎาคม โดยยอดค้าปลีกปรับตัวขึ้นติดต่อกัน 6 เดือน ขณะที่ได้รับแรงหนุนจากคำสั่งซื้อรถยนต์ที่แข็งแกร่ง และเมื่อเทียบเป็นรายปียอดค้าปลีกเพิ่มขึ้นร้อยละ 2.2 ในเดือนสิงหาคม
- ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจยุโรป หรือ ZEW เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของนักลงทุนและนักวิเคราะห์ในเยอรมันที่มีต่อสภาพ เศรษฐกิจของประเทศลดลงแตะ   12.1 ในเดือนกันยายน จากระดับ 25.0 ในเดือนสิงหาคม โดยปรับตัวลดลงเป็นเดือนที่ 6   ติดต่อกัน และตัวเลขล่าสุดเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 10 เดือน
- สำนักงานสถิติแห่งชาติฝรั่งเศสรายงานว่า   ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนสิงหาคมปรับตัวขึ้นร้อยละ 0.3 จากเดือนกรกฎาคม น้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.4
- ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) มีมติคงนโยบายการเงินแบบผ่อนคลายพิเศษในการประชุมเมื่อวานนี้ ขณะที่ปรับลดการประเมินเกี่ยวกับเศรษฐกิจต่างประเทศ ท่ามกลางภาวะชะลอตัวของเศรษฐกิจจีน
- ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) เปิดเผยว่า การผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนสิงหาคมปรับตัวลดลงร้อยละ 0.4 เมื่อเทียบเป็นรายเดือน   ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลงร้อยละ 0.2 เป็นการปรับตัวลงรายเดือนเป็นเดือนที่   6 ในรอบ 8 เดือน เนื่องจากได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจต่างประเทศที่ซบเซา และตลาดการเงินที่ผันผวน
- ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด)   สาขานิวยอร์ก รายงานว่า เดือนกันยายนดัชนีภาวะธุรกิจโดยรวมขยับขึ้นเล็กน้อย   สู่ระดับ -14.7 จาก -14.9 ในเดือนสิงหาคม อย่างไรก็ดี   ดัชนียังคงอยู่ในแดนลบเป็นเดือนที่ 4 ในรอบ 6 เดือน   หลังจากทรุดตัวในเดือนสิงหาคมแตะระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ปี 2552
- นักวิเคราะห์ประจำธนาคารโลกระบุในรายงานการคาดการณ์เกี่ยวกับการปรับขึ้น อัตราดอกเบี้ยธนาคารกลางสหรัฐฯ   (เฟด) จะทำให้เงินทุนที่จะไหลไปยังประเทศตลาดเกิดใหม่ลดลงถึงร้อยละ 45.0
 
4. อัตราแลกเปลี่ยน
 
- เงินบาทอยู่ที่ 35.94 บาทต่อดอลล่าร์สหรัฐ แข็งค่าขึ้น 0.05   บาทต่อดอลล่าร์สหรัฐ
- เงินเยนอยู่ที่ 120.31 เยนต่อดอลล่าร์สหรัฐ อ่อนค่าลง   0.26 เยนต่อดอลล่าร์สหรัฐ
 
5. ราคาน้ำมัน
 
- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาด Nymex ส่งมอบเดือนตุลาคมปิดตลาดที่ 44.59 ดอลล่าร์สหรัฐต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้น 0.59   ดอลล่าร์สหรัฐต่อบาร์เรล เนื่องจากนักลงทุนเข้ามาช้อนซื้อเพื่อเก็งกำไรจากสัญญาน้ำมันดิบลดลงติดต่อ กัน 2 วันทำการก่อนหน้านี้ ขณะที่นักลงทุนจับตาดูรายงานสต๊อคน้ำมันดิบซึ่งสำนักงานสารสนเทศด้านการ พลังงานสหรัฐฯ   (EIA) จะเปิดเผยในวันนี้
- สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์   (Brent)   ตลาดลอนดอนส่งมอบเดือนตุลาคม ปิดที่ 46.63ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้น 0.26   ดอลล่าร์สหรัฐต่อบาร์เรล
 
6. การเก็งกำไร
 
- ราคา TOCOM ส่งมอบเดือนตุลาคม อยู่ที่ 163.0 เยนต่อกิโลกรัม เพิ่มขึ้น 3.3 เยนต่อกิโลกรัม และส่งมอบเดือนกุมภาพันธ์ 2559 อยู่ที่ 171.4 เยนต่อกิโลกรัม   เพิ่มขึ้น 1.8 เยนต่อดอลล่าร์สหรัฐ
- ราคา SICOM   เปิดตลาดที่ 132.0 เซนต์สหรัฐต่อกิโลกรัม ลดลง 1.4 เซนต์สหรัฐต่อกิโลกรัม
 
7. ข่าว
 
- บริษัทที่ปรึกษาด้านอสังหาริมทรัพย์ของจีนเปิดเผยว่า สต๊อคบ้านใหม่เดือนสิงหาคมปรับตัวลดลงจากปีก่อนเป็นครั้งแรกในรอบ 45 เดือน โดยระบุว่าสต๊อคอสังหาริมทรัพย์ใน 35 เมืองปรับตัวลดลงร้อยละ 1.4 เมื่อเทียบเป็นรายปี และลดลงร้อยละ 0.8   ในเดือนสิงหาคม ปรับตัวลดลงเป็นเดือนที่ 6 ติดต่อกันเมื่อเทียบเป็นรายเดือน
- สำนักงานสถิติแห่งสหภาพยุโรปรายงานว่า   อัตราการจ้างงานในยูโรโซนไตรมาส 2 เพิ่มขึ้นร้อยละ 0.3 เมื่อเทียบเป็นรายไตรมาส   นับเป็นระดับสูงสุดในรอบ 4 ปี ขณะที่อัตราจ้างงานในสหภาพยุโรป (EU) ไตรมาส 2 เพิ่มขึ้นร้อยละ 0.2 เมื่อเทียบเป็นรายไตรมาส   และเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.8 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว
 
8.   ข้อคิดเห็นของผู้ประกอบการ
 
- ราคายางทรงตัวหรือปรับตัวขึ้นเล็กน้อย เพราะมีแรงหนุนจากภาวะฝนตกในหลายพื้นที่ปลูกยาง ทำให้ผู้ประกอบการบางรายต้องเร่งซื้อ เพราะเกรงจะขาดแคลนยางในการ
 ส่งมอบและป้อนโรงงาน

 
   ?แนวโน้ม ราคายางมีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้นตามตลาดล่วงหน้าโตเกียวและราคาน้ำมัน ประกอบกับข้อมูลเศรษฐกิจที่น่าผิดหวังของสหรัฐฯ อาจทำให้ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ยังไม่ตัดสินใจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมวันที่ 16 - 17 กันยายน 2558 อย่างไรก็ตาม ราคายางยังคงเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบจำกัด เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีนยังคงมีอยู่ หลังจากจีนเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอเกินคาด


ทีมวิเคราะห์สำนักงานตลาดกลางยางพาราสงขลา