ผู้เขียน หัวข้อ: ไทยจับคู่ธุรกิจอินเดีย 137 คู่ ขยายการค้าลงทุนสู่ภูมิภาคเอเชียใต้เพิ่มส่งออกปี 58 ร่วมถึงยางพารา  (อ่าน 626 ครั้ง)

Rakayang.Com

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 84531
    • ดูรายละเอียด
ไทยจับคู่ธุรกิจอินเดีย 137 คู่ ขยายการค้าลงทุนสู่ภูมิภาคเอเชียใต้เพิ่มส่งออกปี 58


สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย- -26 ก.พ. 58 14:42 น.


นางนันทวัลย์ ศกุนตนาค อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ(สค.) กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยถึงการเดินทางไปส่งเสริมการค้า การลงทุน และการท่องเที่ยว ระหว่างวันที่ 25 ? 27 กุมภาพันธ์ 2558 ณ เมืองมุมไบ-กรุงนิวเดลี สาธารณรัฐอินเดีย โดยมีพล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รมว.พาณิชย์เป็นหัวหน้าคณะพร้อมผู้แทนภาคเอกชนและหน่วยงานภาครัฐว่า ได้เข้าหารือกับรมว.พาณิชย์และอุตสาหกรรมของอินเดีย  เพื่อรับทราบนโยบาย แลกเปลี่ยนข้อมูลและรับฟังความคิดเห็น ข้อเสนอแนะในการทำการค้าระหว่างไทยและอินเดีย จากนั้นได้หารือกับผู้บริหารระดับสูงของสภาอุตสาหกรรมอินเดีย(CII) มีสมาชิกกว่า 7,300 หน่วยงาน
               ?ในภาคเอกชนได้มีการจับคู่ธุรกิจการค้า ซึ่งในครั้งนี้มี 2 คู่ คือ ระหว่างสมาชิก Thaitrade.com และ Tradeindia.com  รวม137 คู่ คาดว่าจะมีมูลการซื้อขายราว 22.5 ล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นสินค้าในกลุ่มข้าว เทียนฝีมือ กาแฟ ผง ผสม ครีมเทียม บอลลูน กล่องเครื่องประดับ เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีกลุ่มผู้ประกอบการค้าและสมาคมวิชาชีพเกี่ยวกับธุรกิจก่อสร้างไทย กับผู้นำเข้าอินเดียในสาขาวัสดุก่อสร้าง รับเหมาก่อสร้าง ยางพารา อาหาร เป็นต้น
              สำหรับกิจกรรมทางการตลาดในปี 58  นอกจากจะเข้าพบผู้นำเข้าผู้จัดจำหน่ายรายใหญ่ การจัดงานไทยส่งเสริมการขายแล้ว  ยังมีการจัดงานแสดงสินค้าไทยแลนด์วีค รวมถึงการเข้าร่วมงานแสดงสินค้าไทยในอินเดีย คาดว่าจะทำให้การค้าขยายตัวมากขึ้น ทั้งนี้ไทยได้วางยุทธศาสตร์การขยายการค้าการลงทุนด้วยการ สร้างเสริมและพัฒนาการเป็นพันธมิตรทางเศรษฐกิจการค้าไทย - อินเดีย , การเจาะกลุ่มผู้บริโภคระดับกลาง และระดับสูง จำนวน 350 ล้านคนที่มีกำลังซื้อ โดยเน้นสินค้าไทยระดับคุณภาพปานกลาง ? ดี และกลุ่มสินค้าที่มี Brand Awareness สูง ,  กระจายตลาดทั้งเชิงลึกและเชิงกว้างจากส่วนกลางออกสู่ภูมิภาคต่างๆของอินเดีย และบุกตลาดเมืองรองที่มีอัตราการเจริญเติบโตที่สูง เช่น  กูวาฮาติ (รัฐอัสสัม)/ จันดิการ์ (รัฐปัญจาบ)/ วิสาขาปัตนัม (รัฐอันตรประเทศ)/อาห์เมดาบัด (รัฐคุชราต)/ ปูเน่ (รัฐมหาราชตะ)/ โคอิมปาตอง (รัฐทมิฬนาดู)
              นอกจากนี้จะเร่งสร้างพันธมิตรสามฝ่าย (ไทย - เมียนมาร์- อินเดีย) พัฒนาการค้าการลงทุนแถบภาคตะวันออกเฉียงเหนือของอินเดียที่เชื่อมโยงกับเมียนมาร์และไทย ,การส่งเสริมการใช้ประโยชน์ทางเศรษฐกิจการค้าจากความตกลง FTAs การพัฒนาปัจจัยโครงสร้างพื้นฐานทางเศรษฐกิจและเครือข่าย (Connectivity) ด้านการคมนาคมและการขนส่งในภูมิภาคอาเซียนบวกหก (จีน ญี่ปุ่น อินเดีย เกาหลีใต้ ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์) และอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง (GMS)
              ปัจจุบันนโยบายเศรษฐกิจของรัฐบาลอินเดียออกนโยบาย เพื่อมุ่งพัฒนาประเทศให้เติบโตในทุกมิติ โดยเฉพาะนโยบายสำคัญ 3 อย่าง คือ Make in India, Smart Cities และ Clean India เน้นดึงดูดการลงทุนทั้งจากในและต่างประเทศ เพื่อให้อินเดียกลายเป็นศูนย์กลางการผลิตของโลก, ส่งเสริมความสัมพันธ์กับประเทศในเอเชีย โดยเฉพาะเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ผลักดันความร่วมมือในภูมิภาคและสร้างความเชื่อมโยงกับประเทศเพื่อนบ้านในภูมิภาค ตามนโยบาย Look East Policy พร้อมประกาศแนวคิดเชิงรุก Act East ที่จะเพิ่มพูนความร่วมมือทางเศรษฐกิจการค้าการลงทุนกับภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และเอเชียตะวันออก, ส่งเสริมให้นักลงทุนต่างชาติเข้าไปลงทุนในประเทศ ให้สิทธิพิเศษและคุ้มครองผลประโยชน์สำหรับผู้ลงทุนในเขต Export Oriented Unit: EOU และ Special Economic Zone: SEZ
              นางนันทวัลย์  กล่าวว่า แนวโน้มเศรษฐกิจ  อินเดียมีขนาดเศรษฐกิจเป็นอันดับ 9 ของโลก และเป็นอันดับ 3 ของเอเชีย รองจากจีน ญี่ปุ่น มีการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่องเฉลี่ยร้อยละ 7 ต่อปี คาดว่าอีก 5 ปีข้างหน้าจะมีขนาดเศรษฐกิจเป็นอันดับ 3 ของโลก  มี GDP 60% มาจากภาคบริการ สาขาที่มีการขยายตัวและดึงดูดการลงทุนมากที่สุด คือ สารสนเทศและโทรคมนาคม การเงินและการธนาคาร การศึกษาวิจัย และการก่อสร้าง




เรียบเรียง โดย อิทธิพล พันธ์ธรรม  
                อีเมล์. reporter@efinancethai.com อนุมัติ    โดย พิมพ์รภัส ศิริไพรวัน