ยางราคาตกยอดขายปุ๋ย-ต้นกล้าวูบ
24 กันยายน 2557 เวลา 14:48 น.
ตรัง-ราคายางพาราตกต่ำฉุดยอดขายปุ๋ย ต้นกล้าย่ำแย่หนักสุดในรอบ 15 ปี
เมื่อวันที่ 24 ก.ย.นายวีระ ตระกูลรัมย์ ผู้จัดการ บริษัท ตรัง-มาเลเซีย เทคโนโลยีเกษตร จำกัด ตัวแทนจำหน่ายปุ๋ยเคมีรายใหญ่ของจังหวัดตรัง กล่าวว่า ราคายางพาราที่ตกต่ำมีผลกระทบต่อธุรกิจจำหน่ายปุ๋ยยางเป็นอย่างมาก โดยในระยะแรกๆ ที่ยางอยู่ในช่วงราคา 70-80 บาท/กก. ยังไม่มีผลกระทบเท่าไหร่ แต่ใน 2-3 เดือนที่ผ่านมา หลังจากลดลงมาเหลืออยู่ในช่วงราคา 40-50 บาท/กก. กลับมีผลกระทบเยอะมาก ทำให้ยอดขายปุ๋ยยางลดลงไป 50 % เพราะชาวสวนส่วนใหญ่ขาดกำลังซื้อ และต้องนำเงินไปใช้อย่างอื่นที่จำเป็นมากกว่า
ด้าน นายภราดร นุชิตศิริภัทรา เจ้าของแปลงยางพาราพันธุ์ดีนายขำ กล่าวว่า จากการที่ยางมีราคาตกต่ำ ทำให้มีการปลูกยางลดลงตามกระแส และยอดการจำหน่ายต้นกล้ายางลดลง แต่พื้นที่ปลูกยางในจังหวัดตรังก็ยังไม่เปลี่ยนแปลงมากนัก เพราะพืชผลทางการเกษตรอื่นๆ ที่จะนำมาปลูกทดแทน เช่น ผลไม้ ก็ยังมีราคาตกต่ำ นอกจากจะปรับเปลี่ยนไปปลูกปาล์มน้ำมันบ้าง แต่เป็นเพียงเฉพาะเกษตรกรรายใหญ่เท่านั้น ส่วนเกษตรกรรายเล็กยังไม่มีการปรับเปลี่ยน เพราะการทำสวนปาล์มจะต้องมีพื้นที่มากพอสมควร ถึงจะประสบความสำเร็จ
ทั้งนี้ จากสถานการณ์ราคายางที่ตกต่ำสุดในรอบ 15 ปี ได้ส่งผลกระทบต่อการจำหน่ายต้นกล้ายางซึ่งใช้ต้นทุนค่อนข้างสูง โดยเฉพาะค่าแรงงานผลิตกล้ายาง ต้องใช้แรงงานที่มีความชำนาญ จึงต้องจ่ายค่าแรงงานอย่างต่ำวันละ 300 บาทต่อคน ส่วนร้านจำหน่ายปุ๋ยเพื่อใส่ยางต่างก็ได้รับผลกระทบ เพราะเมื่อยางราคาตก ชาวสวนจะยอมงดใส่ปุ๋ย ถึงแม้ว่าจะเปิดกรีดมานานหลายเดือนแล้วก็ตาม ส่งผลให้ยอดจำหน่ายปุ๋ยเพื่อใส่ยางลดลงกว่า 50 % ทำให้หลายร้านต้องปรับเปลี่ยนกลยุทธไปจำหน่ายปุ๋ยปาล์มแทน.