วิเคราะห์ปัจจัยที่มีผลต่อราคายาง วันพุธที่ 14 พฤษภาคม พ.ศ. 2557

[Rakayang.Com]

วิเคราะห์ปัจจัยที่มีผลต่อราคายาง

วันพุธที่  14  พฤษภาคม  พ.ศ. 2557

[/size]ปัจจัย[/t][/t] [/t] วิเคราะห์ [/size]1. สภาพภูมิอากาศ [/size]- ลมตะวันตกเฉียงใต้พัดปกคลุมประเทศไทยมีกำลังแรงขึ้น ทำให้ทั่วทุกภาคมีฝนเพิ่มขึ้นและตกหนักบางแห่ง โดยภาคใต้มีฝนร้อยละ 40 - 60 ของพื้นที่ ส่วนมากทางตอนบนของภาค ส่งผลกระทบต่อการกรีดยาง [/size]2. การใช้ยาง [/size]- บริษัทกู๊ดเยียร์ ไทร์ แอนด์ รับเบอร์ เปิดเผยผลประกอบการไตรมาสแรกปีนี้ มีรายได้จากการดำเนินงานเพิ่มขึ้น โดยมียอดจำหน่ายยางรถยนต์ทั้งสิ้น 40 ล้านเส้น เพิ่มขึ้นร้อยละ 1.0 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน- อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศเปิดเผยว่า ไตรมาสแรก (มกราคม - มีนาคม 2557) ยอดส่งออกรถยนต์รวม 287,795 คัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 0.63 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน หรือเท่ากับร้อยละ 56.0 ของยอดการผลิตทั้งหมดที่ 517,492 คัน แต่ลดลงร้อยละ 28.3 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน [/size]3. เศรษฐกิจโลก [/size]- กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ เปิดเผยว่า ยอดค้าปลีกเดือนเมษายนปรับตัวขึ้นร้อยละ 0.1 ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นต่อเนื่องจากเดือนมีนาคม ขณะที่สต๊อคสินค้ากลุ่มผู้ผลิตขยับขึ้นร้อยละ 0.4 ในเดือนเมษายน- สำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) เปิดเผยยอดลงทุนในสินทรัพย์ถาวรช่วง 4 เดือนแรกขยายตัวร้อยละ 17.3 เมื่อเทียบเป็นรายปี อยู่ที่ 10.71 ล้านล้านหยวน พร้อมเปิดเผยยอดค้าปลีกเดือนเมษายนขยายตัวร้อยละ 11.9 เมื่อเทียบเป็นรายปี อยู่ที่ 1.97 ล้านล้านหยวน ส่วนยอดค้าปลีกไตรมาสแรกขยายตัวร้อยละ 12.0 และผลผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนเมษายนขยายตัวขึ้นร้อยละ 8.7 เมื่อเทียบเป็นรายปี ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะขยายตัวขึ้นร้อยละ 8.9- กระทรวงการคลังสหรัฐฯ รายงานว่ารัฐบาลกลางสหรัฐฯ มียอดเกินดุลงบประมาณเดือนเมษายน 1.069 แสนล้านดอลล่าร์สหรัฐ ช่วยให้ยอดการขาดดุลงบประมาณสะสมในช่วง 5 เดือนแรกของปีงบประมาณปัจจุบันซึ่งสิ้นสุดเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมาลดลงร้อยละ 37.0 มาอยู่ที่ 3.064 แสนล้านดอลล่าร์สหรัฐ- กระทรวงการคลังจีนเปิดเผยว่า รายได้ทางการคลังเดือนเมษายนปรับตัวขึ้นร้อยละ 9.2 เมื่อเทียบเป็นรายปี อยู่ที่ 1.25 ล้านล้านหยวน ส่วนรายได้ช่วง 4 เดือนแรกเพิ่มขึ้นร้อยละ 9.3 เมื่อเทียบเป็นรายปี และการใช้จ่ายด้านการคลังช่วง 4 เดือนแรกเพิ่มขึ้นร้อยละ 9.6 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน- ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) สาขาแอตแลนตา ระบุว่า เศรษฐกิจสหรัฐฯ อาจเริ่มขยับสู่ขาขึ้นในไตรมาส 2 ด้วยอัตราการเติบโตร้อยละ 3.0 ต่อปี แต่ยังต้องรอดูต่อไปอีกระยะว่าการฟื้นตัวนี้เป็นไปอย่างมีเสถียรภาพหรือไม่ ขณะที่ผู้บริหารการเงินรายหนึ่งมองว่าสหรัฐฯ น่าจะเริ่มปรับขึ้นดอกเบี้ยช่วงครึ่งหลังของปี 2558 จากปัจจุบันที่เคลื่อนไหวใกล้ร้อยละ 0 [/size]4. อัตราแลกเปลี่ยน [/size]- เงินบาทอยู่ที่ 32.53 บาทต่อดอลล่าร์สหรัฐ แข็งค่าขึ้น 0.12 บาทต่อดอลล่าร์สหรัฐ- เงินเยนอยู่ที่ 102.21 เยนต่อดอลล่าร์สหรัฐ อ่อนค่าลง 0.26 เยนต่อดอลล่าร์สหรัฐ [/size]5. ราคาน้ำมัน [/size]- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาด Nymex ส่งมอบเดือนมิถุนายน ปิดตลาดที่ 101.70 ดอลล่าร์สหรัฐต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้น 1.11 ดอลล่าร์สหรัฐต่อบาร์เรล หลังจากมีรายงานว่าปริมาณการผลิตน้ำมันของลิเบียยังคงอยู่ในระดับต่ำ [/size]6. การเก็งกำไร [/size]- ราคาตลาด TOCOM ส่งมอบเดือนมิถุนายน อยู่ที่ 200.3 เยนต่อกิโลกรัม เพิ่มขึ้น 0.6 เยนต่อกิโลกรัม และส่งมอบเดือนตุลาคม อยู่ที่ 206.1 เยนต่อกิโลกรัม เพิ่มขึ้น 1.2 เยนต่อกิโลกรัม- ราคาตลาด SICOM เปิดตลาดที่ 205.7 เซนต์สหรัฐต่อกิโลกรัม เพิ่มขึ้น 3.1 เซนต์สหรัฐต่อกิโลกรัม [/size]7. ข่าว [/size]- ผู้เชี่ยวชาญจากสถาบันปีเตอร์สันเพื่อเศรษฐกิจระหว่างประเทศ ได้แสดงความเห็นว่า แม้ตลาดที่อยู่อาศัยของจีนชะลอตัวลง แต่เชื่อว่าจะไม่รุนแรงเหมือนกับสหรัฐฯ ที่เผชิญในช่วงตลาดที่อยู่อาศัยตกต่ำ แม้ว่ายอดจำหน่ายและความต้องการที่อยู่อาศัยของจีนยังคงปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่องก็ตาม - ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) กล่าวว่า เฟดยังคงดำเนินนโยบายอัตราดอกเบี้ยต่ำเป็นพิเศษต่อไป พร้อมระบุว่าตลาดแรงงานปรับตัวดีขึ้น และอัตราเงินเฟ้ออยู่ในระดับต่ำ- สำนักงานสถิติแห่งชาติจีนรายงานว่า ดัชนีความเชื่อมั่นตลาดอสังหาริมทรัพย์เดือนเมษายนปรับตัวลดลง 0.61 จุดจากเดือนเมษายน อยู่ที่ 95.79 จด จากรายงานระบุว่า การลงทุนในด้านพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ของจีนช่วง 4 เดือนแรกขยายตัวร้อยละ 16.4 เมื่อเทียบเป็นรายปี ลดลงร้อยละ 0.4 จากไตรมาสแรก [/size]8. ข้อคิดเห็นของ ผู้ประกอบการ [/size]- ราคายางปรับตัวสูงขึ้นได้เล็กน้อย เพราะปริมาณยางออกสู่ตลาดน้อย เนื่องจากเริ่มเปิดกรีดและหลายพื้นที่ฝนตก ขณะเดียวกันบางพื้นที่ยังเผชิญกับภาวะภัยแล้ง [/size]แนวโน้ม ราคายางมีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้นในทิศทางเดียวกับตลาดล่วงหน้าโตเกียว เพราะได้รับแรงหนุนจากเงินเยนอ่อนค่าและราคาน้ำมันปรับตัวสูงขึ้น ประกอบกับนักลงทุนมีมุมมองเป็นบวกต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่มีออกมาสดใส นอกจากนี้ปริมาณผลผลิตยางยังออกสู่ตลาดไม่เต็มที่ เพราะเพิ่งเริ่มเปิดกรีดและฝนตกในหลายพื้นที่ อย่างไรก็ตามทิศทางราคายางในระยะนี้ยังไม่ชัดจน เพราะนักลงทุนยังมีความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ความไม่แน่นอนทางการเมืองภายในประเทศ และจับตาดูการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีนและญี่ปุ่น                                   คณะทำงานวิเคราะห์สถานการณ์ตลาดและราคายาง  สำนักงานตลาดกลางยางพาราสงขลา [/size] [/size]

[/td][/tr][/table]