ผู้เขียน หัวข้อ: ข่าวด่วน สรุปข่าวเศรษฐกิจต่างประเทศและในประเทศ 05/08/58  (อ่าน 354 ครั้ง)

Rakayang.Com

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 84897
    • ดูรายละเอียด
สรุปข่าวเศรษฐกิจต่างประเทศและในประเทศ 05/08/58


สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย- -5 ส.ค. 58 8:16: น.


สรุปข่าวเศรษฐกิจต่างประเทศ
                ? สหภาพยุโรป (EU) สามารถบรรลุข้อตกลงการค้าเสรี (FTA) กับเวียดนามได้แล้ว หลังเจรจานานกว่า 2 ปีครึ่ง โดยจะยกเลิกการเก็บภาษีศุลกากรของสินค้าที่ซื้อขายระหว่างกันนาน 7-10 ปี พร้อมยกเลิกมาตรการกีดกันทางการค้าและการลงทุน โดย EU หวังว่าการบรรลุข้อตกลงในครั้งนี้จะเป็นการปูทางไปสู่การทำข้อตกลง FTA กับสมาคมประชาชาติเอเชียตะวันออกฉียงใต้ (ASEAN) ในอนาคต
                ? รัฐบาลกรีซคาดว่าจะสามารถบรรลุข้อตกลงมาตรการช่วยเหลือกับกลุ่มเจ้าหนี้ได้ภายใน 18 ส.ค. หลังจบการเจรจาเบื้องต้นและจะเข้าสู่กระบวนการร่างข้อตกลงขั้นต่อไปในวันนี้ (5 ส.ค.)
                ? นายอาร์ตู มาส ประธานาธิบดีแคว้นคาตาโลเนีย เรียกร้องให้ประชาชนคาตาลันแสดงเจตจำนงในการแยกตัวเป็นเอกราชจากสเปนผ่านการเลือกตั้งท้องถิ่นที่จะมีขึ้นในเดือน ก.ย. นี้ ก่อนที่จะถึงการเลือกตั้งทั่วไปช่วงสิ้นปี แต่ยังไม่มีการระบุว่าจะรับมือกระแสต่อต้านจากรัฐบาลกลางอย่างไร
                ? ราคาบ้านในอังกฤษปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.4% เมื่อเทียบรายเดือน ในเดือน ก.ค. หลังลดลง 0.2% ในเดือนก่อน (เพิ่มขึ้น 3.5% เมื่อเทียบรายปี ในเดือน ก.ค. จาก 3.3% ในเดือน มิ.ย.) สะท้อนถึงตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่กำลังเข้าสู่เสถียรภาพจากอัตราการเติบโตที่ใกล้เคียงกันของราคาบ้านกับรายได้
                ? ประธานาธิบดีบารัค โอบามา ของสหรัฐ ประกาศยกระดับแผนรับมือกับภาวะโลกร้อน โดยเตรียมใช้แผนพลังงานสะอาด ซึ่งอาจมีการปิดโรงไฟฟ้าถ่านหิน พร้อมลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในสหรัฐลง 32% ภายในปี 2573 เมื่อเทียบกับปี 2548 ท่ามกลางเสียงคัดค้านต่อนโยบายดังกล่าวจากมลรัฐทั่วประเทศเพราะความกังวลเรื่องผลกระทบต่อเศรษฐกิจ
                ? รัฐบาลเปอร์โตริโกผิดนัดชำระหนี้จำนวน 58 ล้านดอลลาร์ เนื่องจากไม่มีการจัดสรรงบประมาณอย่างเพียงพอ หลังจากกู้ยืมเงินเพื่อชดเชยการขาดดุลงบประมาณในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ทั้งนี้เปอร์โตริโกขอเจรจากับเจ้าหนี้ให้มีการชะลอการชำระหนี้ออกไปอีกหลายปีเพื่อช่วยให้เศรษฐกิจฟื้นตัวขึ้น โดยหวังว่าจะมีการปรับโครงสร้างหนี้ภายในเดือน ส.ค.
                ? จีนมีแนวโน้มที่จะใช้นโยบายทางการเงินที่ผ่อนคลาย และใช้เครื่องมือทางการเงินที่หลากหลายขึ้นในช่วงครึ่งปีหลัง เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจให้ดีขึ้น หลังอัตราการขยายตัวของ GDP จีนอยู่ที่ 7% ในช่วงครึ่งปีแรก ซึ่งต่ำที่สุดในรอบ 6 ปี
                ? ค่าแรงในญี่ปุ่นเดือน มิ.ย. ลดลง 2.4% เมื่อเทียบรายปี โดยเป็นการปรับตัวลดลงมากที่สุดในรอบ 5 ปี เนื่องจากภาวะตึงตัวของตลาดแรงงาน ซึ่งขณะนี้มีอัตราว่างงานใกล้จุดต่ำสุดในรอบ 18 ปี ส่งผลให้บริษัทต่างๆ ชะลอการปรับขึ้นเงินเดือนเพราะปัญหาต้นทุน และอาจเป็นสัญญาณต่อการใช้จ่ายของผู้บริโภคที่อาจลดลงในอนาคต
                ? ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของเกาหลีในเดือน ก.ค. ปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.7% เมื่อเทียบรายปี โดยเพิ่มขึ้นน้อยกว่า 1% ติดต่อกันเป็นเดือนที่ 8 สะท้อนถึงการชะลอตัวลงของเศรษฐกิจเกาหลี จากผลกระทบของการระบาดของไวรัสทางเดินหายใจสายพันธุ์ตะวันออกกลาง (MERS)
                ? ธนาคารกลางออสเตรเลีย (RBA) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 2.0% ซึ่งเป็นระดับต่ำที่สุดเป็นประวัติการณ์ เพื่อไม่ให้ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลงต่อไป หลังค่าเงินปรับตัวตามสินค้าโภคภัณฑ์ที่อ่อนแอ ทั้งนี้ออสเตรเลียมียอดขาดดุลการค้า 2.9 พันล้านดอลลาร์ออสเตรเลียในเดือน มิ.ย. และ 9.9 พันล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย ในไตรมาส 2 ของปีนี้
                ? อินเดีย ประเทศผู้ซื้อถ่านหินเป็นอันดับ 3 ของโลก มียอดนำเข้าถ่านหินลดลงเป็นครั้งแรกในรอบ 15 เดือน ในเดือน ก.ค. ที่ 19.3 ล้านตัน ลดลง 11% เมื่อเทียบรายปี เนื่องจากบริษัทผลิตไฟฟ้าลดกำลังการผลิตลงเนื่องจากกำลังซื้อที่ลดลงเพราะปัญหาหนี้สินที่สูงของบริษัทจ่ายไฟฟ้า
                ? ธนาคารกลางอินเดียมีมติคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ 7.25% ในการประชุมวันที่ 4 ส.ค. ท่ามกลางแรงกดดันให้ปรับลงเพื่อลดต้นทุนการกู้ยืม
                ? อินโดนีเซียเตรียมเพิ่มการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านนโยบายการเงินและการคลัง หลังเศรษฐกิจในไตรมาสแรกขยายตัว 4.7% ต่ำที่สุดในรอบกว่า 6 ปี และมีแนวโน้มชะลอตัวต่อในไตรมาส 2 โดยธนาคารกลางอินโดนีเซียอาจลดอัตราดอกเบี้ยลงในการประชุมวันที่ 18 ส.ค. และรัฐบาลเตรียมเพิ่มการใช้งบประมาณทั้งในส่วนกลางและส่วนท้องถิ่น
 
สรุปข่าวเศรษฐกิจในประเทศ
                ? สถาบันเศรษฐกิจส่วนใหญ่เชื่อว่า กนง. จะมีมติให้คงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ 1.5% ในการประชุมวันนี้ (5 ส.ค.) เพื่อรอดูแนวโน้มการฟื้นตัวของเศรษฐกิจภายในประเทศก่อน หลังการปรับลดดอกเบี้ยเมื่อเดือน เม.ย. ไม่ได้ส่งผลกระทบที่ดีต่อเศรษฐกิจมากนัก รวมทั้งค่าเงินบาทอยู่ในสภาวะที่อ่อนค่าลงมากแล้ว และเศรษฐกิจโลกก็เริ่มมีสถานการณ์ที่ดีขึ้น
                ? พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด รองโฆษกรัฐบาล กล่าวว่า กระทรวงการคลังยังไม่ได้เสนอมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในการประชุม ครม. วันที่ 4 ส.ค. หลังจากที่ก่อนหน้านี้มีการคาดการณ์ว่าจะมีการอัดฉีดเม็ดเงินเข้าสู่ระบบเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจที่กำลังชะลอตัว
                ? SET Index ปิดที่ 1,432.16 จุด ลดลง 9.88 จุด หรือ -0.69% มูลค่าซื้อขาย 36,344.58 ล้านบาท โดยมีแรงขายในกลุ่มพลังงานหลังราคาน้ำมันดิบยังคงปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่องจากภาวะอุปทานส่วนเกิน นอกจากนี้ยังมีแรงขายจากนักลงทุนต่างชาติหลังจากค่าเงินบาทมีทิศทางที่อ่อนค่า อย่างไรก็ตามในช่วงนี้ต้องติดตามผลประกอบการไตรมาส 2/58 ของบริษัทจดทะเบียนที่กำลังทยอยประกาศออกมา และผลการประชุม กนง. ว่าจะคงหรือลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย
                ? รัฐบาลจีนจำกัดการชอร์ตเซลหุ้น โดยไม่ให้นักลงทุนขายและซื้อหุ้นคืนในวันเดียวกัน เพื่อลดความผันผวนและสร้างเสถียรภาพให้กับตลาดหุ้นจีนผ่านการป้องกันการเก็งกำไรระยะสั้น ทั้งนี้ตลาดหุ้นได้ปรับตัวขึ้นค่อนข้างมากสอดรับกับนโยบายดังกล่าว โดย Shanghai Composite Index ปิดที่ 3,756.54 จุด เพิ่มขึ้น 133.64 จุด หรือ 3.69%
                ? อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลเปลี่ยนแปลงในช่วงระหว่าง -0.05 % ถึง 0.00% ในทุกช่วงอายุตราสาร มูลค่าการซื้อขาย 102,154.50 ล้านบาท โดยกลุ่มบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด เป็นยอดซื้อสุทธิ 30,086 ล้านบาท สำหรับวันนี้ไม่มีการประมูล

สรุปยอดสุทธิการซื้อขายของแต่ละกลุ่ม (4 ส.ค. 58)
กลุ่มนักลงทุน                 ล้านบาท
นักลงทุนสถาบัน           -286.30
บัญชีบริษัทหลักทรัพย์ -202.29
นักลงทุนต่างชาติ      -1,057.75
นักลงทุนทั่วไป          +1,546.34
 
ที่มา : Good Morning News บลจ.บัวหลวง
เรียบเรียง โดย ประน้อม บุญร่วม  
                อีเมล์. reporter@efinancethai.com