ผู้เขียน หัวข้อ: วิเคราะห์ปัจจัยที่มีผลต่อราคายาง วันพฤหัสบดีที่ 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558  (อ่าน 872 ครั้ง)

Rakayang.Com

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 85662
    • ดูรายละเอียด

วิเคราะห์ปัจจัยที่มีผลต่อราคายาง

วันพฤหัสบดีที่  26  กุมภาพันธ์  พ.ศ. 2558



ปัจจัย


วิเคราะห์


1. สภาพภูมิอากาศ


- โดยทั่วไปประเทศไทยมีฝนลดลงและมีอากาศร้อนในตอนกลางวัน ภาคใต้มีเมฆบางส่วน อุณหภูมิต่ำสุด 21 - 24 องศาเซลเซียส และสูงสุด 31 - 36 องศาเซลเซียส ส่งผลให้ผลผลิตยางลดลงเร็วขึ้นในช่วงฤดูยางผลัดใบ


2. การใช้ยาง


- รายงานการวิจัยที่เกี่ยวกับข้อมูลเชิงลึกของอุตสาหกรรมยางล้อ มีการคาดว่าตลาดยางล้อทั่วโลกจะขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 4.5 ต่อปีในอีก 2 - 3 ปีข้างหน้า โดยตลาดยางล้อใหญ่ที่สุดคือ จีน เยอรมัน อินเดีย อินโดนีเซีย และสหรัฐฯ ขณะที่ตลาดขยายตัวมากที่สุดคาดว่าจะอยู่ที่ประเทศเซเนกัล ร้อยละ 32.0 โมรอคโค ร้อยละ 14.6 โบลิเวีย ร้อยละ 13.0 สหรัฐฯ ร้อยละ 10.9 และจอร์แดน ร้อยละ 9.4


3. เศรษฐกิจโลก


- ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ระบุว่า คณะกรรมการเฟดเห็นว่าขณะนี้ยังไม่มีแนวโน้มที่ภาวะเศรษฐกิจจะหนุนการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย อย่างน้อยในช่วงการประชุม 2 ครั้งหน้า


- นายกรัฐมนตรีสเปนประกาศว่า รัฐบาลสเปนคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจของสเปนปี 2558 จะขยายตัวร้อยละ 2.4 และมั่นใจว่าปี 2558 ตลาดแรงงานจะมีตำแหน่งงานเพิ่มมากขึ้นถึง 1 ล้านตำแหน่ง โดยสเปนมีอัตราว่างงานร้อยละ 23.7 และมีประชากรกว่า 5 ล้านคนที่กำลังทำงาน


- สถาบัน Ifo เปิดเผยว่า ดัชนีคาดการณ์การส่งออกสำหรับภาคการผลิตของเยอรมันปรับตัวเพิ่มขึ้นเป็นเดือนที่ 5 ติดต่อกัน โดยคาดหวังในเดือนกุมภาพันธ์เพิ่มขึ้นแตะ 11.9 จาก 9.5 ในเดือนมกราคม


- HSBC โฮลดิ้งส์ เปิดเผยว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเบื้องต้นของจีนเดือนกุมภาพันธ์ขยับขึ้นแตะ 50.1 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 4 เดือน จาก 49.7 ในเดือนมกราคม


- เจ้าหน้าที่รัฐบาลกรีซเปิดเผยว่า ในวันนี้กรีซจะยังคงเดินหน้ายื่นขอขยายเวลาการกู้เงินต่อยูโรโซนออกไปอีก 6 เดือน หลังที่ประชุมยูโรโซนมีมติให้ขยายเวลาเงินกู้ออกไป 4 เดือน หลังมีการอนุมัติมาตรการปฏิรูปที่รัฐบาลกรีซยื่นเสนอมาก่อนหน้านี้


- สำนักงานสถิติแห่งชาติเปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของฝรั่งเศสเดือนกุมภาพันธ์ปรับตัวขึ้นแตะ 92.0 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2555 เมื่อเทียบกับ 90.0 ในเดือนมกราคม


- สภาแห่งรัฐของจีน หรือคณะรัฐมนตรีจีน ระบุว่า รัฐบาลจะเพิ่มความพยายามในการกระตุ้นการเติบโตทางเศรษฐกิจ โดยการลดหย่อนภาษีมากขึ้นสำหรับบริษัทขนาดย่อมจนถึงสิ้นปี 2560 และเพิ่มการลงทุนในโครงการเกี่ยวกับน้ำ


4. อัตราแลกเปลี่ยน


- เงินบาทอยู่ที่ 32.53 บาทต่อดอลล่าร์สหรัฐ แข็งค่าขึ้น 0.03 บาทต่อดอลล่าร์สหรัฐ


- เงินเยนอยู่ที่ 118.98 เยนต่อดอลล่าร์สหรัฐ อ่อนค่าลง 0.03 เยนต่อดอลล่าร์สหรัฐ


5. ราคาน้ำมัน


- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาด Nymex ส่งมอบเดือนเมษายน ปิดตลาดที่ 50.99 ดอลล่าร์สหรัฐต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้น 1.71 ดอลล่าร์สหรัฐต่อบาร์เรล หลังจากรัฐมนตรีน้ำมันซาอุดิอาระเบียกล่าวว่า อุปสงค์น้ำมันกำลังขยายตัวและความผันผวนในตลาดเริ่มลดน้อยลงในขณะนี้ ช่วยสกัดปัจจัยลบจากรายงานที่ระบุว่าสต๊อคน้ำมันดิบสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นกว่า 8 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว


- ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ (Brent) ตลาดลอนดอน ส่งมอบเดือนเมษายน ปิดที่ 61.63 ดอลล่าร์สหรัฐต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้น 2.97 ดอลล่าร์สหรัฐต่อบาร์เรล


- สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานสหรัฐฯ (EIA.) เปิดเผยว่า สต๊อคน้ำมันดิบสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นในสัปดาห์ที่แล้ว จากการที่โรงกลั่นลดกำลังการผลิต ขณะที่น้ำมันเบนซินและน้ำมันกลั่นมีปริมาณลดลง ทั้งนี้สต๊อคน้ำมันดิบเพิ่มขึ้น 8.4 ล้านบาร์เรล จากที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 4 ล้านบาร์เรล


- รัฐมนตรีน้ำมันซาอุดิอาระเบียกล่าวว่า อุปสงค์น้ำมันกำลังขยายตัวขึ้นจากระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 6 ปี ทั้งนี้ราคาน้ำมันลดลงราวร้อยละ 60 ระหว่างเดือนมิถุนายน 2557 ถึงมกราคม 2558


6. การเก็งกำไร


- ราคาตลาด TOCOM ส่งมอบเดือนมีนาคม อยู่ที่ 219.9 เยนต่อกิโลกรัม เพิ่มขึ้น 2.2 เยนต่อกิโลกรัม และส่งมอบเดือนกรกฎาคม อยู่ที่ 218.7 เยนต่อกิโลกรัม เพิ่มขึ้น 2.8 เยนต่อกิโลกรัม


- ตลาด SICOM เปิดตลาดที่ 181.0 เซนต์สหรัฐต่อกิโลกรัม ลดลง 1.7 เซนต์สหรัฐต่อกิโลกรัม


7. ข่าว


- กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ รายงานว่า ยอดจำหน่ายบ้านใหม่เดือนมกราคมดีกว่าที่คาด ขณะที่ปริมาณบ้านพุ่งสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2553 บ่งชี้ว่ายอดจำหน่ายบ้านจะฟื้นตัวขึ้นในปีนี้ หลังจากประสบภาวะซบเซาในปีที่แล้ว ทั้งนี้ยังระบุว่ายอดจำหน่ายบ้านใหม่ลดลงร้อยละ 0.2 ในเดือนมกราคม อยู่ที่ 481,000 ยูนิต จาก 482,000 ยูนิตในเดือนธันวาคม ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2551


8. ข้อคิดเห็นของผู้ประกอบการ


- ราคายางน่าจะทรงตัวหรือสูงขึ้นเล็กน้อย เพราะแม้ผลผลิตจะลดลงในฤดูยางผลัดใบ แต่ตลาดต่างประเทศยังคงซบเซา โดยผู้ประกอบการกล่าวว่า ยังคงขายออกยาก และต้องขายในราคาต่ำ ส่วนมากอยู่ที่ 173 - 175 เซนต์สหรัฐต่อกิโลกรัม ขณะที่เสนอขายในราคมตลาดล่วงหน้าสิงคโปร์ที่ 181 เซนต์สหรัฐต่อกิโลกรัม


แนวโน้ม ราคายางมีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้นตามตลาดล่วงหน้าโตเกียวและราคาน้ำมัน รวมทั้งเงินเยนอ่อนค่า ประกอบกับนักลงทุนขานรับข่าวธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ไม่มีแนวโน้มจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย และอุปทานยางลดลงตามฤดูกาล เห็นได้จากราคาน้ำยางสดปรับตัวสูงขึ้นสู่ระดับกิโลกรัมละ 48.00 บาท จากกิโลกรัมละ 37.00 บาท ในช่วงต้นเดือน






ทีมวิเคราะห์สำนักงานตลาดกลางยางพาราสงขลา