นายกส.สวนยางเตรียมชง'คสช.'แก้ราคายางตกต่ำ
[size=78%]วันจันทร์ที่ 02 มิถุนายน 2014 เวลา 09:01 น.[/size]
"บุญส่ง" นายกส.ชาวสวนยางฯ เตรียมข้อมูลเสนอ คสช. มาตรการช่วยเหลือ-แก้ราคาตกต่ำ
นายบุญส่ง นับทอง นายกสมาคมสมาพันธ์ชาวสวนยางแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ขณะนี้ทางเครือข่ายเกษตรชาวสวนยางทั่วประเทศ กำลังอยู่ระหว่างการเตรียมพร้อมมูลเพื่อนำเสนอต่อคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เกี่ยวกับการช่วยเหลือเกษตรกรชาวสวนยาง โดยการนำเสนอจะเป็นการนำเสนอแผนระสั้น และระยะยาว ที่มีความเป็นไปได้ในการนำมาแก้ปัญหาราคายางพาราที่ตกต่ำอยู่ในขณะนี้ สำหรับเรื่องเร่งด่วนคือ การสนับสนุนด้านปัจจัยการผลิตให้กับเกษตรกรชาวสวนยาง 2,520 บาท/ไร่ รายละไม่เกิน 20 ไร่
ซึ่งยังมีเกษตรกรที่ยังไม่ได้รับการช่วยเหลืออีกประมาณ 80,000 ราย ซึ่งมีอยู่ 3 กลุ่มคือ กลุ่มที่มีเอกสารสิทธิ์ถูกต้อง กลุ่มที่ไม่มีแอกสารสิทธิ์ และกลุ่มที่บุกรุกป่าสงวน ในขณะที่งบประมาณที่รัฐบาลชุดที่ผ่านมาอนุมัติ 21,000 ล้านบาทได้หมดไปแล้ว โดยมีเกษตรกรที่ได้รับการสนับสนุนปัจจัยการผลิตกว่า 800,000 ราย จึงเสนอให้คสช.พิจารณาอนุมัติงบประมาณเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรที่ยังตกค้าง
ส่วนมาตรการระยะกลางคือ จะนำเสนอให้คมช.มีมาตการสำหรับการแก้ปัญหาราคายางที่ตกตกต่ำอยู่ในขณะนี้ ซึ่งสร้างความเดือนร้อนให้กับเกษตรกรเป็นอย่างมาก เนื่องจากราคาปัจจุบันต่ำกว่าราคาต้นทุนการผลิตที่ 64.19 บาท/กิโลกรัม บวกภาวะเศรฐกิจ 30 เปอร์เซ็นต์ ประมาณ 79 บาทกว่า/กิโลกรัม ซึ่งราคาที่คาดว่ามีความเป็นไปได้และสอดคล้องกับสภาพปัจจุบันไม่ต่ำกว่า 64.19 บาท/กิโลกรัมได้
?ราคาที่เกษตรกรชาวสวนยางอยู่ได้แบบพอเพียงประมาณ 80 บาท/กิโลกรัม ราคาปัจจุบันอยู่ที่ประมาณ 61 บาท/กิโลกรัม เป็นราคาที่กระทบต่อรายได้และภาระค่าใช้จ่ายต่างๆที่เพิ่มขึ้น ส่วนทางคสช.จะพิจารณาอย่างไร ก็ขึ้นอยู่กับการนำเสนอมาตรการของเครือข่ายซึ่งกำลังร่างกันอยู่ในขณะนี้ รวมทั้งมาตรการเพิ่มผลผลิต ลดต้นทุนการผลิต ที่เป็ยรูปธรรม เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรสามารถเพิ่มรายได้จากการทำสวนยาง นี่คือมาตรการระยะกลาง"
ในขณะที่มาตรการระยะยาวและเป็นความหวังของการพัฒนาอุตสาหกรรมยางพาราของไทยทั้งระบบบ ทางเครือข่ายเกษตรกรชาวสวนยางเตรียมนำเสนอ พรบ.สภาการยางแห่งประเทศ ที่มีรวมเอาหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมทั้งระบบมารวมกัน ประกอบด้วย สำนักงานกองทุนสงเคราะห์การทำสวนยาง (สกย.) องค์การสวนยาง (อสย.) และสถาบันวิจัยยาง ทั้งหมดเป็นหน่วยงานในกระทรวงเกษตรกรณ์ ซึ่งที่ผ่านมามีการแยกส่วนกันทำงาน ทำให้การพัฒนาและแก้ปัญหาในระยะยาวไม่สามารถทำได้
?เชื่อว่าพรบ.สภาการยางแห่งประเทศ จะทำให้พัฒนาอุตสาหกรรมยางทั้งระบบ ตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ รวมถึงการตลาดเข้ามา เพื่อพัฒนาอุตสาหกรรมยางทั้งระบบเดินไปข้างหน้า สร้างความเป็นอยู่ให้กับเกษตรกรที่ดีขึ้น สร้างรายได้จากการส่งออกเพิ่มมากขึ้น?
นายบุญส่ง กล่าวและว่า สำหรับพรบ.สภาการยางแห่งประเทศไทย มีกานำเสนอมาแล้ว 2 รัฐบาล คือ รัฐบาลอภิสิทธิ์ และรัฐบาลยิ่งลักษณ์ แต่ก็ไม่มีความคืบหน้า จึงหวังว่า คมช.จะพิจารณาพรบ.สภาการยางแห่งชาติให้เกิดขึ้นได้ เหมือนกับในปี 2549 ที่มีการรัฐประหาร และคมช.สมัยนั้นได้พิจารณาพรบ.สภาเกษตรกรแห่งชาติ ให้เกิดขึ้นได้ภายใน 2550 หรือภายใน 1 ปี ซึ่งปัจจุบันสภาเกษตรกรแห่งชาติเป็นองค์กรที่ๆเป็นพึ่งของประชาชนและเกษตรกร ในการผลักดันนโยบายที่สร้างประโยชน์ให้กับเกษตรกรได้อย่างดี
ที่มา : กรุงเทพธุรกิจ (วันที่ 1 มิถุนายน 2557)
