ตลาดยางอาเซียนคุมราคาทั่วโลก ไทยจับมือ7ประเทศผู้ผลิตรายใหญ่ร่วมผลักดัน
ฝันเป็นจริงผุดตลาดยางพาราอาเซียนคุมราคาทั่วโลก ไทยจับมืออินโดนีเซีย-มาเลเซีย และเพื่อนบ้านรวม 7 ประเทศ ซึ่งมีผลผลิตยางรวมกันกว่า 80% ของโลก วางแผนผลักดันให้เกิดภายในปีครึ่ง เพื่อคุมกลไกการตลาดไม่ต้องถูกกดราคาอีก
นายปีติพงศ์ พึ่งบุญ ณ อยุธยา รมว.เกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่าภายหลังการร่วมหารือรัฐมนตรี 3 ประเทศ ประกอบด้วย ไทย อินโดนีเซีย และมาเลเซีย มีมติร่วมกันมอบหมายให้บริษัท ร่วมทุนยางพาราระหว่างประเทศ จำกัด (International Rubber Consortium Limited: IRCo) เป็น
ผู้ประสานงานการจัดตั้งตลาดยางพาราของภูมิภาคอาเซียนให้แล้วเสร็จภายใน 18 เดือน
"ในเดือนพ.ค.นี้จะเชิญประเทศผู้ผลิตยางพารา 7 ประเทศคือ ไทย มาเลเซีย อินโดนีเซีย กัมพูชา ลาว พม่า และเวียดนาม ร่วมหารือเพื่อกำหนดทิศทางราคายางพาราของโลก ผ่านทางการจัดตั้งตลาดยางพาราของภูมิภาคอาเซียน"
ด้านนายเยี่ยม ถาวโรฤทธิ์ ประธานเจ้าหน้าที่ผู้บริหาร บริษัท ร่วมทุนยางพาราฯ กล่าวภายหลังคณะทำงานจัดตั้งตลาดยางพาราของภูมิภาคอาเซียน (Regional Rubber Market: RRM) จากประเทศไทย อินโดนีเซีย และมาเลเซีย หารือร่วมกันเพื่อจัดตั้งตลาดยางพาราของภูมิภาคอาเซียน เบื้องต้นหลังการนำผลการหารือของ 3 ประเทศ สรุปผลผลิตยางพาราประมาณ 8 ล้านตัน หรือคิดเป็น 67% ของผลผลิตยางพาราทั่วโลก หารือบริษัทที่ปรึกษาเพื่อรายงานผลการศึกษาแนวทางและรูปแบบการจัดตั้งตลาดยางพาราอาเซียน
"บริษัทที่ปรึกษาแนะนำว่ารัฐบาลไทย อินโดนีเซีย และมาเลเซีย ควรร่วมมือกันจัดตั้งตลาดซื้อขายยางพาราของกลุ่มผู้ผลิตในภูมิภาคอาเซียนขึ้น เพื่อเป็นตลาดซื้อขายยางพาราที่ส่งมอบจริงของโลก จะทำให้ประเทศผู้ผลิตยางพาราสามารถกำหนดทิศทางราคาให้อยู่ในระดับที่เป็นธรรมต่อทั้งชาวสวนยางและผู้ใช้ยางพาราในอุตสาหกรรมยางของโลก และมีเสถียรภาพในระยะยาวต่อไป"
หากการร่วมมือของประเทศผู้ผลิตยางพาราเป็นรูปธรรมและสามารถจัดตั้งตลาดยางอาเซียนได้แล้วเสร็จจะทำให้ราคาที่ซื้อขายผ่านตลาดดังกล่าวสะท้อนราคาที่ควรจะเป็นที่สูงกว่าต้นทุนการผลิตของชาวสวนยาง การเคลื่อนไหวของราคายางพาราจะเป็นไปตามปริมาณผลผลิตที่ออกสู่ตลาดและปริมาณความต้องการใช้ในขณะนั้นๆ โดย 7 ประเทศอาเซียนเป็นผู้ผลิตยางพาราป้อนตลาดโลกในปัจจุบันมีประมาณ 9.5 ล้านตัน หรือคิดเป็น 80% ของผลผลิตยางพาราทั่วโลกSouce: เว็บไซต์ข่าวสด (Th)
