ผู้เขียน หัวข้อ: วิเคราะห์ปัจจัยที่มีผลต่อราคายาง วันอังคารที่ 8 กรกฎาคม พ.ศ. 2557  (อ่าน 1009 ครั้ง)

Rakayang.Com

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 84477
    • ดูรายละเอียด
วิเคราะห์ปัจจัยที่มีผลต่อราคายาง
วันอังคารที่  8  กรกฎาคม  พ.ศ. 2557
ปัจจัย[/t][/t][/t]
วิเคราะห์
1. สภาพภูมิอากาศ
 
- มรสุมตะวันตกเฉียงใต้มีกำลังแรงขึ้น ทำให้ประเทศไทยมีฝนเพิ่มขึ้นและตกหนักบางแห่ง โดยเฉพาะภาคใต้มีฝนร้อยละ 70 ของพื้นที่ ส่งผลกระทบต่อการกรีดยาง
 
2. การใช้ยาง
 
- สมาคมรถยนต์นั่งจีนเปิดเผยว่า   ยอดจำหน่ายรถยนต์ รถเอนกประสงค์ และรถเอสยูวี   เดือนมิถุนายนปรับตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 14.0 อยู่ที่ 1.47 ล้านคัน   ขณะที่ยอดจำหน่ายช่วง 6 เดือนปรับตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 11.0 อยู่ที่ 9.09 ล้านคัน
 
3. เศรษฐกิจโลก
 
- สำนักงานสถิติแห่งชาติเยอรมันเปิดเผยว่า ดัชนีการผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนพฤษภาคมลดลงร้อยละ 1.8 เมื่อเทียบเป็นรายเดือน   ลดลงสู่ระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนเมษายน 2555 เนื่องจากผลผลิตภาคการผลิตและภาคก่อสร้างปรับตัวลดลง
- ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ)   คงระดับการประเมินเศรษฐกิจทั้ง 9 ภูมิภาคไว้ แม้จะต้องรับมือกับผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการปรับขึ้นภาษีการค้าที่มีผล บังคับใช้เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา นับเป็นสัญญาณชี้ให้เห็นถึงความแข็งแกร่งของเศรษฐกิจ
- สำนักงานคณะรัฐมนตรีญี่ปุ่นเปิดเผยว่า ดัชนีภาวะเศรษฐกิจเดือนพฤษภาคมทรงตัวอยู่ที่ระดับเดียวกับเดือนเมษายน โดยรายงานระบุว่าดัชนีพ้องเศรษฐกิจ เช่น ผลผลิตภาคอุตสาหกรรม ยอดค้าปลีก และจ้างงานใหม่ ทรงตัวอยู่ที่ 111.1 จุด
- ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยการคลังของจีนเปิดเผยว่า เศรษฐกิจจีนจะสามารถบรรลุเป้าหมายการขยายตัวเศรษฐกิจของรัฐบาลที่ร้อยละ 7.5 ในปี   2557 คาดว่าผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 2 ของจีนอาจทรงตัวที่ร้อยละ 7.4 และจะปรับเพิ่มขึ้นในช่วงครึ่งปีหลังอยู่ที่ร้อยละ 7.6 ขานรับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ
- คอนเฟอเรนซ์ บอร์ด   เปิดเผยว่า ดัชนีแนวโน้มการจ้างงานเดือนมิถุนายนของสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นแตะ 119.62   จุด จาก 119.03 จุดในเดือนพฤษภาคม เน้นย้ำถึงภาวะแรงงานที่มีความแข็งแกร่งขึ้น
- สำนักงานสถิติแห่งชาติสเปนเปิดเผยว่า การผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนพฤษภาคมเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.4 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยระบุว่าการผลิตสินค้าคงทน เช่น รถยนต์   ลดลงร้อยละ 6.1 ส่วนการผลิตสินค้าไม่คงทน เช่น อาหาร ปรับตัวสูงขึ้นร้อยละ 0.9
 
4. อัตราแลกเปลี่ยน
 
- เงินบาทอยู่ที่ 32.40 บาทต่อดอลล่าร์สหรัฐ แข็งค่าขึ้น 0.01 บาทต่อดอลล่าร์สหรัฐ
- เงินเยนอยู่ที่ 101.77 เยนต่อดอลล่าร์สหรัฐ แข็งค่าขึ้น   0.64 เยนต่อดอลล่าร์สหรัฐ
 
5. ราคาน้ำมัน
 
- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาด Nymex ส่งมอบเดือนสิงหาคม ปิดตลาดที่ 103.53 ดอลล่าร์สหรัฐต่อบาร์เรล ลดลง 0.53 ดอลล่าร์สหรัฐต่อบาร์เรล เป็นการลดลงติดต่อกัน 7 วันทำการ หลังจากมีรายงานว่าลิเบียเตรียมส่งออกน้ำมันที่ท่าเรือ 2 แห่ง ซึ่งปิดทำการนานเกือบ 1 ปี
- กระทรวงพลังงานลิเบียเปิดเผยว่า   ท่าเรือเอส ซิเคอร์ ซึ่งเป็นท่าเรือที่ใหญ่ที่สุดของลิเบีย และท่าเรือ ราส ลานุฟ ซึ่งเป็นท่าเรือใหญ่อันดับ 3 มีน้ำมันดิบปริมาณ 7.5 ล้านบาร์เรลที่พร้อมจะส่งออกไปยังต่างประเทศ
 
6. การเก็งกำไร
 
- ราคาตลาด TOCOM ส่งมอบเดือนสิงหาคม อยู่ที่ 194.0 เยนต่อกิโลกรัม   ลดลง 1.2 เยนต่อกิโลกรัม และส่งมอบเดือนธันวาคม อยู่ที่ 202.1 เยนต่อกิโลกรัม ลดลง 1.1 เยนต่อกิโลกรัม
- ราคาตลาด SICOM เปิดตลาดที่ 198.8 เซนต์สหรัฐต่อกิโลกรัม   ลดลง 9.0 เซนต์สหรัฐต่อกิโลกรัม
 
7. ข่าว
 
- ผู้อำนวยการกองทุนระหว่างประเทศ   (IMF.) ส่งสัญญาณว่า IMF. อาจปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจโลก โดยระบุว่าการลงทุนยังคงอ่อนแอ และสหรัฐฯ ยังคงเผชิญกับความเสี่ยงแม้ว่าเศรษฐกิจฟื้นตัวขึ้นอย่างรวดเร็วก็ตาม
 
8.   ข้อคิดเห็นของผู้ประกอบการ
 
- ราคายางปรับตัวลดลง   เพราะราคาที่ซื้อก่อนหน้ายังสูงอยู่ ขายออกยาก จึงต้องพยายามให้ราคาเข้าสู่ความเป็นจริงที่ขายได้และลดการขาดทุน ประกอบกับมีการคาดการณ์ว่าผลผลิตน่าจะเพิ่มขึ้น เพราะหลายพื้นที่ต้นยางไดรับน้ำเต็มที่
 
   แนวโน้ม ราคายางมีแนวโน้มปรับตัวลดลงในทิศทางเดียวกับตลาดล่วงหน้าโตเกียวที่ปรับตัว ลดลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 3 สัปดาห์ จากการแข็งค่าของเงินเยนและราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวลดลง ประกอบกับความกังวลว่าผลผลิตยางจะมีปริมาณมากขึ้น หลังจากพื้นที่ปลูกยางหลายแห่งมีฝนตกชุก ต้นยางได้รับน้ำฝนเต็มที่ ขณะที่อุปสงค์ยางยังคงซบเซา เนื่องจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกยังไม่แข็งแกร่ง
ทีมวิเคราะห์สำนักงานตลาดกลางยางพาราสงขลา
[/td][/tr][/table]