"เครือข่ายสวนยางตรัง" ก่อม็อบแน่หาก ครม.เศรษฐกิจใหม่แก้วิกฤตราคาไม่ได้
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์
28 สิงหาคม 2558 11:07 น. (แก้ไขล่าสุด 28 สิงหาคม 2558 11:11 น.)
ตรัง - แกนนำเครือข่ายชาวสวนยางรายย่อยตรัง ระบุ รัฐมนตรีที่รับผิดชอบปัญหาราคายางล้มเหลว เตรียมยื่นหนังสือขอปรับเปลี่ยนทั้งระบบ ไม่เช่นนั้นอาจต้องปิดถนน หรือล้อมศาลากลางประท้วง
วันนี้ (28 ส.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่อนุสาวรีย์พระยารัษฎานุประดิษฐ์ ถนนตรัง-พัทลุง อำเภอเมืองตรัง นายศักดิ์สฤษดิ์ ศรีประศาสตร์ แกนนำเครือข่ายชาวสวนยางรายย่อยจังหวัดตรัง กล่าวว่า นับเป็นสัญญาณที่ดีต่อชาวสวนยางที่จะมีการเปลี่ยนแปลงผู้บริหารที่เกี่ยว ข้องต่อการแก้ปัญหาเศรษฐกิจ โดยเฉพาะปัญหายางพารา อย่าง นายอำนวย ปะติเส รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เนื่องจากเห็นว่าใน 1 ปี ที่ผ่านมา ราคายางก็ยังไม่ดีขึ้น
ดังนั้น การเปลี่ยนให้บุคคลอื่นมาทำงานบ้างนั้นเป็นสิ่งที่จำเป็น และจะต้องเปลี่ยนทั้งระบบ เพราะบุคลากรที่รับผิดชอบอยู่ในปัจจุบันทำงานมานานแล้ว ยิ่งทำให้เกษตรกรชาวสวนยางยิ่งเดือดร้อน ซึ่งตนเห็นว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ต้องกล้าตัดสินใจ โดยเฉพาะกระทรวงเกษตรฯ อยู่ภายใต้การบริหารของพรรคเดียวมานานนับสิบปี ใช้งบประมาณมหาศาล แต่เกษตรกรก็ยังประสบปัญหาเดิมๆ คือ ต้นทุนการผลิตสูง เพราะปุ๋ยแพง ราคาผลผลิตตกต่ำ ฤดูแล้งขาดน้ำ ฤดูฝนน้ำท่วม
ส่วนในกรณีปัญหาราคายางพาราตกต่ำนั้น ผู้บริหารต้องรับฟังความคิดของตัวแทนเกษตรกรทุกกลุ่ม ทั้งกลุ่มที่มีโอกาส และไม่มีโอกาส เพราะที่ผ่านมา บุคคลที่อ้างเป็นตัวแทนชาวสวนยางมักจะมุ่งแสวงหาตำแหน่ง และงบประมาณเพื่อพวกพ้องของตนเองทั้งนั้น เช่น กรณีการออก พ.ร.บ.การยาง เพื่อให้พรรคพวกมีตำแหน่งที่ระบุตาม พ.ร.บ. และมีเป้าหมายที่เงิน ซึ่งถ้าใช้คนเดิมก็ติดแบบเดิมๆ
อย่างไรก็ตาม กรณีที่มีกลุ่มคนที่เรียกตัวเองว่า เป็นตัวแทนชาวสวนยางทั้งประเทศ ออกมาเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรี เอา นายอำนวย กลับมาเป็นรัฐมนตรีนั้น ส่วนตัวคิดว่าน่าจะเปลี่ยนคนใหม่ ทั้งนี้ ไม่ใช่เพราะนายอำนวย ไม่ดี แต่ 1 ปี ที่ผ่านมา ชาวสวนยางเดือดร้อนหนักมาก แต่ก็ต้องทน เพราะเห็นแก่นายกรัฐมนตรี และต้องการให้นายกรัฐมนตรีแก้ปัญหาบ้านเมือง
โดยเฉพาะชาวสวนยางในภาคใต้ ทุกวันนี้ดำรงชีวิตด้วยความอดทน อดกลั้น และหวังว่าจะมีวันที่ดีกว่า แต่ที่ผ่านมา รัฐบาลไม่สามารถตอบโจทย์ให้แก่พี่น้องชาวสวนยางได้ เพราะราคายางยังตกต่ำอย่างต่อเนื่อง นายกรัฐมนตรีให้ 1,000 บาทต่อไร่ ไม่เกิน 15 ไร่ รายละ 15,000 บาท แม้จะเป็นเงินที่ตกถึงมือเกษตรกรรายย่อยเต็มเม็ดเต็มหน่วย แต่ส่วนหนึ่งก็ถูกดูดซับจากเจ้ามือหวย นายทุนเงินกู้ ซึ่งจนถึงวันนี้ยังไม่ได้รับการแก้ไขทั้งระบบเลย
ส่วนวิธีแก้ปัญหาที่เป็นรูปธรรม และทำให้ผู้มีอาชีพทำสวนยาง โดยเฉพาะรายย่อยได้รับผลประโยชน์ทันที และทั่วถึงนั้น จะต้องไม่ใช่การแทรกแซงราคา หรือการชดเชยราคาเพียงอย่างเดียว ซึ่งทางกลุ่มกำลังจะนำหนังสือไปยื่นต่อ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี และ พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รองนายกรัฐนตรี ต่อไป ซึ่งจะเป็นการยื่นเพื่อแก้ปัญหาของเกษตรกรรายย่อยทั้งระบบ
อย่างไรก็ตาม ถ้าปัญหาเกษตรกรรายได้น้อย ซึ่งเป็นผู้บริโภคกลุ่มใหญ่ที่สุดของประเทศยังไม่ได้รับการแก้ไข กระทั่งทำให้ปัญหาเศรษฐกิจมีมากขึ้น และเข้าไปสู่ปัญหาสังคม ปัญหาการศึกษา และปัญหาการเมือง ในที่สุดเมื่อถึงเวลานั้นเกษตรกรคงไม่สามารถหลีกเลี่ยงการรวมตัวชุมนุมเรียก ร้อง และอาจจะถึงขึ้นปิดถนน หรือล้อมหน้าศาลากลางเหมือนกับที่เคยกระทำในช่วงผ่านมา
