ผู้เขียน หัวข้อ: ชาวนาโยงแห่เพาะเห็ดฟางขาย หนีราคายางตกต่ำ  (อ่าน 636 ครั้ง)

Rakayang.Com

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 84444
    • ดูรายละเอียด
ชาวนาโยงแห่เพาะเห็ดฟางขาย หนีราคายางตกต่ำ

ชาวนาโยง จ.ตรัง ดิ้นสู้ราคายางพาราตกต่ำ แห่เพาะเห็ดฟางจากทลายปาล์มน้ำมันส่งขาย สร้างรายได้ทดแทนยางพาราได้เป็นอย่างดี


ที่ตำบลนาโยงเหนือ อ.นาโยง จ.ตรัง ชาวบ้านตำบลนาโยงเหนือ ซึ่งทั้งหมดประกอบอาชีพหลักคือ ทำสวนยางพารา แต่ขณะนี้ยางพารามีราคาตกต่ำเหลือกิโลกรัมละ 40 บาทเศษ ประกอบกับเป็นช่วงฤดุมรสุมได้เกิดฝนตกลงมาบ่อย ทำให้ไม่สามารถกรีดยางพาราเลี้ยงครอบครัวได้ตามปกติ บางรายถึงขนาดเลิกกรีดยางพารามาแล้วชั่วคราว โดยต่างหันมาเพาะเห็ดฟาง จากทลายปาล์มน้ำมันส่งขาย
นางอำไพ แสงอาทิตย์ อายุ 46 ปี อยู่บ้านเลขที่ 232 หมู่ 7 ต.นาโยงเหนือ ซึ่งมีอาชีพเพาะเห็ดฟางขาย และเป็นแม่ค้าคนกลาง รับซื้อเห็ดฟางจากเพื่อนบ้านไปจำหน่าย กล่าวว่า สาเหตุที่หันมาเพาะเห็ดฟางในสวนยางพาราขาย เพราะปัจจุบันนี้มีรายได้จากการกรีดยางอย่างเดียว ไม่เพียงพอกับค่าใช้จ่าย ประกอบกับในพื้นที่เกิดฝนตกตลอดเวลา ทำให้กรีดยางพาราไม่ได้ จึงไม่สามารถอยู่ได้ จึงต้องหาอาชีพเสริมด้วยการเพาะเห็ดฟางจากทลายปาล์มน้ำมันส่งขาย เพราะเมื่อลงทุนทำไปแล้ว ฝนตกแดดออกก็สามารถเก็บขายได้
โดยต้นทุนก็ไม่มากและให้ผลผลิตเร็ว แรกเริ่มลงทุนไปซื้อทลายปาล์มน้ำมันประมาณ 5,700 บาท ต่อรถ รวมทั้งเชื้อเห็ดจากมหาวิทยาลัยแม่โจ้ จ.เชียงใหม่ ในราคาก้อนละ 21 บาท ,ซื้อผ้ายางมาคลุม ทำโครงหลังคาโค้งมนสำหรับคลุมผ้ายางและใส่ระยะเวลาประมาณ 11 ? 15 วัน ก็สามารถเก็บเห็ดฝางขายได้แล้ว ราคากิโลกรัมละ 65 ? 70 บาท โดยผลผลิตที่เก็บได้ตกคืนละประมาณ 2,000 ? 3,000 บาท เป็นเวลานานนับเดือน หรือจนกว่าจะหมดเชื้อเห็ด
โดยของตนเองเนื้อที่ประมาณ 4 ไร่ เก็บได้ครั้งละประมาณ 10 ? 40 กิโลกรัมต่อครั้ง หรือขึ้นอยู่กับจำนวนเชื้อที่วางไว้ โดยในพื้นที่ตำบลนาโยงเหนือพบว่ามีชาวสวนยางพาราหันมาเพาะเห็ดฟางจากทลาย ปาล์มน้ำมันกันเป็นจำนวนมาก ขณะนี้มีทั้งหมด 16 ราย และยังมีอีกหลายรายกำลังอยู่ระหว่างการเตรียมดิน เตรียมสั่งซื้อเชื้อ เพื่อนำมาเพาะขายกัน เพราะเห็นว่ารายได้ดีทดแทนรายางพาราที่แต่ละครอบครัวไม่สามารถรอราคา กระเตื้องขึ้นได้ และตลาดรับซื้อก็เป็นพ่อค้าแม่ค้าในพื้นที่ยังมีความต้องการอีกมาก ยังไม่เพียงพอต่อการจำหน่ายให้ลูกค้า
ด้านนายอาคม เซงย่อง อายุ 50 ปี อยู่บ้านเลขที่ 133 หมู่ 5 ต.นาโยงเหนือ กล่าวว่า ตนเองหยุดกรีดยางพาราชั่วคราว เพราะได้ไม่คุ้มค่าเหนื่อยเนื่องจากราคายางพาราตก จึงหันมาเพาะเห็ดฟางขายในพื้นที่สวนยางประมาณ 6 ไร่ ก็ได้ทยอยเพาะเห็ดลงไปเรื่อยๆ ต้นทุนต่ำ ทำได้สะดวก ใช้เวลาไม่มาก ได้กำไรสูง
สำหรับขึ้นตอนการเพาะเห็ดนางฟางจากทลายปาล์มน้ำมันทำให้ง่าย ลงทุนน้อยใช้เวลาไม่กี่วันก็สามารถเก็บดอกส่งขายได้ แค่เตรียมดินในบริเวณพื้นที่ว่างสวนยางพาราหรือข้างบ้าน หรือภายในสวนผลไม้, ทำร่องขุดดินยาวประมาณ 4 เมตร หรือ 7 เมตร ,นำทลายปาล์มน้ำมันที่แช่น้ำแล้วมาวาง และใช้น้ำฉีดล้างความสะอาด เพื่อเอาคราบน้ำมันที่ติดมากับทลายปาล์มน้ำมันออกไปให้หมด
เพราะถ้าตกค้างอาจทำให้เห็ดเน่าเสียเป็นเชื้อรา จากนั้นนำเชื้อที่ซื้อมามาย่อยสลายแล้วนำไปโรยบนทลายปาล์มน้ำมันบนร่อง พรมน้ำให้ชุ่มแล้วนำผ้ายางปิดคลุมทับไว้ประมาณ 3 วัน จากนั้นจึงเปิดผ้าบยางออกแล้วขึ้นโครงไม้ไผ่ทำเป็นโค้งมนคลุมผ้าใบ เพื่อรักษาอุณหภูมิ ประมาณ 11 ? 15 วัน ก็สามารถเก็บดอกขายได้แล้ว
ที่มา กรุงเทพธุรกิจ