ผู้เขียน หัวข้อ: 'ปชป.'จี้'บิ๊กตู่'เร่งแก้ราคายาง  (อ่าน 865 ครั้ง)

Rakayang.Com

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 84347
    • ดูรายละเอียด

'ปชป.'จี้'บิ๊กตู่'เร่งแก้ราคายาง
'อภิสิทธิ์' ไฟเขียว 'ปชป.' เสนอ 5 มาตรการ จี้ 'ประยุทธ์' เร่งแก้ราคายางตกต่ำ ถาม ป้องประโยชน์ 'ธุรกิจยางมะตอย' หรือ 'ชาวสวนยาง'
 
                            24 ก.ย. 57  นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ร่วมแถลงข่าวกับอดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ในจังหวัดที่มีพื้นที่ปลูกยางพารา ถึงมาตรการพยุงราคายางพาราของรัฐบาล ว่า ยังไม่ทำให้ราคากระเตื้องขึ้น แต่มีแนวโน้มที่ราคาจะลดต่ำลง ทั้งที่เป็นช่วงที่ผลผลิตน้อย ราคาต้องสูง จึงกังวลว่า หากเลยหน้าฝนไปในช่วงต้นปีที่ผลผลิตจะออกมามากขึ้น ราคายางพาราจะต่ำลงอีก ทั้งนี้แม้ว่ามาตรการที่รัฐออกมาจะถูกทาง แต่จะส่งผลในระยะยาว ไม่สามารถแก้ปัญหาในระยะสั้นได้
 
                            รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า หากดำเนินการตามนโยบายทำก่อน ทำจริง ทำทันที ก็ขอให้ดำเนินการตามข้อเสนอ 5 มาตรการ ซึ่งจะเสนอต่อนายปิติพงษ์ พึ่งบุญ ณ อยุธยา รมว.เกษตรและสหกรณ์ ผ่านไปยัง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ดำเนินการ ซึ่งนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ก็เห็นด้วยที่จะให้รีบเสนอต่อรัฐบาล
 
                            "ทั้งหมดขึ้นอยู่กับความจริงใจของรัฐบาลด้วยว่า จะปกป้องธุรกิจยางมะตอย หรือปกป้องเกษตรกรชาวสวนยางพารา การนำยางพารามาเป็นส่วนประกอบ แม้จะทำให้ค่าใช้จ่ายในการก่อสร้างเพิ่มขึ้น แต่ประโยชน์ที่จะได้มากกว่าราคาที่สูงขึ้น เพราะถ้ารัฐบาลทำตามข้อเสนอ ภายในปี 2558 ราคายางพาราจะสูงขึ้นทันที จึงขอให้ พล.อ.ประยุทธ์ ที่เคยประกาศว่า ทำก่อน ทำจริง ทำทันที ทำตามที่พูด หากต้องการขอความเห็น พวกผมยินดีช่วยแก้ปัญหากับรัฐบาล ส่วนการขายยางพาราในสต็อก อยากให้ทบทวน เพราะถ้าขาย ก็จะทำให้ราคายางไม่กระเตื้องขึ้น"
 
                            ด้านนายแพทย์สุกิจ อัถโถปกรณ์ อดีต ส.ส.ตรัง พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า 5 มาตรการที่พรรคประชาธิปัตย์จะเสนอต่อรัฐบาล
 
                            1. ทำให้ยางพาราในปริมาณที่มากพอหายไปจากตลาด ประกาศไม่ขายยางพาราในสต็อก แต่จะนำมาใช้ภายในประเทศ เพื่อทำให้ยางจำนวนนี้หายไปจากตลาด 2.1 แสนตัน
 
                            2. ต้องประกาศอย่างชัดเจนในการนำยางพารา มาเป็นส่วนประกอบไม่น้อยกว่า 5% ในการทำถนนสร้างใหม่ และการซ่อมแซม โดยต้องใช้ยางพาราใหม่ ที่ไม่ใช่ยางพาราในสต็อกของรัฐบาล
 
                            3. กำหนดนโยบายนำยางพารามาทำพื้นสนามกีฬาของส่วนราชการ และอุปกรณ์สนามเด็กเล่น
 
                            4. นำยางพาราเป็นวัสดุกันสะเทือนในโครงการก่อสร้างรถไฟรางคู่
 
                            5. ให้เร่งแก้ปัญหาอุตสาหกรรมการแปรรูปยางพาราให้คล่องตัวในการลงทุนในประเทศไทย เนื่องจากยังมีอุปสรรคหลายประการ เพื่อดึงดูดนักลงทุนเข้ามาในประเทศ เชื่อว่าหากทำได้จะทำให้ราคายางพาราดีดตัวสูงขึ้น
 
                            ขณะที่นายนริศ ขำนุรักษ์ อดีต ส.ส.พัทลุง พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า อุปสรรคในการประกอบอุตสาหกรรมการแปรรูปยางพารา มีตั้งแต่คณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) ขอให้เร่งพิจารณาผ่านการตั้งโรงงานแปรรูปยางพารา ขอให้พิจารณาผ่านเรื่องสิ่งแวดล้อม และ อย. ทั้งนี้ต้องมีการผลิตยางทดแทนการนำเข้า โดยในปัจจุบันนำเข้าปีละกว่า 3 หมื่นล้านบาท จากประเทศที่ไม่ได้ปลูกยางพารา คือ เยอรมัน สหรัฐ และฝรั่งเศส ซึ่งรัฐบาลต้องทำให้การนำเข้าเป็นศูนย์