ผู้เขียน หัวข้อ: สำนักวิจัย ซีไอเอ็มบี ไทย : รายงานสรุปและวิเคราะห์สถานการณ์เศรษฐกิจและการเงินรายวัน 28/11/57  (อ่าน 445 ครั้ง)

Rakayang.Com

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 84462
    • ดูรายละเอียด
สำนักวิจัย ซีไอเอ็มบี ไทย : รายงานสรุปและวิเคราะห์สถานการณ์เศรษฐกิจและการเงินรายวัน 28/11/57


สหรัฐอเมริกา
  • ไม่มีรายงานข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญ เนื่องจากหน่วยงานราชการและตลาดการเงินสหรัฐปิดทำการในวันขอบคุณพระเจ้า

ยุโรป: สหภาพยุโรป
  • สภายุโรปได้ขยายกรอบเวลาระงับการคว่ำบาตรอิหร่านไปจนถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2558 ตามแผนปฏิบัติการร่วม (Joint Plan of Action) ที่จัดทำขึ้นในปีก่อนหน้าระหว่างกลุ่ม P5+1 และอิหร่าน ทั้งนี้ การขยายกรอบเวลาดังกล่าวเป็นมติของกลุ่ม P5+1 ซึ่งประกอบไปด้วยสหรัฐอเมริกา อังกฤษ ฝรั่งเศส จีน รัสเซีย และเยอรมนี รวมถึงอิหร่าน เพื่อยืดเวลาการบังคับใช้มาตรการตามแผนปฏิบัติการร่วมไปจนถึงเวลาที่กำหนด ซึ่งการระงับมาตรการดังกล่าวในบางด้าน เช่น การรับประกันและการขนส่งที่เกี่ยวข้องกับการขยายขายน้ำมันดิบของอิหร่านให้กับลูกค้ารายปัจจุบัน การนำเข้า ซื้อ หรือขนส่งผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมีของอิหร่าน ตลอดจนการซื้อขายทองและโลหะมีค่าร่วมกับรัฐบาลอิหร่านและหน่วยงานรัฐ
เยอรมนี
  • นางอังเกลา แมร์เคล นายกรัฐมนตรีเยอรมนีกล่าวว่า หนทางสู่การหลุดพ้นจากวิกฤตหนี้สินของยุโรปนั้นยังอยู่อีกยาวไกลและไม่ใช่เรื่องง่าย อย่างไรก็ดี นางแมร์เคลกล่าวว่า การตัดสินใจควบคุมงบประมาณของคณะกรรมาธิการยุโรปเมื่อไม่นานมานี้นั้นช่วยให้ยุโรปอยู่ในเส้นทางที่ถูกต้อง โดยถ้อยแถลงดังกล่าวของนางแมร์เคลมีขึ้นในระหว่างการอภิปรายในสภาผู้แทนราษฎรของเยอรมนี ทั้งนี้ นางแมร์เคลเชื่อว่า การลงทุน การเติบโตอย่างมีเสถียรภาพ และการบริหารการเงินอย่างเหมาะสม ควรจะดำเนินการไปพร้อมกัน โดยยกตัวอย่างที่ดีเช่นไอร์แลนด์และโปรตุเกส
  • หนังสือพิมพ์ Frankfurt Allgemeine ของเยอรมนีรายงานว่า นายกรัฐมนตรีอังเกล่า แมร์เคลของเยอรมนี ได้ออกมาเตือนว่า ยุโรปอาจเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอย โดยนายกฯเยอรมนีได้เรียกร้องให้เร่งหาข้อสรุปการเจรจาข้อตกลงทางการค้าร่วมกับแคนาดาและสหรัฐอเมริกาโดยเร็ว เมื่อพิจารณาถึงอิทธิพลของเอเชียที่มีต่อเศรษฐกิจโลก
อังกฤษ
  • สำนักงานสถิติแห่งชาติอังกฤษ รายงานว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ของอังกฤษขยายตัว 0.7% ในช่วงไตรมาส 3 ซึ่งชะลอตัวลงจากระดับ 0.9% ในไตรมาส 2 โดยอังกฤษมียอดผลผลิตเพิ่มขึ้น 0.2% เทียบรายไตรมาสในไตรมาส 3 ขณะที่ยอดการผลิตภาคก่อสร้างและบริการปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.8% ในไตรมาส 3 ขณะเดียวกัน ภาคครัวเรือนอังกฤษมีการใช้จ่ายเพิ่มขึ้น 0.8% ในไตรมาส3 เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน อย่างไรก็ตาม การลงทุนภาคธุรกิจปรับตัวลดลง 0.7% ในไตรมาส 3 การส่งออกหดตัวลง 0.4% ขณะที่ยอดนำเข้าปรับตัวเพิ่มขึ้น 1.4% เทียบรายไตรมาส

เอเชีย: จีน
  • สำนักงานสถิติแห่งชาติของจีน (NBS) เปิดเผยในวันนี้ว่า บริษัทอุตสาหกรรมรายใหญ่ของจีนมีผลกำไรในเดือนต.ค.ลดลง 2.1% เมื่อเทียบรายปี สู่ระดับ 5.7547 แสนล้านหยวน (9.434 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ) โดยในช่วง 10 เดือนแรกของปีนี้ บริษัทอุตสาหกรรมมีผลกำไรรวมที่ระดับ 4.94 ล้านล้านหยวน ซึ่งเพิ่มขึ้น 6.7% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน
เอเชีย
  • มูดีส์ อินเวสเตอร์ส เซอร์วิสเปิดเผยในรายงาน "แนวโน้มความน่าเชื่อถือในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก" ว่า คุณภาพความน่าเชื่อถือของประเทศ สถาบันการเงิน และบริษัทเอกชนทั่วภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก จะมีเสถียรภาพในปี 2558 เนื่องจากการฟื้นตัวเล็กน้อยของอุปสงค์ในต่างประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งอุปสงค์จากสหรัฐ รวมทั้งภาวะทางการเงินทั่วโลกที่เป็นไปในเชิงหนุนเศรษฐกิจ ความแข็งแกร่งของปัจจัยพื้นฐานในภูมิภาค และมาตรการป้องกันวิกฤตจากภายนอก โดยมูดีส์คาดว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศที่แท้จริง (Real GDP) ของจีนในปี 2558 จะขยายตัว 6.5% - 7.5% ทั้งนี้ มูดีส์ยืนยันว่า 19 ประเทศจาก 22 ประเทศในเอเชียแปซิฟิกที่มูดีส์ได้จัดอันดับความน่าเชื่อถือนั้น มีแนวโน้มที่มีเสถียรภาพ ซึ่งบ่งชี้ถึงการคาดการณ์ของมูดีส์เกี่ยวกับภาวะอันดับเครดิตที่มีเสถียรภาพในปี 2558 นอกจากนี้ มูดีส์ระบุว่า ระบบการธนาคารของภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกโดยรวมยังคงมีเสถียรภาพ โดยมี 10 ประเทศที่แนวโน้มของระบบการธนาคารมีเสถียรภาพ ขณะที่ 1 ประเทศที่มีแนวโน้มเป็นบวก และมี 5 ประเทศที่มีแนวโน้มเชิงลบ
เกาหลีใต้
  • สำนักงานกำกับดูแลด้านการเงินของเกาหลีใต้ (FSS) เปิดเผยว่า ยอดเงินกู้ที่ธนาคารพาณิชย์อนุมัติให้กับบริษัทเอกชนและภาคครัวเรือนในเกาหลีใต้ในเดือนตุลาคมปรับตัวสูงขึ้น 15 ล้านล้านวอน (ประมาณ 1.4 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ) มาอยู่ระดับ 1,242.5 ล้านล้านวอน (1.13 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ) หลังจากรัฐบาลประกาศสนับสนุนการปล่อยเงินกู้ให้กับบริษัทขนาดเล็กและยังได้ผ่อนคลายกฎระเบียบด้านการปล่อยกู้จำนอง ทั้งนี้ ยอดการอนุมัติสินเชื่อให้กับบริษัทเอกชนอยู่ที่ 705.3 ล้านล้านวอน ขณะที่ยอดการอนุมัติสินเชื่อสำหรับภาคครัวเรือนอยู่ที่ 506.7 ล้านล้านวอน และยอดอนุมัติสินเชื่อสำหรับองค์กรสาธารณะอยู่ที่ 30.5 ล้านล้านวอน
ฟิลิปปินส์
  • สำนักงานสถิติแห่งชาติฟิลิปปินส์เปิดเผยว่าผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ในไตรมาส 3 ขยายตัว 5.3% เมื่อเทียบรายปี ซึ่งเป็นอัตราขยายตัวรายปีต่ำสุดในรอบเกือบ 3 ปี และต่ำกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์ส่วนใหญ่คาดการณ์ไว้ที่ 6.5% เนื่องจากการใช้จ่ายของภาครัฐหดตัวลง และผลผลิตทางการเกษตรลดลงเพราะได้รับความเสียหายจากพายุไต้ฝุ่น ทั้งนี้ เมื่อเทียบรายไตรมาส GDP ขยายตัวชะลอลงจากอัตรา 6.4% ในไตรมาส 2 ส่วนจีดีพีเฉลี่ยในช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้อยู่ที่ 5.8% ต่ำกว่าเป้าหมายตลอดทั้งปีของรัฐบาลซึ่งอยู่ที่ 6.5-7.5%
ไทย
  • สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง(สศค.) มั่นใจว่าเศรษฐกิจไตรมาส 4/57 จะขยายตัวได้ในระดับ 4% และการส่งออกจะขยายตัวได้ไม่เกิน 3% ส่งผลให้ทั้งปีการส่งออกจะขยายตัวเพียง 0.1% ซึ่งเป็นไปตามเป้าเดิมที่เคยคาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ และภาพรวมเศรษฐกิจน่าจะขยายตัวราว 1.4%
??-  บาท/ดอลลาร์ วันพฤหัสบดี (27 พ.ย.) บาท/ดอลลาร์ค่อนข้างทรงตัว ขณะที่นักลงทุนชะลอการทำธุรกรรม หลังขาดปัจจัยใหม่ และตลาดสหรัฐหยุดทำการวันนี้ ด้านสกุลเงินเอเชียแข็งค่า หลังข้อมูลเศรษฐกิจที่ย่ำแย่ของสหรัฐกดดันดอลลาร์สหรัฐฯ
??-  เยน/ดอลลาร์ วันพฤหัสบดี (27 พ.ย.)  ดอลลาร์ปรับตัวลงเมื่อเทียบกับเยนในช่วงเช้าวันนี้ หลังข้อมูลเศรษฐกิจที่น่าผิดหวังของสหรัฐฯ ถ่วงอัตราผลตอบแทนพันธบัตร และลดความต้องการของนักลงทุนในการเข้าซื้อดอลลาร์ ขณะที่การที่เจ้าหน้าที่ญี่ปุ่นแสดงความวิตกเกี่ยวกับการอ่อนค่าของเยน และการลดลง ของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐได้ถ่วงดอลลาร์ลง
??-  ยูโร/ดอลลาร์ วันพฤหัสบดี (27 พ.ย.) ยูโรร่วงเมื่อเทียบกับดอลลาร์ในช่วงการซื้อขายที่ตลาดยุโรป ขณะที่ข้อมูลอัตราเงินเฟ้อของเยอรมนีมีแนวโน้มลดลงมากขึ้นในเดือนพฤศจิกายน ซึ่งตอกย้ำการคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางยุโรป (ECB) จะผ่อนคลายนโยบายการเงินแบบเชิงรุกมากขึ้น ทั้งนี้ ตลาดการเงินสหรัฐปิดทำการในวันนี้เนื่องในวันขอบคุณพระเจ้า และจะเปิดทำการเพียงครึ่งวันในวันพรุ่งนี้
??-   ตลาดสหรัฐฯ วันพฤหัสบดี (27 พ.ย.) ตลาดหุ้นสหรัฐปิดทำการในวันขอบคุณพระเจ้า
??-  ตลาดหุ้นเอเชีย วันพฤหัสบดี (27 พ.ย.) ตลาดหุ้นเอเชียส่วนใหญ่ปิดตลาดลดลง โดยตลาดหุ้นโตเกียวปิดตลาดร่วงลง หลังจากปรับตัวลงจากข้อมูลเศรษฐกิจที่ย่ำแย่ของสหรัฐ และเยนที่แข็งค่าขึ้น ขณะที่ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดร่วงลง เนื่องจากนักลงทุนชะลอการเข้าซื้อจากการพุ่งขึ้นอย่างต่อเนื่องของหุ้นจีน เนื่องจากไม่แน่ใจเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจจีน อย่างไรก็ดี ตลาดหุ้นจีนปิดเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ขณะที่เม็ดเงินใหม่หลั่งไหลเข้าตลาดเพื่อเตรียมสถานะรับการผ่อนคลายนโยบายการเงินอีก และการเสนอขายหุ้นให้แก่สาธารณชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) ที่กำลังจะออกมา
??-  ตลาดหุ้นไทย วันพฤหัสบดี (27 พ.ย.) ดัชนีหุ้นไทยปิดบวก 0.55% หลังภาวะซื้อขายภาคบ่ายดัชนีมีความผันผวนอยู่ในแดนบวก เนื่องจากมีแรงขายทำกำไรในระหว่างวัน เมื่อดัชนีปรับขึ้น ใกล้แนวต้านที่ 1,600 จุด   ทั้งนี้ นักวิเคราะห์ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยปรับขึ้น เนื่องจากมีแรงซื้อในหุ้นขนาดใหญ่ในกลุ่มธนาคาร และขนส่ง รวมถึงหุ้นขนาดเล็กปรับขึ้นทางเทคนิค อย่างไรก็ตาม ได้มีแรงขายในหุ้นกลุ่มพลังงาน เพื่อลดความเสี่ยง โดยต้องติดตามการประชุมโอเปก ทั้งนี้ ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ ปิดบวก 8.82 จุด มาที่ 1,599.82




เรียบเรียง โดย อรนุช ภัทรกุล  
                อีเมล์. reporter@efinancethai.com