ผู้เขียน หัวข้อ: วิเคราะห์ปัจจัยที่มีผลต่อราคายาง วันพฤหัสบดีที่ 10 กันยายน พ.ศ. 2558  (อ่าน 853 ครั้ง)

Rakayang.Com

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 86755
    • ดูรายละเอียด

วิเคราะห์ปัจจัยที่มีผลต่อราคายาง
วันพฤหัสบดีที่  10  กันยายน  พ.ศ. 2558
ปัจจัย[/t][/t] [/t]

วิเคราะห์
1. สภาพภูมิอากาศ
 
- ประเทศไทยมีฝนตกเพิ่มขึ้นและตกหนักบางแห่ง โดยภาคใต้มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 60   - 70 ของพื้นที่ ส่งผลกระทบต่อการกรีดยาง ส่วนภาคอื่น ๆ มีฝนร้อยละ 40 - 60 ของพื้นที่
 
2. การใช้ยาง
 
- สมาคมผู้นำเข้าและจำหน่ายรถยนต์เกาหลีใต้เปิดเผยว่า ผู้ผลิตรถยนต์ในต่างประเทศมียอดจำหน่ายเดือนสิงหาคมอยู่ที่ 18,200 คัน ลดลงจากเดือนกรกฎาคมร้อยละ 12.1 ขณะที่ช่วง 8 เดือนแรกของปียอดจำหน่ายรถยนต์นำเข้าโดยรวมอยู่ที่ 158,739 คัน เพิ่มขึ้นร้อยละ   23.2 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา
 
3. เศรษฐกิจโลก
 
- ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ)   เปิดเผยในรายงานเบื้องต้นว่า ราคาค้าส่งเดือนสิงหาคมปรับตัวลดลงร้อยละ 3.6   เมื่อเทียบเป็นรายปี เป็นการลดลง 5 เดือนติดต่อกัน
- รัฐบาลญี่ปุ่นเปิดเผยว่า   ยอดสั่งซื้อเครื่องจักรภาคเอกชนเดือนกรกฎาคมปรับตัวลดลงร้อยละ 3.6   เมื่อเทียบกับเดือนก่อน
- สำนักงานคณะรัฐมนตรีญี่ปุ่นเปิดเผยว่า เดือนสิงหาคมความเชื่อมั่นผู้บริโภคอยู่ที่   41.7 จุด ปรับตัวขึ้น 1.4 จุดจาก 40.3 จุดในเดือนกรกฎาคม   โดยได้รับแรงหนุนจากราคาน้ำมันเบนซินลดลง
- สำนักงานสถิติแห่งชาติอังกฤษ (ONS) รายงานว่า ผลผลิตภาคการผลิตเดือนกรกฎาคมปรับตัวลดลงร้อยละ   0.8 จากเดือนก่อน เนื่องจากยอดส่งออกซบเซา เมื่อเทียบเป็นรายปีผลผลิตภาคการผลิตปรับตัวลดลงร้อยละ 0.5 เป็นการปรับลดลงครั้งแรกในรอบเกือบ   2 ปี
- หอการค้าสหภาพยุโรป   หรือหอการค้ายุโรปในประเทศจีน เปิดเผยว่า จีนยังมีความน่าดึงดูดใจสำหรับบริษัทยุโรป แม้ว่าค่าแรงสูงขึ้นและการขยายตัวทางเศรษฐกิจชะลอตัว จนทำให้เกิดความวิตกกังวลเกี่ยวกับเศรษฐกิจจีน
- กระทรวงการคลังจีนประกาศผ่านแถลงการณ์ว่า จีนจะออกนโยบายการคลังที่มีความเข้มข้นมากขึ้น เพื่อกระตุ้นการขยายตัวทางเศรษฐกิจของประเทศที่กำลังเผชิญแรงกดดันช่วงขาลง โดยให้คำมั่นว่ายังคงลดการจัดเก็บภาษีธุรกิจขนาดย่อมและขนาดกลาง (SME) เพิ่มจำนวนร้านค้าปลอดภาษีตามท่าเรือต่างๆ  ตลอดจนยกระดับการจัดตั้งกองทุนร่วมทุนด้านอุตสาหกรรมใหม่ ๆ
- มหาวิทยาลัยเซียะหมินเปิดเผยรายงานระบุว่า เศรษฐกิจจีนมีแนวโน้มขยายตัวร้อยละ   7.10 ในปีนี้ ทั้งนี้รายงานดังกล่าวอิงจากแบบจำลองเศรษฐกิจมหภาครายไตรมาสของจีน โดยรายงานระบุว่าเศรษฐกิจจีนมีการขยายตัวร้อยละ   7.00 ในช่วงครึ่งปีแรก ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ปี 2543 และลดลงร้อยละ 0.42 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน สำหรับช่วง 5 ปีข้างหน้า (2559 - 2563)คาดว่าจะมีการขยายตัวเฉลี่ยร้อยละ   6.79 ต่อปี
- เรดบุ๊ค รีเสิร์ซ รายงานว่า   ยอดค้าปลีกทั่วประเทศของสหรัฐฯ ในสัปดาห์แรกของเดือนกันยายนร่วงลงร้อยละ 1.3 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของเดือนสิงหาคม โดยมีเป้าหมายอยู่ที่ระดับลดลงร้อยละ   1.5
 
4. อัตราแลกเปลี่ยน
 
- เงินบาทอยู่ที่ 36.18 บาทต่อดอลล่าร์สหรัฐ อ่อนค่าลง 0.21 บาทต่อดอลล่าร์สหรัฐ
- เงินเยนอยู่ที่ 120.32 เยนต่อดอลล่าร์สหรัฐ อ่อนค่าลง   0.09 เยนต่อดอลล่าร์สหรัฐ
 
5. ราคาน้ำมัน
 
- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาด Nymex ส่งมอบเดือนตุลาคมปิดตลาดที่ 44.15 ดอลล่าร์สหรัฐต่อบาร์เรล ลดลง 1.79 ดอลล่าร์สหรัฐต่อบาร์เรล หลังจากรัฐบาลสหรัฐฯ ได้ปรับลดคาดการณ์ราคาน้ำมันดิบสำหรับปีนี้และปีหน้า ขณะที่ตลาดมีคามวิตกกังวลต่อเนื่องเกี่ยวกับปริมาณน้ำมันที่มีอยู่จำนวนมาก เกินไปในตลาดโลก
- สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์   (Brent)   ตลาดลอนดอนส่งมอบเดือนตุลาคม ปิดที่ 47.58ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ลดลง 1.94 ดอลล่าร์สหรัฐต่อบาร์เรล
- สำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐฯ (EIA) ปรับลดคาดการณ์ราคาน้ำมันดิบสำหรับปีนี้และปีหน้า โดยคาดว่าราคาน้ำมันดิบปีนี้เฉลี่ยที่ 49.23 ดอลล่าร์สหรัฐต่อบาร์เรล ลดลงจาก   49.62 ดอลล่าร์สหรัฐต่อบาร์เรล ที่ประเมินไว้ก่อนหน้านี้ ส่วนในปี 2559   เฉลี่ยที่ 53.57 ดอลล่าร์สหรัฐต่อบาร์เรล ลดลงจากคาดการณ์เดิมที่ 54.42   ดอลล่าร์สหรัฐต่อบาร์เรล
 
6. การเก็งกำไร
 
- ราคา TOCOM ส่งมอบเดือนตุลาคม อยู่ที่ 163.1 เยนต่อกิโลกรัม ลดลง   3.1 เยนต่อกิโลกรัม และส่งมอบเดือนกุมภาพันธ์ 2559 อยู่ที่ 172.3 เยนต่อกิโลกรัม   ลดลง 2.0 เยนต่อดอลล่าร์สหรัฐ
- ราคา SICOM   เปิดตลาดที่ 132.9 เซนต์สหรัฐต่อกิโลกรัม เพิ่มขึ้น 2.0 เซนต์สหรัฐต่อกิโลกรัม
 
7. ข่าว
 
- กระทรวงแรงงานสหรัฐฯ เปิดเผยว่า ตำแหน่งว่างงานนอกภาคเกษตรที่เปิดรับสมัครโดยสถานประกอบการในสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นสู่ระดับ 5.75 ล้านตำแหน่งในเดือนกรกฎาคม ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์นับตั้งแต่เริ่มมีการรวบรวมข้อมูลในปี 2543 สะท้อนให้เห็นถึงภาวะแข็งแกร่งของตลาดแรงงานสหรัฐฯ มากกว่าที่คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่าตำแหน่งว่างงานจะเพิ่มขึ้นสู่ระดับ   5.29 ล้านตำแหน่ง
 
8.   ข้อคิดเห็นของผู้ประกอบการ
 
- ราคายางน่าจะทรงตัวหรือสูงขึ้นได้เล็กน้อย จากปริมาณผลผลิตที่ออกมาน้อย และมีฝนตกเพิ่มขึ้น ทำให้ผู้ประกอบการหลายรายที่ขาดแคลนวัตถุดิบยังเร่งซื้อเพราะเกรงว่าจะไม่มี ยางส่งมอบ
 
   ?แนวโน้ม ราคายางมีแนวโน้มปรับตัวลดลงตามตลาดล่วงหน้าโตเกียวและราคาน้ำมัน ประกอบกับนักลงทุนมี
 ความกังวลเกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) หลังจากข้อมูลแรงงานสหรัฐฯ ออกมาแข็งแกร่งเกินคาด อย่างไรก็ตาม ทางการจีนและญี่ปุ่นออกมาให้คำมั่นว่าจะสนับสนุนเศรษฐกิจของประเทศ รวมถึงการอ่อนค่าของเงินบาทยังคงเป็นปัจจัยหนุนราคายางได้ในระดับหนึ่ง



ทีมวิเคราะห์สำนักงานตลาดกลางยางพาราสงขลา