Update/STA เผยกำไรปีนี้มีโอกาสต่ำกว่าปีก่อน ดีที่สุดแค่ทรงตัว เหตุราคายางเป็นขาลง แม้ยอดขายเติบโต สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย- -2 มิ.ย. 57 16:34 น.
STA เผยกำไรปีนี้มีโอกาสต่ำกว่าปีก่อน ดีที่สุดแค่ทรงตัว เหตุราคายางเป็นขาลง แม้ยอดขายเติบโต พร้อมคาดกำไร Q2/57ทรงตัวจาก Q1/57เหตุราคายางแค่ทรงตัว ตั้งงบลงทุน 3.6 พันลบ.ใช้ปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิต-เพิ่มพื้นที่ปลูกยางพารา นายวีรสิทธิ์ สินเจริญกุล กรรมการบริหาร บริษัท ศรีตรังแอโกรอินดัสทรี จำกัด (มหาชน) หรือ STA เปิดเผยว่า ในปีนี้บริษัทฯ คาดว่าจะมีกำไรสุทธิต่ำกว่าปีก่อน หรืออย่างดีที่สุดจะแค่ทรงตัว จากปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 1,812 ล้านบาท เนื่องจากราคาขายยางในปีนี้คาดว่าจะเฉลี่ยอยู่ที่ 40-50 บาทต่อกิโลกรัม ลดลงจากปีก่อนที่มีราคาขายเฉลี่ยทั้งปีอยู่ที่ 50-60 บาทต่อกิโลกรัม เนื่องจากมีความต้องการใช้ยางสังเคราะห์ในตลาดโลกเพิ่มขึ้น ซึ่งมีราคาถูกกว่า ประกอบกับในช่วงไตรมาสแรกปีนี้ บริษัทฯ มีผลขาดทุนจากนสต็อกสินค้าจำนวน 900 ล้านบาท โดยในช่วงที่เหลือปีนี้บริษัทฯ มีการวางแผนการผลิตและการจัดซื้อให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น เพื่อลดการขาดทุนดังกล่าว ??
??ขณะเดียวกัน ในปีนี้บริษัทฯ จะสามารถทำยอดขายได้ตามเป้าที่วางไว้ 1.2 ล้านตัน สูงกว่าปีก่อนที่มียอดขาย 1.12ล้านตัน ตามความต้องการยางในตลาดโลกที่ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น โดยคาดว่าในปีนี้ความต้องการยางจะสูงกว่าปีก่อนที่อยู่ที่ 11.3ล้านตัน โดยในไตรมาสแรกบริษัทฯ มียอดขายอยู่ที่ 3.08 แสนตัน ??
??" กำไรทั้งปีปีนี้ มีโอกาสที่จะต่ำกว่าปีก่อน หรืออย่างดีที่สุด เราคาดว่าจะแค่ทรงตัว เนื่องจากราคาขายยางยังอยู่ในช่วงขาลง แม้ยอดขายจะมีการเพิ่มขึ้นทุกปี เนื่องจากมีการแทรกแซงตลาดและมีความต้องการใช้ยางสังเคราะห์เพิ่มขึ้น ซึ่งเราเองจะมีการจัดหาวัตถุดิบและการสร้างความสามารถในการผลิตให้ดีขึ้น เพื่อให้กำไรของบริษัทฯ ลดลงน้อยที่สุด"นายวีรสิทธิ์ กล่าว ?
?
?? ทั้งนี้ บริษัทฯตั้งเป้าที่จะรักษาอัตรากำไรสุทธิในปีนี้ให้อยู่ใกล้เคียงปีก่อนที่ 2% โดยในไตรมาสแรกที่ผ่านมาบริษัทฯ มีอัตรากำไรสุทธิอยู่ที่ 1.8%
??โดยในช่วงไตรมาส 2/2557 บริษัทฯ คาดว่ากำไรสุทธิจะทรงตัวจากไตรมาส 1/2557 เนื่องจากราคาขายยางยังไม่มีแนวโน้มที่จะปรับตัวสูงขึ้น ขณะที่ยอดขายคาดว่าจะใกล้เคียงในช่วงไตรมาสแรกที่อยู่ที่ 22,765 ล้านบาท คิดเป็นปริมาณการขาย ที่ 2.8-3.1 แสนตัน ใกล้เคียงกับไตรมาสแรกที่มีปริมาณขาย 3.08 แสนตัน ?
?
??" ในไตรมาส 2 ยังไม่เห็นภาพที่ชัดเจนของราคายางที่ปรับตัวสูงขึ้น ถึงแม้ปริมาณขายมีโอกาสเติบโต ทำให้เรายังเชื่อว่ากำไรสุทธิและรายได้จะทรงตัวใกล้เคียงกับไตรมาสแรก" นายวีรสิทธิ์ กล่าว
??ด้านงบลงทุนปีนี้ ตั้งไว้ที่ 3,650 ล้านบาท โดยจะใช้ในการเพิ่มกำลังการผลิตในโรงงานผลิตยางต่างๆ จำนวน 1,900 ล้านบาท ใช้ในการปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิตยาง 650 ล้านบาท และใช้ในการเพิ่มพื้นที่ปลูกยางพารา 1,100 ล้านบาท โดยในปีนี้บริษัทฯ ตั้งเป้าเพิ่มพื้นที่ปลูกยางอีก 50,000 ไร่ โดยในปัจจุบันมีพื้นที่พร้อมสำหรับปลูกยางแล้วกว่า 47,000 ไร่ โดยที่พื้นที่สวนยาง 1 ไร่จะให้ผลผลิต 300-400 กิโลกรัมต่อไร่ต่อปี
??
??"ในปีนี้จะมีการลงทุนใกล้เคียงกับปีก่อน ซึ่งเรามองว่ายังเป็นโอกาสที่ดีในการลงทุน เนื่องจากราคายางอยู่ในภาวะตกต่ำ ทำให้ต้นทุนต่างๆ ในการลงทุนถูกลง ซึ่งในปัจจุบันเราได้ที่ดินที่พร้อมปลูกยางแล้วกว่า 47,000ไร่ จากเป้าที่วางไว้ 50,000 ไร่ ซึ่งถ้าหากสามารถดำเนินการเริ่มต้นการปลูกได้ทั้งหมดในปีนี้จะเริ่มกรีดยางได้ในปี 59"นายวีรสิทธิ์ กล่าว
รายงาน โดย มงคล เกษตรเวทิน เรียบเรียง โดย ชัชชญา อังคุลี
อีเมล์. chatchaya@efinancethai.com อนุมัติ โดย อนุรักษ์ ลีประเสริฐสุนทร