ผู้เขียน หัวข้อ: ต้องหยุดยั้งระบบทุน  (อ่าน 716 ครั้ง)

Rakayang.Com

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 84548
    • ดูรายละเอียด
ต้องหยุดยั้งระบบทุน
« เมื่อ: พฤษภาคม 19, 2015, 10:10:13 AM »
ต้องหยุดยั้งระบบทุน
ต้องหยุดยั้งระบบทุน : บทบรรณาธิการประจำวันจันทร์ที่ 18 พฤษภาคม 2558


ต้องหยุดยั้งระบบทุน height=347

  การบุกรุกป่ายังคงเป็นปัญหายืดเยื้อเรื้อรังและดูเหมือนว่าถ้าไม่หยุดยั้งก็ ยิ่งจะลุกลามออกไปไม่สิ้นสุด โดยตัวเลขล่าสุดจากการเปิดเผยของนายธีรภัทร ประยูรสิทธิ อธิบดีกรมป่าไม้ พบว่า ก่อนปี 2504 พื้นที่ป่าของไทยมีอยู่ 171 ล้านไร่ ปัจจุบันเหลือเพียงกว่า 102 ล้านไร่เท่านั้น และจากการตรวจสอบพบว่า พื้นที่ทั้งหมดถูกบุกรุกทั้งหมด 10 กว่าล้านไร่ ในทุกรูปแบบ ในจำนวนนี้มีการบุกรุกเพื่อการเกษตรมากที่สุดโดยเฉพาะการปลูกยางพาราทั้งหมด กว่า 5 ล้านไร่ ในจำนวนนี้เป็นพื้นที่ป่าในความรับผิดชอบของกรมป่าไม้ที่มีการปลูกยางพารา จำนวน 4.4 ล้านไร่ และพบมากที่หลังปี 2552 ถึงปัจจุบัน เกิดจากปัญหาเศรษฐกิจ การเมือง และความยากจน ซึ่งเกษตรกรบุกรุกราว 1.2 ล้านไร่ แต่ที่น่าจับตามองคือมีกลุ่มนายทุนที่บุกรุกเพื่อปลูกยางพาราจำนวน 1.5 ล้านไร่ ส่วนที่เหลือกำลังตรวจสอบอยู่ว่า ได้บุกรุกก่อนปี 2541 หรือไม่
     
              นโยบาย "ทวงคืนผืนป่า" ของรัฐบาล ภายใต้การนำของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) นับได้ว่าเป็นผลงานที่เป็นรูปธรรมมากที่สุดเรื่องหนึ่ง โดยเฉพาะการดำเนินการเอาผิดกับผู้บุกรุกป่าที่เริ่มจากการสนธิกำลังระหว่าง กองทัพภาคที่ 2 โดยการนำของ พ.อ.สมหมาย บุษบา เข้าตรวจค้นโบนันซ่า สปีดเวย์ ที่เขาใหญ่ จ.นครราชสีมา และขยายผลสู่การตรวจสอบที่ดินอีกหลายแปลงอันมีแนวโน้มว่าจะได้มาโดยมิชอบ แม้ว่าจะมีเอกสารสิทธิแสดงความชอบธรรมในการถือครองตามกฎหมายก็ตาม เพราะกรณีดังกล่าวจะต้องพิจารณาต่อไปว่า เอกสารสิทธิที่ทรงความศักดิ์สิทธิ์สูงสุดอย่างโฉนดนั้นได้มาอย่างถูกต้อง หรือว่าผ่านกระบวนการคอร์รัปชั่น ทำผิดให้เป็นถูก ซึ่งมีแนวโน้มว่าจะเป็นอย่างหลัง ซึ่งทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องจะต้องฟ้องร้องทวงคืนต่อไป
     
              ถ้าหากจะยึดเอากรณีบุกรุกป่าเขาใหญ่ เป็นโมเดลของการทวงคืนผืนป่าก็น่าจะเป็นแนวทางหนึ่ง เพราะสภาพของปัญหาที่พบล้วนสะท้อนถึงต้นเหตุและขบวนการยักยอกทรัพย์สิน สาธารณะอย่างเป็นระบบ โดยมีทั้งเรื่องการเมือง สังคม เศรษฐกิจ และประชากรในพื้นที่เข้ามาเกี่ยวข้อง ตามการวิเคราะห์ของ พ.อ.สมหมายเห็นว่า ปัญหาส่วนหนึ่งมาจากการเมืองทั้งแนวนโยบายการแจกที่ดินทำกิน และการใช้อิทธิพลเข้าบุกรุกเอาดื้อๆ อย่างไรก็ตาม ต้องยอมรับความจริงประการหนึ่งคือ มีประชาชนจำนวนหนึ่งยังขาดแคลนที่ดินทำกิน หรือการทำการเกษตรแล้วล้มเหลวจนสูญเสียที่ดินไป ทำให้เกิดการบุกรุกอย่างไม่สิ้นสุด กรณีนี้รัฐบาลก็จำเป็นต้องลงในรายละเอียดเพื่อหยุดยั้งปัญหาทั้งในด้านการ บริหารจัดการหรือกระทั่งการจัดโซนนิ่งที่ดินเพื่อการเกษตร โดยเฉพาะต้องแก้ปัญหา "ที่ดินเปลี่ยนมือ" เพื่อหยุดยั้งการรุกคืบของนายทุนให้ได้
     
              กล่าวสำหรับการบุกรุกพื้นที่ป่าเพื่อเกษตรกรรมยางพารา ค่อนข้างชัดเจนว่า จำนวนพื้นที่บุกรุกมากมายเช่นนั้น ไม่น่าจะเป็นการดิ้่นรนแสวงหาที่ดินทำกินของเกษตรกรรายย่อย ซึ่งอธิบดีกรมป่าไม้ยืนยันว่ารัฐจะกลั่นกรองออกจากกลุ่มนายทุนผู้บุกรุก เพื่อให้การดำเนินการเป็นไปตามเป้าหมาย ขณะเดียวกัน รัฐบาลก็ต้องบริหารจัดการที่ดินทำกินอย่างเป็นธรรมเพื่อไม่ให้มีการแผ้วถาง อีกต่อไป นั่นหมายถึงการใช้ที่ดินอย่างเหมาะสมและเป็นประโยชน์สูงสุดควบคู่ไปกับการ สร้างความมั่นคงในอาชีพให้เกษตรกร โจทย์ใหญ่ก็คือ ไม่มีชาวไร่ชาวนาที่ไหน อดทนก้มหน้าก้มตาทำการเกษตรบนผืนดินที่แพงขึ้นหลายเท่าตัวตามความต้องการใน เชิงพาณิชย์ ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญอีกข้อหนึ่งของการบุกรุกอย่างไม่สิ้่นสุด



ที่มา คม ชัด ลึก
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤษภาคม 19, 2015, 10:11:58 AM โดย Rakayang.Com »