ผู้เขียน หัวข้อ: ราคายางต่ำสุดหรือยัง? ช่วยกันคิดช่วยกันคุย  (อ่าน 3892 ครั้ง)

Rakayang.Com

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 85214
    • ดูรายละเอียด
(ขออนุญาติหยิบข้อมูลเก่าจาก ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ ธ.ไทยพาณิชย์)

                                               ราคายางต่ำสุดหรือยัง ช่วยกันคิดช่วยกันคุย :


ราคายางต่ำสุดหรือยัง? : โดย...ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ ธ.ไทยพาณิชย์

                  ราคายางพาราที่ปรับตัวลดลงต่ำสุดในรอบเกือบ 4 ปี เป็นผลมาจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีน เศรษฐกิจโลกและราคาน้ำมันดิบที่ปรับลดลง อย่างไรก็ดี ศูนย์วิจัยมองว่า ราคายางพาราได้ผ่านพ้น ?จุดต่ำสุด? ไปแล้ว และมีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้นในระยะต่อไป ตามการฟื้นตัวของภาวะเศรษฐกิจโลกและราคาน้ำมันดิบที่มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น     

                ยางพารา เป็นพืชเศรษฐกิจที่มีความสำคัญต่อเศรษฐกิจไทย ทั้งในแง่รายได้ (GDP) การจ้างงาน และการส่งออก โดยรายได้จากยางพาราคิดเป็นสัดส่วนราว 3.3% ของ GDP การจ้างงานคิดเป็น 15% ของกำลังแรงงานรวม ส่วนมูลค่าการส่งออกคิดเป็น 5.9% ของมูลค่าการส่งออกรวม
  ทั้งนี้ ในเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ราคาส่งออกยางพาราไทยได้ปรับตัวลดลงต่ำสุดในรอบเกือบ 4 ปี ราคาที่ปรับตัวลดลง เป็นผลมาจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีน เศรษฐกิจโลก และการลดลงของราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกเป็นหลัก เนื่องจากจีนเป็นผู้นำเข้าและผู้บริโภคยางพาราอันดับ 1 ของโลก ซึ่งความต้องการบริโภคยางพาราในอุตสาหกรรมดังกล่าวจะขึ้นอยู่กับภาวะเศรษฐกิจจีน ภาวะเศรษฐกิจโลก และราคาน้ำมันดิบ ในขณะที่ราคาน้ำมันดิบจะสะท้อนถึงต้นทุนในการผลิตยางสังเคราะห์ ซึ่งเป็นสินค้าที่สามารถใช้ทดแทนยางธรรมชาติ (ยางพารา)                           

                 ในช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมา เศรษฐกิจจีนชะลอตัวลงอย่างต่อเนื่อง ขณะที่เศรษฐกิจสหรัฐ ยูโรโซน และญี่ปุ่นมีการเติบโตในระดับต่ำ เช่นเดียวกับราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวลดลง ซึ่งจากปัจจัยดังกล่าวข้างต้น ส่งผลให้ความต้องการใช้ยางพาราในจีน โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมยางล้อปรับตัวลดลงและกดดันให้ราคายางพาราลดลงตามไปด้วย นอกจากนี้ สต็อกยางพาราของจีนที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ยังเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่กดดันให้ราคายางพาราปรับตัวลดลงในช่วงที่ผ่านมา                           

           ศูนย์วิจัยมองว่า ราคายางพาราไทยได้ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว และน่าจะเริ่มมีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้นในระยะต่อไป ตามการฟื้นตัวของอุปสงค์ยางพาราในจีนและราคาน้ำมันที่มีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้น  นับตั้งแต่เดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา เราจะพบว่า ราคายางพารามีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ดี มองว่าราคาส่งออกยางพาราของไทยไม่น่าจะสามารถปรับตัวเพิ่มขึ้น จนทำให้ราคาที่เกษตรกรได้รับปรับตัวเพิ่มขึ้นไปอยู่ที่ 120 บาทต่อกิโลกรัม ตามที่ชาวสวนยางเรียกร้อง                           

          สาเหตุสำคัญที่ทำให้ศูนย์วิจัย มองว่าราคายางพาราไม่น่าจะสามารถปรับตัวไปอยู่ที่ระดับ 120 บาทต่อกิโลกรัม คือ ปริมาณผลผลิตยางพาราโลกที่มีมากกว่าความต้องการบริโภค ประกอบกับผลผลิตยางพาราของอินโดนีเซียและมาเลเซียมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น อย่างไรก็ดี หากราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกปรับตัวลดลง และภาวะเศรษฐกิจโลกไม่ได้ฟื้นตัวดีขึ้นอย่างที่คาดการณ์ไว้ ราคายางพาราก็อาจจะไม่ปรับตัวเพิ่มขึ้น ตามที่เราได้คาดการณ์ไว้                           

          เอกชนไทยควรพัฒนาให้เกิดอุตสาหกรรมแปรรูปยางพาราขั้นสูงขึ้นในประเทศ เพื่อลดผลกระทบจากความผันผวนของราคายางพาราแปรรูปขั้นต้น ดังนั้น ภาครัฐและเอกชนไทยควรร่วมมือกันเพื่อที่จะเร่งส่งเสริมให้เกิดการแปรรูปยางพาราขั้นสูงขึ้นในประเทศและส่งออกผลิตภัณฑ์ยางเหล่านั้น ทดแทนการส่งออกยางพาราแปรรูปขึ้นต้น


(ช่วยกันคิดช่วยกันคุยแสดงความคิดเห็นกันได้)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤษภาคม 07, 2014, 05:02:55 PM โดย Rakayang.Com »