ผู้เขียน หัวข้อ: "บิ๊กตู่"ยาหอมแก้ราคายาง เป็นระบบ เร่งดันเป็นวาระแห่งชาติ  (อ่าน 870 ครั้ง)

Rakayang.Com

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 83207
    • ดูรายละเอียด
"บิ๊กตู่"ยาหอมแก้ราคายาง เป็นระบบ เร่งดันเป็นวาระแห่งชาติ

วันที่ 28 กันยายน ภายหลัง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รองผู้บัญชาการทหารบก  พล.อ อัษรา เกิดผล เสนาธิการทหารบก และคณะ  ได้เดินทางมาถึงบริเวณหน้ากองบัญชาการกองทัพภาคที่ 4 โดยมีทหารกองเกียรติยศเพื่ออำลาตำแหน่งในโอกาสเกษียณอายุราชการ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการแก้ปัญหาราคายางพาราในภาคใต้ว่า วันนี้จะต้องเร่งแก้ปัญหาความไม่สงบในภาคใต้ให้เรียบร้อยโดยเร็ว รัฐบาลให้ความสำคัญในเรื่องนี้มากที่สุด เร่งผลักดันให้เป็นวาระแห่งชาติ จะทำอย่างไรให้ชาวสวนยางมีรายได้ดีขึ้น ที่ผ่านๆมาเป็นการแก้ปัญหาปลายเหตุ ถือว่าไม่ถูกต้อง เพราะปริมาณยางที่ออกมาไม่ได้ผลิตเพื่อเพิ่มเป็นมูลค่าให้สูงขึ้น ซึ่งได้มีการพูดคุยกันในรัฐบาลว่าจะทำอย่างไรให้มีโรงงานผลิตยางเพิ่มมากขึ้นในภาคใต้ ในทางกลับกันเราก็ต้องคิดว่าหากภาคใต้ยังไม่มีความสงบใครจะกล้ามาลงทุนสร้างโรงงานเราต้องรับรองความปลอดภัยให้กับนักลงทุนให้ได้

ฝากไปยังพี่น้องภาคใต้ว่า ทำพื้นที่ของตัวเองให้ปลอดภัย อย่าไปเข้ากับคนที่กระทำความผิด สร้างความขัดแย้ง เรียกคนเหล่านั้นออกมา มีโครงการหลายโครงการที่จะให้การช่วยเหลือกลุ่มคนเหล่านั้น ออกมาต่อสู้คดีก็จะกลายเป็นคนสุจริต หากต่อสู้กันแบบนี้ไม่มีใครได้มีแต่เสีย คนที่เหลืออีกกว่า 2 ล้านคน จะดำรงชีวิตทำมาหากินกันอย่างไร ไม่มีใครชนะใครอย่างแน่นอนหากยังสู้กันอย่างนี้ เมื่อภาคใต้ไม่สงบ การท่องเที่ยวที่กำลังเติบโตอย่างเต็มที่ก็จะหดหายไป โดยเฉพาะภาคใต้มีความอุดมสมบูรณ์ มีศักยภาพพร้อมที่จะรับนักท่องเที่ยวได้อย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นป่าไม้ ทะเล เป็นความงดงามที่ภาคอื่นๆไม่มีเป็นอัตตลักษณ์ที่โดดเด่นของภาคใต้ ทำไมไม่อยากให้คนอื่นเข้ามาท่องเที่ยวในภาคใต้ เมื่อไม่มีใครเข้ามาเราก็สูญเสียทรัพยากรไปโดยเปล่าประโยชน์ ดังนั้น ไทยพุทธ มุสลิม จึงต้องหันมาจับมือพร้อมยกเลิกความขัดแย้งที่เกิดขึ้นในภาคใต้ทั้งหมด เท่าที่รับฟังรายงานทราบว่านักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ต้องการเดินทางมาท่องเที่ยวในภาคใต้ แต่ไม่ปลอดภัย ทำให้ประเทศต้องสูญเสียรายได้ปีละไม่ต่ำกว่าแสนล้าน โดยเฉพาะภาคใต้หลายหมื่นล้าน"


พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอีกว่า วันนี้ประเทศไทยมีของดีที่สามารถสู้โลก อาทิ เรื่อง อาหารที่มีความอุดมสมบูรณ์ หรือ การท่องเที่ยว ซึ่งมีความหลากหลายไม่เหมือนกัน แล้วแต่จะเลือกว่าต้องการเที่ยวแบบไหน ขอเพียงอย่างเดียวให้ทุกคนอยู่ในความคิดที่เป็นหนึ่งเดียวกัน แม้เห็นต่างก็สามารถอยู่ด้วยกันได้อย่างสันติสุข ขอร้องอย่าให้ถึงขั้นคนอื่นต้องเข้ามาแก้ปัญหาให้ เราต้องแก้ปัญหาด้วยตัวของเราเอง คิดไปในทิศทางเดียวกัน ปัญหาทุกอย่างก็จะสงบลง ตลอดระยะเวลาของการรับราชการ 38 ปีของตนเองต้องแก้ปัญหาในเรื่องนี้มาตั้งแต่ปี 2547 มาแล้ว มันมีการพัฒนามาเรื่อยแต่ยังไม่ถึงสันติสุข 100%



ที่มา : มติชนออนไลน์ (วันที่ 29 กันยายน 2557)