ผู้เขียน หัวข้อ: วิเคราะห์ปัจจัยที่มีผลต่อราคายาง วันอังคารที่ 15 กันยายน พ.ศ. 2558  (อ่าน 947 ครั้ง)

Rakayang.Com

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 86765
    • ดูรายละเอียด

วิเคราะห์ปัจจัยที่มีผลต่อราคายาง
วันอังคารที่  15  กันยายน  พ.ศ. 2558
ปัจจัย[/t][/t] [/t]

วิเคราะห์
1. สภาพภูมิอากาศ
 
- อิทธิพลพายุโซนร้อน หว่าม ก๋อ (VAMCO) บริเวณตอนใต้ประเทศเวียดนามได้เคลื่อนตัวไปยัง สปป.ลาว มีศูนย์กลางทางด้านตะวันออกของจังหวัดอุบลราชธานีอยู่ห่างประมาณ   220 กิโลเมตร ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยมีฝนเพิ่มมากขึ้นในวันที่ 15 - 18 กันยายน 2558 โดยทั่วประเทศจะมีฝนหนักถึงหนักมากร้อยละ 60 - 70 ของพื้นที่ ส่งผลกระทบต่อการกรีดยาง
 
2. การใช้ยาง
 
- เจ้าหน้าที่อาวุโสประจำกระทรวงอุตสาหกรรมและเทคโนโลยีสารสนเทศของจีน (MIIT)   คาดการณ์ว่าอุตสาหกรรมยานยนต์ในจีนจะขยายตัวระดับปานกลาง และอัตราการเติบโตจะเป็นไปอย่างช้า ๆ ในปีต่อไป โดยบริษัทผู้ผลิตรถยนต์จีนกำลังเผชิญกับการแข่งขันที่เข้มข้นกว่าที่เคยเป็น มา   ทั้งนี้ การเติบโตของอุตสาหกรรมยานยนต์จีนอยู่ที่ประมาณร้อยละ 24.0 ในช่วงปี 2543 - 2553 และปรับตัวลดลงแตะที่ประมาณร้อยละ 7.0 ในปี   2553 - 2557
 
3. เศรษฐกิจโลก
 
- ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของจีน   ซึ่งรวบรวมโดยสำนักข่าวซินหัว และไชน่า ยูเนียนเพย์ เดือนสิงหาคมปรับตัวลดลง 0.6   จุด อยู่ที่ 82.07 จุด ปรับตัวลดลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 3   เนื่องจากตลาดหุ้นจีนอ่อนแรงลง
- กระทรวงการค้า เศรษฐกิจ และอุตสาหกรรมญี่ปุ่น ปรับทบทวนผลผลิตอุตสาหกรรมเดือนกรกฎาคม โดยระบุว่าหดตัวลงร้อยละ 0.8 จากรายงานเบื้องต้นที่ลดลงร้อยละ 0.6
- สำนักงานสถิติแห่งสหภาพยุโรปเปิดเผยว่า การผลิตภาคอุตสาหกรรมในยูโรโซนเดือนกรกฎาคมปรับตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.6 เมื่อเทียบเป็นรายเดือน ซึ่งมากกว่าคาดการณ์ของนักเศรษฐศาสตร์ที่คาดว่าจะขยายตัวร้อยละ 0.3 แต่หากเทียบเป็นรายปีเพิ่มขึ้นร้อยละ 1.9 สะท้อนให้เห็นถึงการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจที่ยังคงปรากฏให้เห็น
- สำนักงานสถิติแห่งสหภาพยุโรปปรับเพิ่มตัวเลขการขยายตัวทางเศรษฐกิจยูโรโซน ช่วงครึ่งปีแรก   โดยปรับเพิ่มขึ้นอีกร้อยละ 0.1 สำหรับไตรมาส 1 และไตรมาส 2 อยู่ที่ร้อยละ 0.5   และ 0.4 ตามลำดับ
- ประธานกรรมการเพื่อการพัฒนาและปฏิรูปแห่งชาติจีนเปิดเผยว่า จีนจะเพิ่มการลงทุนในโครงการต่าง ๆ และจะส่งเสริมความร่วมมือด้านเงินทุนระหว่างภาครัฐและเอกชน ขณะที่จะมีการกระจายอำนาจในระดับล่าง และปรับปรุงกลไกระดมทุนเพื่อผลักดันให้มีการอัดฉีดเงินเข้าสู่ภาคเศรษฐกิจ ที่แท้จริงมากขึ้น
- ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) สาขานิวยอร์ก   เปิดเผยผลสำรวจรายเดือนพบว่า เดือนสิงหาคมการคาดการณ์ของผู้บริโภคต่อแนวโน้มราคาในอนาคตอ่อนตัวลง โดยระบุว่าค่ากลางในการสำรวจระยะ 1 ปีข้างหน้า ผู้บริโภคคาดการณ์ว่าอัตราเงินเฟ้อลดลงสู่ร้อยละ 2.8 จากร้อยละ 3.0 ในเดือนกรกฎาคม ส่วนค่ากลางในระยะ 3 ปีข้างหน้าพบว่า ผู้บริโภคคาดการณ์ว่าอัตราเงินเฟ้อลดลงสู่ร้อยละ 2.9 ในเดือนกรกฎาคม บ่งชี้ถึงความยากลำบากในการผลักดันเงินเฟ้อให้กลับสู่ระดับเป้าหมายที่เฟด ต้องการ
 
4. อัตราแลกเปลี่ยน
 
- เงินบาทอยู่ที่ 35.99 บาทต่อดอลล่าร์สหรัฐ ทรงตัวจากเมื่อวาน
- เงินเยนอยู่ที่ 120.05 เยนต่อดอลล่าร์สหรัฐ แข็งค่าขึ้น   0.56 เยนต่อดอลล่าร์สหรัฐ
 
5. ราคาน้ำมัน
 
- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาด Nymex ส่งมอบเดือนตุลาคมปิดตลาดที่ 44.00 ดอลล่าร์สหรัฐต่อบาร์เรล ลดลง 0.63 ดอลล่าร์สหรัฐต่อบาร์เรล เพราะได้รับแรงกดดันจากการร่วงลงของตลาดหุ้นทั่วโลก อันเป็นผลมาจากการที่นักลงทุนระมัดระวังในการซื้อขายก่อนที่จะทราบผลการ ประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ   (เฟด)
- สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์   (Brent)   ตลาดลอนดอนส่งมอบเดือนตุลาคม ปิดที่ 46.37ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ลดลง 1.77 ดอลล่าร์สหรัฐต่อบาร์เรล
- กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน   (โอเปค) ออกรายงานประจำเดือนปรับลดคาดการณ์ปริมาณน้ำมันจากประเทศนอกกลุ่มโอเปค โดยปีนี้ลดลง 72,000 บาร์เรล อยู่ที่ 880,000 บาร์เรลต่อวัน จากการผลิตที่ต่ำกว่าตลาดสหรัฐฯ บ่งชี้ว่าราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวลดลงกำลังส่งผลกระทบต่อการผลิต Shale oil ของสหรัฐฯ นอกจากนี้โอเปคจะปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของอุปสงค์น้ำมันในปีหน้าสู่ระดับ 1.29 ล้านล้านบาร์เรลต่อวัน เนื่องจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีนและละตินอเมริกา
 
6. การเก็งกำไร
 
- ราคา TOCOM ส่งมอบเดือนตุลาคม อยู่ที่ 165.0 เยนต่อกิโลกรัม ลดลง   2.0 เยนต่อกิโลกรัม และส่งมอบเดือนกุมภาพันธ์ 2559 อยู่ที่ 173.7 เยนต่อกิโลกรัม   ลดลง 2.7 เยนต่อดอลล่าร์สหรัฐ
- ราคา SICOM   เปิดตลาดที่ 133.4 เซนต์สหรัฐต่อกิโลกรัม เพิ่มขึ้น 0.4 เซนต์สหรัฐต่อกิโลกรัม
 
7. ข่าว
 
- รัฐบาลจีนออกนโยบายเพื่อยกระดับการปฏิรูปรัฐวิสาหกิจ   (SOE) ให้แข็งแกร่งมากขึ้น นับเป็นความเคลื่อนไหวครั้งล่าสุดของรัฐบาลจีน โดยมีเป้าหมายฟื้นฟูกลุ่มธุรกิจ SOE   ที่กำลังซบเซาอยู่ในขณะนี้
 
8.   ข้อคิดเห็นของผู้ประกอบการ
 
- ราคายางทรงตัวหรือปรับตัวลดลงเล็กน้อยตามตลาดต่างประเทศ โดยผู้ประกอบการกล่าวว่า ผู้ซื้อต่างประเทศค่อนข้างเงียบ โดยเฉพาะจีนเตรียมหยุดยาวในวันชาติ   ซึ่งตรงกับวันที่ 1 - 10 ตุลาคม ของทุกปี   ขณะที่ผู้ซื้อในประเทศซื้อเกินราคามาระยะหนึ่งแล้ว ก็จะชะลอการซื้อในบางช่วงหากเห็นว่าเริ่มประสบภาวะขาดทุน
 
   ?แนวโน้ม ราคายางมีแนวโน้มปรับตัวลดลงตามตลาดล่วงหน้าโตเกียวและราคาน้ำมัน ประกอบกับนักลงทุนระมัดระวังในการซื้อขายก่อนที่จะทราบผลการประชุมของธนาคาร กลางสหรัฐฯ (เฟด) ในสัปดาห์นี้


ทีมวิเคราะห์สำนักงานตลาดกลางยางพาราสงขลา