ผู้เขียน หัวข้อ: วิเคราะห์ปัจจัยที่มีผลต่อราคายาง วันจันทร์ที่ 7 กรกฎาคม พ.ศ. 2557  (อ่าน 1111 ครั้ง)

Rakayang.Com

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 84478
    • ดูรายละเอียด

วิเคราะห์ปัจจัยที่มีผลต่อราคายาง
วันจันทร์ที่  7  กรกฎาคม  พ.ศ. 2557
ปัจจัย[/t][/t]
[/t]
วิเคราะห์
1. สภาพภูมิอากาศ- มรสุมตะวันตกเฉียงใต้พัดปกคลุมทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังแรงขึ้น ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณภาคตะวันออกและภาคใต้มีฝนเพิ่มขึ้นและฝนตกหนักเป็นบางแห่งร้อยละ 40 ของพื้นที่
2. การใช้ยาง- เจนเนอรัล มอเตอร์ หรือจีเอ็ม และบีเอ็มดับบลิว 2 ค่ายรถชั้นนำโลกตัดสินใจยุติสายการผลิตที่โรงงานในแอฟริกาใต้ หลังการชุมนุมประท้วงของสหภาพแรงงานเหล็กกว่า 2 แสนคนลุกลาม ทำให้การผลิตชิ้นส่วนรถยนต์ชะงักงันและสถานการณ์เริ่มรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ
- กรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส การตลาดและขาย บริษัทนิสสัน มอร์เตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ปีนี้ยอดจำหน่ายรถยนต์ในประเทศจะลดลงเหลือประมาณ 9 แสนคัน ลดลงจากปีก่อนที่มียอดจำหน่ายกว่า 1 ล้านคัน หรือลดลงจากช่วยเดียวกันของปีก่อนถึงร้อยละ 40 เนื่องจากช่วงครึ่งปีแรกมีปัจจัยหลายอย่างเข้ามากระทบ เพราะปีก่อนมีการส่งมอบรถยนต์ตามโครงการรถยนต์คันแรก ดังนั้น หากไม่นับยอดส่งมอบที่เพิ่มขึ้นมากกว่าปกติยอดจำหน่ายรถยนต์ปีนี้ไม่ได้แย่มากนัก เพราะปี 2553 และ 2554 ยอดจำหน่ายอยู่ที่ประมาณ 8 แสนคัน ส่วนแนวโน้มปีหน้ายังคาดการณ์ได้ยาก ขึ้นอยู่กับแนวโน้มครึ่งปีหลังเป็นสำคัญว่าจะฟื้นตัวดีขึ้นได้มากน้อยเพียงใด
3. สต๊อคยาง- สต๊อคยางจีน ณ วันที่ 4 กรกฎาคม 2557 เพิ่มขึ้น 49 ตัน หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.03 อยู่ที่ 149,047 ตัน จากระดับ 148,998 ตัน เมื่อวันที่ 28 มิถุนายน 2557
4. เศรษฐกิจโลก- นางคริสติน ลาการ์ด ผู้อำนวยการของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF.) กล่าวว่า กิจกรรมทางเศรษฐกิจโลกมีแนวโน้มฟื้นตัว แต่อาจไม่แข็งแกร่งอย่างที่คาดไว้ โดยเศรษฐกิจโลกในไตรมาส 2 ของปีนี้จะฟื้นตัวขึ้น แต่อาจเป็นไปอย่างเชื่องช้ากว่าที่คาดไว้ เนื่องจากการลงทุนยังคงซบเซา อีกทั้งมองว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ กำลังฟื้นตัวและเติบโตอย่างต่อเนื่อง หากธนาคารกลางสหรัฐฯ ยุติการใช้มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE 3) อย่างเป็นระบบ และมีการวางกรอบงบประมาณระยะกลางอย่างชัดเจน ส่วนเศรษฐกิจในกลุ่มประเทศยูโรโซนที่กำลังหลุดพ้นภาวะถดถอยอย่างช้า ๆ แต่ละประเทศจึงต้องเดินหน้าผลักดันการจัดตั้งสหภาพธนาคารให้เสร็จสมบูรณ์โดยเร็ว ด้านแนวโน้มการเติบโตทางเศรษฐกิจจีนนั้น จะไม่เผชิญกับภาวะชะลอตัวลงรุนแรงนัก โดยในปีนี้เศรษฐกิจจีนอาจโตอยู่ที่ระดับร้อยละ 7 - 7.5
- นายอิบราฮิม เมห์เลบ นายกรัฐมนตรีของอียิปต์ได้ออกมาปกป้องการตัดสินใจของรัฐบาลที่ยกเลิกการพยุงราคาเชื้อเพลิงและก๊าซธรรมชาติ จนเป็นเหตุให้ราคาน้ำมันในประเทศพุ่งขึ้นจากเดิมถึงร้อยละ 78 ว่าจำเป็นต้องทำเพื่อแก้ปัญหาเศรษฐกิจที่ได้รับความเสียหายจากเหตุวุ่นวายในประเทศมาร่วมสามปี และการยกเลิกพยุงราคาเชื้อเพลิงและก๊าซธรรมชาติที่มีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม 2557 เป็นส่วนหนึ่งของความพยายามลดการขาดดุลของอียิปต์ให้เหลือร้อยละ 10 ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ภายในปีงบประมาณหน้า จากที่คาดการณ์ว่าในปีงบประมาณ 2556 - 2557 อียิปต์จะขาดดุลร้อยละ 12
- คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของจีน เผยร่างกฎระเบียบการเพิกถอนบริษัทจดทะเบียนออกจากตลาดหลักทรัพย์ฉบับใหม่ โดยความเคลื่อนไหวครั้งนี้มีขึ้นเพื่อปรับปรุงกฎระเบียบที่ประกาศใช้มาตั้งแต่ปี 2536 และแก้ไขไปเพียงครั้งเดียวในปี 2548 ให้ดีขึ้น อย่างไรก็ตาม รายงานข่าวระบุว่ากฎระเบียบใหม่นี้จะมีผลบังคับใช้ภายหลังจากที่มีการทำประชาพิจารณ์ และแก้ไขเพิ่มเติมในบางเรื่องแล้ว
5. อัตราแลกเปลี่ยน- เงินบาทอยู่ที่ 32.41 บาทต่อดอลล่าร์สหรัฐ แข็งค่าขึ้น 0.02 บาทต่อดอลล่าร์สหรัฐ
- เงินเยนอยู่ที่ 102.41 เยนต่อดอลล่าร์สหรัฐ อ่อนค่าลง 0.23 เยนต่อดอลล่าร์สหรัฐ
6. ราคาน้ำมัน- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาด Nymex ส่งมอบเดือนสิงหาคม ปิดตลาดที่ 104.06 ดอลล่าร์สหรัฐต่อบาร์เรล ลดลง 0.16 ดอลล่าร์สหรัฐต่อบาร์เรล เนื่องจากได้รับแรงกดดันจากการคาดว่าอุปทานน้ำมันจากลิเบียอาจเข้าสู่ตลาดน้ำมันโลกมากกขึ้น หลังจากมีรายงานว่าท่อน้ำมัน 2 แห่งของลิเบียสามารถดำเนินการได้ตามปกติ
- แบงก์ ออฟ อเมริกา เผยสหรัฐฯ ขึ้นแท่นเป็นผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่ที่สุดในโลกนำหน้าซาอุดิอาระเบียและรัสเซีย โดยไตรมาสแรกมียอดการผลิตต่อวันสูงกว่า 11 ล้านบาร์เรล
7. การเก็งกำไร- ราคาตลาด TOCOM ส่งมอบเดือนสิงหาคม อยู่ที่ 199.2 เยนต่อกิโลกรัม ลดลง 5.2 เยนต่อกิโลกรัม และส่งมอบเดือนธันวาคม อยู่ที่ 208.6 เยนต่อกิโลกรัม ลดลง 4.4 เยนต่อกิโลกรัม
- ราคาตลาด SICOM เปิดตลาดที่ 207.8 เซนต์สหรัฐต่อกิโลกรัม ลดลง 1.2 เซนต์สหรัฐต่อกิโลกรัม
8. ข่าว- นักวิเคราะห์คาดว่าธนาคารกลางอังกฤษจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมนโยบายเดือนกรกฎาคม ภายหลังจากที่ภาคการผลิตและการก่อสร้างของอังกฤษขยายตัวดีขึ้น ซึ่งถือเป็นอีกสัญญาณที่บ่งชี้ว่าเศรษฐกิจของอังกฤษมีความแข็งแกร่งขึ้น
9. ข้อคิดเห็นของผู้ประกอบการ- ราคายางลดลงประมาณ 1 บาท ในทิศทางเดียวกับราคาตลาดต่างประเทศ ประกอบกับผู้ประกอบการหลายรายชะลอการซื้อ เนื่องจากขายออกยาก และในช่วงที่ผ่านมาได้มีการซื้อเกินราคามาตลอด ทำให้ผู้ประกอบการปรับลดราคาเพื่อให้สอดคล้องกับความเป็นจริง
แนวโน้ม ราคายางมีแนวโน้มปรับตัวลดลงในทิศทางเดียวกับตลาดล่วงหน้าโตเกียว จากการแข็งค่าของเงินเยนและราคาน้ำมันที่ปรับตัวลดลง ประกอบกับนักลงทุนยังคงวิตกกังวลต่อปริมาณสต๊อคยางภายในประเทศและสต๊อคยางจีนที่ยังคงเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง มีจำนวน 149,047 ตัน (4 กรกฎาคม 2557) ชี้ให้เห็นว่าจีนยังคงชะลอซื้อยางเพื่อเป็นการระบายยางในสต๊อค
ทีมวิเคราะห์สำนักงานตลาดกลางยางพาราสงขลา
[/td][/tr][/table]