เช็กบิลสวนยางพารา (2)โดย ชมชื่น ชูช่อ 26 พ.ค. 2558 05:01 
การเสวนา ?ทางออกประเทศไทยในสถานการณ์บุกรุกป่า : ถึงคราวเช็กบิลสวนยางพารา? จัดโดย สมาคมสื่อมวลชนเกษตรแห่งประเทศไทย, กรมป่าไม้ และ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ที่นำเสนอไปเมื่อวาน ได้ข้อสรุป พื้นที่ป่าถูกบุกรุก 10 ล้านกว่าไร่...เป็นการบุกรุกเพื่อปลูกยางพารา 4.4ล้านไร่
แบ่งเป็นของนายทุนรายใหญ่ระดับชาติ 0.25 ล้านไร่ นายทุนระดับท้องถิ่น 1.6 ล้านไร่ และของเกษตรกรรายย่อย 2.55 ล้านไร่ ที่กรมป่าไม้จะเร่งทวงคืน
นายสังเวิน ทวดห้อย ประธานเครือข่ายสวนยางแห่งประเทศไทยกล่าวยอมรับ มีเกษตรกรเข้าไปบุกรุกป่าเพื่อปลูกยางพาราจริงๆ แต่ทำไปเพราะความยากจน ไม่มีที่ดินจะใช้เป็นเครื่องมือทำกิน...แต่จะมาโทษเกษตรกรเพียงฝ่ายเดียวไม่ ได้ ต้องโทษภาครัฐด้วย ที่ออกนโยบายส่งเสริมให้ปลูกยาง 1 ล้านไร่
เมื่อไม่มีที่ทำกิน ต้องการปลูกยางกับเขาด้วย...เลยต้องรุกป่า
?แต่ใช่ว่าจะรุกป่ากันทุกคน ต้องดูด้วยว่าพื้นที่เกษตรกรเข้าไปทำกินมาก่อนจะมีการประกาศเขตอุทยานแห่ง ชาติปี 2518 หรือไม่ ตรงนี้ ต้องพิสูจน์ทราบให้ชัดก่อนว่า เกษตรกรบุกรุกวนอุทยานหรือวนอุทยานประกาศทับที่ทำกินของเกษตรกรกันแน่?
ประธานเครือข่ายสวนยางแห่งประเทศไทย เห็นด้วย ถ้าหากกรมป่าไม้จะมีการจัดระเบียบป่าไม้เพื่อคืนพื้นที่ป่าสู่ธรรมชาติในรูป แบบ คนกับป่าอยู่ด้วยกัน แต่กรมป่าไม้จะต้องตรวจสอบพื้นที่ให้ชัดเจน ควรมีคณะกรรมการ ในท้องถิ่นเข้าไปมีส่วนร่วม โดยเฉพาะผู้ว่าราชการจังหวัด เกษตรกรส่วนใหญ่พร้อมและยินที่จะให้ความร่วมมือกับทางราชการตลอดเวลา
นายทวีศักดิ์ คงแย้ม ผอ.ฝ่ายส่งเสริมการสงเคราะห์ สำนักงานกองทุนสงเคราะห์การทำสวนยาง (สกย.) บอกว่า การบุกรุกป่าสงวน ทาง สกย.อยู่ ตรงกลาง เพราะมีหน้าที่เป็นเพียงผู้ส่งเสริมให้เกษตรกรปลูก และที่ผ่านมาหลักการส่งเสริมของ สกย. มี 2 รูปแบบด้วยกัน คือ โค่นยางเก่าเพื่อปลูกยางใหม่ กับ ส่งเสริมปลูกยางใหม่
โดยเน้นให้ปลูกในพื้นที่มีเอกสารสิทธิทำกิน แต่ถ้าจะปลูกในพื้นที่ ป่าสงวน จะต้องได้รับใบอนุญาตจากกรมป่าไม้เท่านั้น สกย.ถึงจะเข้าไปส่งเสริมได้.
ชมชื่น ชูช่อ 
