แตกใบอ่อน : การบ้านข้อใหญ่
ข่าวทั่วไป หนังสือพิมพ์แนวหน้า -- อังคารที่ 10 มิถุนายน 2557 06:00:00 น.
ในที่สุดก็มีความชัดเจนออกมาจาก ?กระทรวงพาณิชย์? ถึงอนาคตของ ?โครงการรับจำนำข้าว? ภายหลังจากอธิบดีกรมการค้าภายใน ?สมชาติ สร้อยทอง? ออกมายืนยันชัดถ้อยชัดคำระหว่างการร่วมประชุมกับ ?พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ? ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารบก ในฐานะรองหัวหน้าฝ่ายเศรษฐกิจ คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) และองค์กรชาวนา 8 กลุ่ม เมื่อวันเสาร์ที่ 7 มิถุนายนที่ผ่านมา
คุณสมชาติ แกยืนยันเสียงหนักแน่นว่า จะไม่มีการทำโครงการรับจำนำข้าวและโครงการประกันรายได้อย่างแน่นอน แต่อาจสนับสนุนหรือ ?ชดเชย? ปัจจัยการผลิตแทน ซึ่งขณะนี้ได้ทำข้อเสนอแนวทางต่างๆ ให้กับ คสช. เรียบร้อยแล้ว รอเพียงการวิเคราะห์หารือให้ตกตะกอนเป็นข้อสรุปอย่างเป็นทางการ ซึ่งคาดว่าน่าจะประกาศให้ทราบได้ภายในสัปดาห์นี้ว่า แนวทางการชดเชยดังกล่าวจะเป็นอย่างไร
สิ่งที่น่าดีใจอีกอย่างที่ออกมาจากห้องประชุมเดียวกันเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา คือ การแสดงท่าทีขององค์กรชาวนา 7 ใน 8 องค์กร ที่ต่างสนับสนุนให้ คสช. เดินหน้ายกเลิกโครงการรับจำนำข้าวไปเสีย เพราะดังที่ทราบกันนี้ว่าโครงการนี้นอกจากจะทำให้เกิดการบิดเบือนกลไกตลาดค้าข้าวแล้ว ยังทำให้เศรษฐกิจของประเทศพินาศแทบย่อยยับ ทำมาแค่ 2 ปีกว่าๆ ขาดทุนไปไม่ต่ำกว่า 5 ล้านล้าน
และที่สำคัญคือ มีการโกงกันอย่างมโหฬาร แม้แต่คำว่า ?โคตรโกง? ก็ยังไม่เพียงพอที่จะนำมาบรรยายถึงการทุจริตที่เกิดขึ้นได้!
ส่วน 1 ใน 8 องค์กรที่เหลือ ที่ยังดึงดันจะให้มีโครงการรับจำนำข้าวต่อไป ก็ใช่ใครที่ไหน คือ ?สมาคมชาวนาและเกษตรกรไทย? ที่มี ?วิเชียร พวงลำเจียก? เป็นนายกสมาคมอยู่นั่นเอง
ตัวของ นายวิเชียร คงไม่ต้องบรรยายสรรพคุณอะไรมาก เพราะในวงการเขาทราบกันดีอยู่ว่าค่อนข้างมีความสนิทสนมกับกลุ่มเสื้อแดงและคนในพรรคเพื่อไทยอย่างลึกซึ้ง จนกระทั่งถูกค่อนขอดว่าเป็น ?ชาวนาเสื้อแดง? ดังนั้นจึงไม่มีอะไรต้องแปลกใจที่ยังคงยืนกรานให้เดินหน้าโครงการรับจำนำข้าว เหมือนกับที่คนในอดีตรัฐบาล ?ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร? และพรรคเพื่อไทย คอยตะแบงมาก่อน โดยไม่สนใจต่อความวิบัติฉิบหายของบ้านเมืองที่เกิดขึ้นจากความล้มเหลวและการทุจริตในโครงการรับจำนำข้าว
จากนี้ไป จึงต้องมาลุ้นกันต่อถึงมาตรการแก้ปัญหาให้กับชาวนาในระยะเร่งด่วนที่ คสช. จะประกาศออกมาภายในสัปดาห์นี้ว่าจะมีหน้าตาอย่างไร และทิศทางการแก้ไขปัญหาในระยะกลาง ระยะยาว ที่จะออกตามมาในอนาคตจะมีหน้าตาอย่างไร
โดยเฉพาะการแก้ปัญหาราคาผลผลิตตกต่ำ ต้นทุนการผลิต ค่าปุ๋ย ค่ายาฆ่าแมลง ค่าสารเคมี ซึ่งเป็นปัญหาที่มีความเชื่อมโยงในหลายบริบท หลายมิติ อาทิ การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมหรือวิธีการเพาะปลูกของเกษตรกร การจัดโซนนิ่งพื้นที่เพาะปลูกที่พูดกันมาไม่รู้กี่ปีแต่ก็ยังไม่เคยมีรูปธรรมความคืบหน้า กระบวนการขึ้นทะเบียนเกษตรกรที่ต้องถูกต้องแม่นยำปลอดข้อมูลเท็จ การถือครองที่ดินทำกินของกลุ่มนายทุน รวมทั้งผลประโยชน์ของกลุ่มบริษัทผู้ผลิตเมล็ดพันธุ์และสารเคมีทางการเกษตร และการเกษตรพันธสัญญา ซี่งหลายข้อเป็นปมที่ทับซ้อนไปด้วยผลประโยชน์ของผู้เกี่ยวข้องจำนวนมาก และทำให้เกษตรกรเมืองไทยไม่สามารถลืมตาอ้าปากมาได้จนถึงปัจจุบัน
ถือเป็นการบ้านข้อใหญ่ที่ คสช. ต้องทำการศึกษา เพื่อให้ผลประโยชน์ตกไปถึงเกษตรกรและชาวนาอย่างแท้จริง
มะลิลา