กระทู้เมื่อเร็วๆ นี้

หน้า: 1 ... 6 7 [8] 9 10
71

ราคาปิดตลาดยาง SICOMประจำวัน ศุกร์ ที่ 11เมษายน2568ราคายาง RSS3 ราคาเดือนพ.ค. ราคาเพิ่มขึ้น 1เซนต์สหรัฐ ปิดที่ 209 เซนต์สหรัฐ


ราคายางRSS3 ตลาดยางSICOM ราคาส่งมอบเดือน พ.ค.ปิดที่209 เซนต์สหรัฐ  ราคาเพิ่มขึ้น 1 เซนต์สหรัฐหรือ คิดเป็นเปอร์เซนต์ +0.48% %
เปิดซื้อขายที่209 เซนต์สหรัฐ ราคาเปิดเพิ่มขึ้น 1.00 เซนต์สหรัฐ
ขึ้นไปสูงสุด209 เซนต์สหรัฐ ราคาสูงสุดเพิ่มขึ้น 1.00 เซนต์สหรัฐ
ลงไปต่ำสุด 209 เซนต์สหรัฐ ราคาต่ำสุดเพิ่มขึ้น 1.00 เซนต์สหรัฐ
ปริมาณการซื้อขายรวมทุกเดือนทั้งสิ้น5 สัญญา
หากคำนวณราคาปิดวันนี้เพื่อดูแนวโน้มราคาเปิดของโรงงานพรุ่งนี้ คาดว่าโรงงานจะเปิด"ราคาแผ่นรมควัน"ได้ใน https://rakayang.net/vip/view.php?idr=27330

หากคำนวณราคาปิดวันนี้เพื่อดูแนวโน้มราคาเปิดของโรงงานพรุ่งนี้ คาดว่าโรงงานจะเปิด"ราคาแผ่นดิบ"ได้ใน https://rakayang.net/vip/view.php?idr=27330

Contract MonthLastChg From Prev Settle%changeAskOpenHighLowVol Open Int SettlePrev. Day SettleTHBส่วนต่างบาท%ส่วนต่าง
E
พ.ค.-25
209.0
1.0
0.5
209.0
209.0
209.0
2
53
208.0
70.400.34+0.48%
E
มิ.ย.-25
?
?
?
?
?
?
0
42
206.2
0000
E
ก.ค.-25
206.3
2.0
1.0
206.3
206.3
206.3
3
23
204.3
69.490.67+0.98%
E
ส.ค.-25
?
?
?
?
?
?
0
8
204.7
0000
E
ก.ย.-25
?
?
?
?
?
?
0
9
205.2
0000
E
ต.ค.-25
?
?
?
?
?
?
0
6
206.3
0000
E
พ.ย.-25
?
?
?
?
?
?
0
?
203.3
0000
E
ธ.ค.-25
?
?
?
?
?
?
0
?
204.7
0000
E
ม.ค.-26
?
?
?
?
?
?
0
?
204.7
0000
E
ก.พ.-26
?
?
?
?
?
?
0
?
204.7
0000
E
มี.ค.-26
?
?
?
?
?
?
0
?
208.5
0000
E
เม.ย.-26
?
?
?
?
?
?
0
?
208.5
0000
                   5
                  141

ราคายางTSR20 ตลาดยางSICOM ราคาส่งมอบเดือน พ.ค.ปิดที่169.4 เซนต์สหรัฐ  ราคาเพิ่มขึ้น 3.8 เซนต์สหรัฐหรือ คิดเป็นเปอร์เซนต์ +2.29% %
เปิดซื้อขายที่164.8 เซนต์สหรัฐ ราคาเปิดลดลง -0.80 เซนต์สหรัฐ
ขึ้นไปสูงสุด169.6 เซนต์สหรัฐ ราคาสูงสุดเพิ่มขึ้น 4 เซนต์สหรัฐ
ลงไปต่ำสุด 163.2 เซนต์สหรัฐ ราคาต่ำสุดลดลง -2.4 เซนต์สหรัฐ
ปริมาณการซื้อขายรวมทุกเดือนทั้งสิ้น22699 สัญญา
หากคำนวณราคาปิดวันนี้เพื่อดูแนวโน้มราคาเปิดของโรงงานพรุ่งนี้ คาดว่าโรงงานจะเปิด"ราคาเศษยาง"ได้ใน  https://rakayang.net/vip/view.php?idr=27330

Contract MonthLastChg From Prev Settle%changeAskOpenHighLowVol Open Int SettlePrev. Day SettleTHBส่วนต่างบาท%ส่วนต่าง
E
พ.ค.-25
169.43.8
2.3
164.8
169.6
163.2
1447
5230
165.657.061.28+2.29%
E
มิ.ย.-25
169.83.6
2.2
166.2
170.1
163.6
5902
12142
166.257.201.21+2.17%
E
ก.ค.-25
169.63.3
2.0
165.5
170.0
163.8
7527
12359
166.357.131.11+1.98%
E
ส.ค.-25
170.03.3
2.0
165.9
170.4
164.2
3559
7799
166.757.271.11+1.98%
E
ก.ย.-25
170.33.2
1.9
166.2
170.7
164.6
2138
7512
167.157.371.08+1.92%
E
ต.ค.-25
170.73.2
1.9
167.6
171.0
164.9
1280
3709
167.557.501.08+1.91%
E
พ.ย.-25
171.13.1
1.9
168.0
171.4
165.5
530
2748
168.057.641.04+1.85%
E
ธ.ค.-25
171.53.0
1.8
167.5
171.7
166.4
119
1087
168.557.771.01+1.78%
E
ม.ค.-26
172.23.3
2.0
169.1
172.2
167.2
174
213
168.958.011.11+1.95%
E
ก.พ.-26
172.63.1
1.8
167.7
172.6
167.7
16
35
169.558.141.04+1.83%
E
มี.ค.-26
173.13.1
1.8
168.1
173.1
168.1
7
61
170.058.311.04+1.82%
E
เม.ย.-26
??
?
?
?
?
0
?
170.20000
22699
52895

หมายเหตุ : ราคาที่สรุปนี้เป็นราคาปิดตลาด(Close)ไม่ใช่ราคาSettle


จัดทำโดย ทีมงาน www.rakayang.net

72

Spotlight: สหรัฐฯ vs จีน ดวลเดือด สวนกันหมัดต่อหมัด ใครจะเป็นผู้ชนะในสังเวียนการค้า

Editor's Picks, ข่าวต่างประเทศ15:29น.

นโยบายกำแพงภาษีล่าสุดของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่ประกาศเมื่อวันที่ 2 เมษายน 2568 ส่งผลกระทบต่อการค้าระหว่างประเทศเป็นวงกว้าง โดยทรัมป์กำหนดภาษีต่อคู่ค้าสหรัฐฯ เกือบทุกประเทศ ไม่สนว่าเป็นมิตรหรือศัตรู แต่มาตอนนี้ ดูเหมือนว่าการต่อสู้ครั้งนี้จะกลายเป็นการดวลกันแบบตัวต่อตัวระหว่างสองมหาอำนาจเศรษฐกิจโลกอย่างสหรัฐอเมริกาและจีนไปซะแล้ว เมื่อทรัมป์ประกาศเลื่อนการเก็บภาษีสินค้าจากทุกประเทศออกไปอีก 90 วัน แต่กลับยกเว้นจีน แถมยังขึ้นภาษีจีนสูงกว่าเดิมเสียอีก

โดยในขณะที่หลายประเทศเร่งรีบติดต่อสหรัฐฯ เพื่อขอเจรจาลดหรือยกเลิกภาษี โดยอ้างถึงความเป็นพันธมิตรที่ดีระหว่างกัน แต่นั่นไม่ใช่จีน ซึ่งหลังจากที่ทรัมป์ประกาศขึ้นภาษีสินค้าจีน 34% จีนก็สวนกลับทันควันด้วยการประกาศขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากสหรัฐฯ ในอัตรา 34% เช่นกัน ทำให้สปอตไลต์บนเวทีการค้าโลกกลับมาจับที่คู่ชกรายเดิมอีกครั้ง ซึ่งล่าสุดนี้ อัตราภาษีที่แต่ละประเทศเรียกเก็บจากอีกฝ่ายพุ่งทะยานแบบกู่ไม่กลับแล้ว โดยอัตราภาษีที่สหรัฐฯ เก็บจากจีนอยู่ที่ 145% ส่วนที่จีนเก็บจากสหรัฐฯ อยู่ที่ 125%


*ย้อนไทม์ไลน์สงครามการค้าสหรัฐฯ-จีน กว่าจะมาถึงวันนี้
ความขัดแย้งทางการค้าระหว่างสองประเทศนี้มีมายาวนาน ย้อนกลับไปตั้งแต่สมัยที่ทรัมป์ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสมัยแรก โดยมีเหตุการณ์สำคัญดังนี้


2561: เริ่มต้นสงครามการค้า

สงครามการค้าเริ่มต้นขึ้นอย่างเป็นทางการในเดือนมกราคม 2561 เมื่อสหรัฐฯ ประกาศใช้มาตรการภาษีกับสินค้านำเข้าเครื่องซักผ้าและแผงโซลาร์เซลล์จากจีน จากนั้นในเดือนมีนาคม ประธานาธิบดีทรัมป์ได้ลงนามในคำสั่งบริหารเพื่อเก็บภาษีสินค้าจีนเพิ่มเติมรวมมูลค่าสูงถึง 5-6 หมื่นล้านดอลลาร์ จีนไม่รอช้าที่จะตอบโต้ โดยในเดือนเมษายน ได้ประกาศเก็บภาษีสินค้าสหรัฐฯ 128 รายการ คิดเป็นมูลค่ารวม 3 พันล้านดอลลาร์ ความตึงเครียดยิ่งทวีความรุนแรงขึ้นในเดือนกรกฎาคม เมื่อสหรัฐฯ เริ่มเก็บภาษีในอัตรา 25% กับสินค้าจีนมูลค่า 3.4 หมื่นล้านดอลลาร์ และจีนก็ตอบโต้ทันทีด้วยการเก็บภาษีในระดับเดียวกัน ช่วงเดือนสิงหาคมถึงกันยายน สงครามภาษีได้ยกระดับความรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ โดยทั้งสองประเทศต่างฝ่ายต่างตอบโต้กันไปมาด้วยการประกาศมาตรการทางภาษีเพิ่มเติมหลายระลอก


2562-2563: เจรจาสู่การทำข้อตกลงการค้าเฟสที่ 1

ในช่วงพฤษภาคมถึงกันยายน 2562 ความตึงเครียดทางการค้าระหว่างสองประเทศทวีความรุนแรงขึ้นอีกระดับ เมื่อสหรัฐฯ ตัดสินใจเพิ่มอัตราภาษีสินค้านำเข้าจากจีนเป็น 25% จีนตอบโต้ด้วยมาตรการที่รุนแรงไม่แพ้กัน รวมถึงการระงับการซื้อสินค้าเกษตรจากสหรัฐฯ อย่างไรก็ตาม เมื่อถึงเดือนมกราคม 2563 ทั้งสองประเทศได้บรรลุข้อตกลงการค้าเฟสที่ 1 ซึ่งถือเป็นการบรรเทาความตึงเครียดลงชั่วคราว โดยในข้อตกลงนี้ จีนยอมที่จะเพิ่มการซื้อสินค้าจากสหรัฐฯ เป็นมูลค่ามหาศาลถึง 2 แสนล้านดอลลาร์ภายในระยะเวลาสองปี

2564-2566: เปลี่ยนผ่านและทบทวนนโยบาย

ในปี 2564 เป็นช่วงเปลี่ยนผ่านทางการเมืองและนโยบายเมื่อรัฐบาลประธานาธิบดีโจ ไบเดน เข้ามาบริหารประเทศ แม้จะมีการทบทวนนโยบายทางการค้ากับจีน แต่รัฐบาลไบเดนก็ยังคงมาตรการภาษีนำเข้าส่วนใหญ่ที่รัฐบาลชุดก่อนดำเนินการไว้ ต่อมาในเดือนมิถุนายน 2565 สหรัฐฯ ผ่อนคลายความตึงเครียดบางส่วนด้วยการยกเลิกภาษีบางรายการสำหรับสินค้าจีน แต่เป็นเพียงการยกเลิกในขอบเขตที่จำกัด อย่างไรก็ตาม ในเดือนตุลาคมปีเดียวกัน สหรัฐฯ กลับเพิ่มความเข้มงวดในอีกด้านหนึ่ง ด้วยการประกาศข้อจำกัดการส่งออกชิปและเทคโนโลยีขั้นสูงไปยังจีน ตลอดปี 2566 ความตึงเครียดระหว่างสองประเทศยังคงดำเนินต่อไป โดยเฉพาะในภาคเทคโนโลยี แม้จะไม่มีการยกระดับมาตรการภาษีที่สำคัญในช่วงนี้ก็ตาม

2567-2568: การกลับมาของทรัมป์พร้อมนโยบายภาษีใหม่

การเมืองสหรัฐฯ เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญอีกครั้งเมื่อโดนัลด์ ทรัมป์ ชนะการเลือกตั้งในเดือนพฤศจิกายน 2567 และเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีเป็นสมัยที่สองในเดือนมกราคม 2568 การกลับมาของทรัมป์นำมาซึ่งการเปลี่ยนแปลงนโยบายการค้าระหว่างประเทศอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งแน่นอนว่า จีนย่อมหนีไม่พ้น

*ผลกระทบและความเป็นไปได้ในอนาคต
การที่โดนัลด์ ทรัมป์กลับมาดำเนินนโยบายภาษีที่แข็งกร้าวต่อจีนอีกครั้ง ส่วนจีนก็ไม่ยอมแพ้ ฟาดกลับไปแบบตาต่อตา ฟันต่อฟัน บ่งชี้ถึงแนวโน้มที่สงครามการค้าจะทวีความรุนแรงขึ้น ความเป็นไปได้ที่อาจเกิดขึ้นมีดังนี้

ผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลก: สงครามการค้าที่ทวีความรุนแรงขึ้นระหว่างสองมหาอำนาจเศรษฐกิจโลกจะส่งผลกระทบในวงกว้างอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ห่วงโซ่อุปทานระหว่างประเทศอาจหยุดชะงักเนื่องจากต้นทุนการนำเข้าส่งออกที่เพิ่มสูงขึ้น ส่งผลให้บริษัทต่างๆ ต้องปรับเปลี่ยนแหล่งผลิตและจัดหาวัตถุดิบใหม่ ซึ่งอาจนำไปสู่ความไร้ประสิทธิภาพและความล่าช้าในการผลิต ส่วนในด้านเศรษฐกิจมหภาคนั้น อาจเกิดภาวะเงินเฟ้อจากต้นทุนนำเข้าที่สูงขึ้น ส่งผลให้ราคาสินค้าสำหรับผู้บริโภคเพิ่มสูงขึ้นตามไปด้วย การเติบโตทางเศรษฐกิจโลกก็อาจชะลอตัวลงเนื่องจากความไม่แน่นอนทางการค้าที่ส่งผลกระทบต่อการลงทุนและความเชื่อมั่นทางธุรกิจ นอกจากนี้ ความตึงเครียดทางการค้ายังอาจส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ทางการทูตและความร่วมมือระหว่างประเทศในประเด็นสำคัญอื่นๆ เช่น การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ การควบคุมอาวุธ หรือความมั่นคงทางไซเบอร์

ผลกระทบต่อบริษัทและผู้บริโภค: ทั้งภาคธุรกิจและผู้บริโภคในทั้งสองประเทศจะได้รับผลกระทบโดยตรงจากสงครามการค้าครั้งนี้ บริษัทสหรัฐฯ ที่พึ่งพาการนำเข้าวัตถุดิบหรือชิ้นส่วนจากจีน หรือมีฐานการผลิตในจีน จะต้องเผชิญกับต้นทุนดำเนินงานที่สูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ หลายบริษัทอาจต้องพิจารณาการปรับโครงสร้างธุรกิจครั้งใหญ่ รวมถึงการย้ายฐานการผลิตไปยังประเทศที่สาม ในทางกลับกัน บริษัทจีนที่พึ่งพาการส่งออกไปยังตลาดสหรัฐฯ ก็จะได้รับผลกระทบจากภาษีนำเข้าที่พุ่งสูงขึ้น และอาจสูญเสียส่วนแบ่งตลาดให้กับคู่แข่งจากประเทศอื่นที่ไม่ได้รับผลกระทบจากภาษี ที่น่าเป็นห่วงไม่น้อยคือผู้บริโภคในทั้งสองประเทศที่จะต้องแบกรับภาระค่าครองชีพที่สูงขึ้น เนื่องจากราคาสินค้าอุปโภคบริโภคหลายประเภทจะปรับตัวสูงขึ้นตามต้นทุนการนำเข้าที่เพิ่มขึ้น



*แล้วสงครวามนี้จะจบลงอย่างไร
โรแลนด์ ราชาห์ นักเศรษฐศาสตร์จาก Lowy Institute กล่าวว่า สงครามการค้ากับจีนรอบนี้แตกต่างจากในช่วงที่ทรัมป์ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสมัยแรก ซึ่งเน้นการเจรจากับปักกิ่ง ?ไม่ชัดเจนว่าอะไรคือแรงจูงใจเบื้องหลังภาษีเหล่านี้ และยากมากที่จะคาดการณ์ว่าสถานการณ์จะดำเนินไปอย่างไรต่อไป?

เขากล่าวเสริมว่า จีนมี ?เครื่องมือมากมาย? สำหรับการตอบโต้ เช่น การลดค่าเงินหยวนลงอีก หรือการควบคุมบริษัทสหรัฐฯ ที่ดำเนินธุรกิจในจีน

?ผมคิดว่าคำถามคือพวกเขาจะยับยั้งชั่งใจแค่ไหน มีการตอบโต้เพื่อรักษาหน้า และมีการงัดอาวุธทั้งหมดออกมา มันไม่ชัดเจนว่าจีนต้องการเดินไปในเส้นทางนั้นหรือไม่ แต่ก็อาจเป็นไปได้?

ผู้เชี่ยวชาญบางคนเชื่อว่าสหรัฐฯ และจีนอาจมีการเจรจาส่วนตัว อย่างไรก็ดี ทรัมป์ยังไม่ได้พูดคุยกับสี จิ้นผิง นับตั้งแต่หวนคืนสู่ทำเนียบขาว แม้ว่าปักกิ่งจะส่งสัญญาณหลายครั้งถึงความเต็มใจที่จะเจรจาก็ตาม

อย่างไรก็ดี ผู้เชี่ยวชาญอีกหลายคนไม่ได้มองในแง่ดีขนาดนั้น โดยเดบอราห์ เอล์มส์ หัวหน้านโยบายการค้าจาก Hinrich Foundation ในสิงคโปร์ กล่าวว่า ?ฉันคิดว่าสหรัฐฯ กำลังประเมินสถานการณ์สูงเกินไป? ซึ่งเธออ้างถึงความเชื่อของทรัมป์ที่ว่า ประเทศอื่น ๆ รวมถึงจีน จะต้องยอมอ่อนข้อให้กับสหรัฐฯ

?เรื่องนี้จะจบลงอย่างไร ไม่มีใครรู้?

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (11 เม.ย. 68)
73
จีนตอบโต้ทรัมป์ ขึ้นภาษีสินค้าสหรัฐ เป็น 125% จากเดิม 84% มีผล 12 เม.ย.68 นี้!

11 เม.ย. 2025 เวลา 16:13 น.

อาจเป็นรูปภาพของ 2 คน และ ข้อความพูดว่า "08:22:50 สหรัฐฯ ขึ้นภาษี สินค้านำเข้าจาก จีน 104% (มีผล 9 เม.ย. เม.ย.68) 68) 3 3HD HD LIVE จีน ขึ้นภาษี สินค้านำเข้าจาก สหรัฐฯ 84% (มีผล 10 เม.ย.68) เม.ย. 68) สหรัฐฯ ขึ้นภาษี สินค้านำเข้าจาก จีน 125% (มีผล 10 เม.ย. 68) ชื่องฟล่าเช้านี้ง สหรัฐฯ ขึ้นภาษี สินค้านำเข้าจาก จีน 145% % (มีผล 11 เม.ย. 68)"

จีนประกาศเพิ่มภาษีนำเข้าสินค้าสหรัฐ เป็น 125% จากเดิม 84% ตอบโต้มาตรการของทรัมป์ ทั้งสองประเทศต่างเพิ่มมาตรการกดดันในสงครามการค้าที่ทวีความรุนแรง ด้านโกลด์แมน แซคส์ ปรับลดคาดการณ์ GDP จีนเหลือ 4%

สำนักข่าวซีเอ็นบีซี รายงานวันนี้ (11 เม.ย.68) ว่า กระทรวงการคลังจีน ประกาศเมื่อวันศุกร์ว่า จีนได้ตอบโต้มาตรการขึ้นภาษีของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ โดยเพิ่มอัตราภาษีสินค้านำเข้าจากสหรัฐ เป็น 125% จากเดิม 84%

"แม้สหรัฐ จะยังคงเพิ่มอัตราภาษีต่อไป แต่จะไม่มีความหมายทางเศรษฐกิจอีกต่อไป และจะกลายเป็นเรื่องตลกในประวัติศาสตร์เศรษฐกิจโลก" กระทรวงการคลังจีน ระบุในแถลงการณ์ ตามการแปลของซีเอ็นบีซี

แถลงการณ์ยังระบุว่า "ด้วยอัตราภาษีในระดับปัจจุบัน ตลาดสำหรับสินค้านำเข้าจากสหรัฐ มายังจีนไม่มีอีกต่อไป" และเสริมว่า "หากรัฐบาลสหรัฐ ยังคงเพิ่มภาษีต่อจีน ปักกิ่งจะเพิกเฉย"

ทั้งนี้ ฝ่ายบริหารของทรัมป์ยืนยันกับซีเอ็นบีซีเมื่อวันพฤหัสบดีว่า อัตราภาษีสหรัฐ ต่อสินค้านำเข้าจากจีนในปัจจุบันรวมแล้วอยู่ที่ 145% โดยคำสั่งบริหารล่าสุดของทรัมป์ได้เพิ่มภาษีตอบโต้ต่อปักกิ่งเป็น 125% ซึ่งรวมกับภาษีที่เกี่ยวข้องกับเฟนทานิลอีก 20% ที่ถูกบังคับใช้ในเดือนกุมภาพันธ์ และมีนาคม

แม้จะมีการเพิ่มความตึงเครียดล่าสุด โฆษกกระทรวงพาณิชย์จีน ได้ย้ำในแถลงการณ์แยกต่างหากเมื่อวันศุกร์ว่า ปักกิ่งยังเปิดรับการเจรจากับสหรัฐ บนพื้นฐานของความเท่าเทียม

ความหวังเรื่องข้อตกลงระหว่าง สหรัฐ-จีน เพื่อแก้ไขความตึงเครียดทางการค้าได้จางหายไปอย่างรวดเร็ว ขณะที่ปักกิ่งได้ตอบโต้ในสัปดาห์ที่ผ่านมาด้วยการขึ้นภาษีสินค้าอเมริกัน และการจำกัดธุรกิจสหรัฐ อย่างกว้างขวาง

"น่าเสียดายที่จีนไม่ต้องการมาเจรจา เพราะพวกเขาเป็นผู้ละเมิดที่เลวร้ายที่สุดในระบบการค้าระหว่างประเทศ" สก็อตต์ เบสเซนต์ รัฐมนตรีคลังสหรัฐ กล่าวกับ Fox Business เมื่อวันพุธหลังจากจีนเพิ่มภาษีเป็น 84%

"พวกเขามีเศรษฐกิจที่ไม่สมดุลที่สุดในประวัติศาสตร์โลกสมัยใหม่ และผมบอกได้เลยว่าการเพิ่มความตึงเครียดนี้เป็นการสร้างความเสียหายให้กับพวกเขาเอง" เบสเซนต์กล่าว

ปรับลดจีดีพีจีนเหลือโตเพียง 4%

โกลด์แมน แซคส์ ได้ปรับลดคาดการณ์ GDP จีน เหลือ 4% เมื่อวันพฤหัสบดี เนื่องจากแรงกดดันจากความตึงเครียดทางการค้ากับสหรัฐ และการเติบโตของเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว

แม้การส่งออกของจีนไปยังสหรัฐ จะมีสัดส่วนเพียงประมาณ 3% ของ GDP รวมของจีน แต่ยังคงมีผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อการจ้างงาน นักวิเคราะห์ของโกลด์แมน แซคส์ประเมินว่ามีแรงงานในจีนประมาณ 10-20 ล้านคนที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจส่งออกไปยังสหรัฐ

จีนย้ำเมื่อวันศุกร์ว่าจะ "ตอบโต้อย่างเด็ดขาด และสู้จนถึงที่สุด" หากสหรัฐ ยังคงละเมิดผลประโยชน์ของจีนต่อไป

ด้านทำเนียบขาวยังไม่ได้ตอบสนองต่อคำขอความเห็นจาก CNBC


อ้างอิง: CNBC

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์
74
ข่าวทั่วไป / คาดหมายอากาศทั่วไป ระหว่างวันที่ 11 - 17 เมษายน พ.ศ. 2568
« กระทู้ล่าสุด โดย Rakayang.Com เมื่อ เมษายน 11, 2025, 05:26:37 PM »
คาดหมายอากาศทั่วไป ระหว่างวันที่ 11 - 17 เมษายน พ.ศ. 2568

อาจเป็นรูปภาพของ ข้อความพูดว่า "เตือ เตือนพายุถล่ม ถล่ม 010 CANO COS พายุ สงกรานต์นี้ฝนหนัก ต์ ต์นี้ นี้ สงกรานต์ หนัก"
ในช่วงวันที่ 12 - 14 เม.ย. บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังปานกลางจากประเทศจีนจะแผ่ลงมาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทยและทะเลจีนใต้ ส่งผลทำให้มีลมตะวันออกและลมตะวันออกเฉียงใต้พัดนำความชื้นเข้ามาปกคลุมประเทศไทยตอนบน ในขณะที่ประเทศไทยตอนบนมีอากาศร้อนถึงร้อนจัด ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณดังกล่าวมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้น โดยมีลักษณะของพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง ลูกเห็บตก และฝนตกหนักบางแห่ง รวมถึงฟ้าผ่าที่อาจเกิดขึ้นได้บางพื้นที่ในระยะแรก ส่วนในช่วงวันที่ 15 - 17 เม.ย. บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังปานกลางที่ปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือและทะเลจีนใต้มีกำลังอ่อนลง ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีอุณหภูมิสูงขึ้น โดยมีอากาศร้อนในตอนกลางวัน ในขณะที่ลมใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้ยังคงพัดปกคลุมประเทศไทยตอนบน ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้นได้
     สำหรับภาคใต้ ในช่วงวันที่ 11 - 13 เม.ย. ลมตะวันตกเฉียงเหนือพัดปกคลุมทะเลอันดามัน และภาคใต้ ทำให้ภาคใต้ฝั่งตะวันตกมีฝนตกหนักบางแห่ง คลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันสูง 1 - 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร อ่าวไทยทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ส่วนในช่วงวันที่ 14 - 17 เมย. ลมตะวันออกและลมตะวันออกเฉียงใต้พัดปกคลุมอ่าวไทย ภาคใต้ และทะเลอันดามัน ทำให้ภาคใต้ยังคงมีฝนฟ้าคะนองและมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณอ่าวไทยมีคลื่นสูง 1 - 2 เมตร ทะเลอันดามันมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

ข้อควรระวัง
     ในช่วงวันที่ 12 - 14 เม.ย. ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากพายุฤดูร้อนและฝนตกหนักที่จะเกิดขึ้น ควรหลีกเลี่ยงการเดินทางผ่านบริเวณที่มีพายุฝนฟ้าคะนองและเส้นทางที่มีปัญหาน้ำท่วมซ้ำซาก โดยเฉพาะพื้นที่ลุ่มต่ำ มีข้อจำกัดในการระบายน้ำ ซึ่งอาจเกิดน้ำท่วมขังในระยะสั้นได้ เนื่องจากการระบายน้ำอาจทำได้ไม่สะดวก ไม่ควรอยู่ในที่โล่งแจ้ง ใต้ต้นไม้ใหญ่ สิ่งปลูกสร้างและป้ายโฆษณาที่ไม่แข็งแรง รวมทั้งเพิ่มความระมัดระวังการจัดกิจกรรมกลางแจ้งช่วงเทศกาลสงกรานต์ สำหรับเกษตรกรควรเสริมความแข็งแรงให้ไม้ผล และเตรียมการป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นกับผลผลิตทางการเกษตรและสัตว์เลี้ยง รวมทั้งดูแลรักษาสุขภาพในช่วงที่สภาพอากาศเปลี่ยนแปลงไว้ด้วย ทั้งนี้ เพื่อความปลอดภัยและลดผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น ขอให้ประชาชนวางแผนการใช้ชีวิตและการเดินทางในช่วงเวลาดังกล่าวอย่างระมัดระวัง
ออกประกาศ 11 เมษายน 2568 12:00 น.


ภาคเหนือ

     ในช่วงวันที่ 12 - 14 เม.ย. พายุฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 40 ? 60 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรง ลูกเห็บตก และฝนตกหนักบางแห่ง
อุณหภูมิต่ำสุด 20 - 26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 27 ? 38 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10 - 25 กม./ชม.
ส่วนในช่วงวันที่ 15 - 17 เม.ย. อากาศร้อนโดยทั่วไป และมีอากาศร้อนจัดบางแห่ง โดยมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 20 - 40 ของพื้นที่
อุณหภูมิต่ำสุด 21 - 28 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33 - 40 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 5 - 15 กม./ชม.

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

    ในช่วงวันที่ 12 -  13 เม.ย. พายุฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 40 - 60 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรง ลูกเห็บตก และฝนตกหนักบางแห่ง
อุณหภูมิต่ำสุด 18 - 26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 27 - 37 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 15 - 30 กม./ชม.
ส่วนในช่วงวันที่ 14 - 17 เม.ย. อากาศร้อนโดยทั่วไป โดยมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 - 30 ของพื้นที่
อุณหภูมิต่ำสุด 22 - 28 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33 - 39 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10 - 20 กม./ชม.

ภาคกลาง

   ในช่วงวันที่ 11 - 12 เม.ย. ฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 20 - 30 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรง
ในช่วงวันที่ 13 - 14 เม.ย. พายุฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 40 - 60 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกบางแห่ง
อุณหภูมิต่ำสุด 22 - 26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31 - 38 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10 - 25 กม./ชม.
ส่วนในช่วงวันที่ 15 - 17 เม.ย. อากาศร้อนโดยทั่วไป และมีอากาศร้อนจัดบางพื้นที่ โดยมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 20 - 40 ของพื้นที่
อุณหภูมิต่ำสุด 24 - 27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34 - 41 องศาเซลเซียส ลมใต้ ความเร็ว 10 - 20 กม./ชม.

ภาคตะวันออก

    ในช่วงวันที่ 12 - 14 เม.ย. พายุฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 40 - 60 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกบางแห่ง
อุณหภูมิต่ำสุด 22 - 27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29 - 37 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10 - 30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
ส่วนในช่วงวันที่ 15 - 17 เม.ย. อากาศร้อนทางตอนบนของภาค โดยมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 20 - 40 ของพื้นที่
อุณหภูมิต่ำสุด 23 - 29 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32 ? 38 องศาเซลเซียส
ลมใต้ ความเร็ว 15 - 30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

ภาคใต้(ฝั่งตะวันออก)

     มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40 - 60 ของพื้นที่ ตลอดช่วง และมีฝนตกหนักบางแห่ง
ในช่วงวันที่ 11 - 13 เม.ย. ลมตะวันตก ความเร็ว 15 - 30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
ส่วนในช่วงวันที่ 14 - 17 เม.ย. ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15 - 35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1 - 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
อุณหภูมิต่ำสุด 21 - 27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29 - 36 องศาเซลเซียส

ภาคใต้(ฝั่งตะวันตก)

     มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40 - 60 ของพื้นที่ ตลอดช่วง และมีฝนตกหนักบางแห่ง
ในช่วงวันที่ 11 - 13 เม.ย. ลมตะวันตกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15 - 35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1 - 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
ส่วนในช่วงวันที่ 14 - 17 เม.ย. ลมตะวันออก ความเร็ว 15 - 30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงมากกว่า 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
อุณหภูมิต่ำสุด 22 - 27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29 - 36 องศาเซลเซียส

กรุงเทพและปริมณฑล

     ในช่วงวันที่ 11 - 12 เม.ย. ฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 20 - 30 ของพื้นที่
ลมใต้ ความเร็ว 10 - 20 กม./ชม.
ในช่วงวันที่ 13 - 14 เม.ย. มีพายุฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 40 - 60 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง
อุณหภูมิต่ำสุด 24 - 28 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30 ? 37 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10 - 25 กม./ชม.
ส่วนในช่วงวันที่ 15 - 17 เม.ย. อากาศร้อนโดยทั่วไป กับมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 20 - 40 ของพื้นที่
อุณหภูมิต่ำสุด 25 - 29 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32 ? 38 องศาเซลเซียส ลมใต้ ความเร็ว 10 - 20 กม./ชม.

ออกประกาศ 11 เมษายน 2568 12:00 น.
75

TFEX-RUBBER (JRF Futures)ประจำวัน ศุกร์ ที่ 11 เมษายน 2568

(ไม่จับคู่สัญญา)

จัดทำโดย www.rakayang.net
76

TOCOM-RSS3 ปิดตลาดช่วง Night Session  ประจำวัน ศุกร์ ที่ 11 เมษายน 2568 ราคาเดือน ก.ย.-2025ปิดตลาดที่ 294.90 ลดลง -2.7เยน   ปริมาณ 60 สัญญา
                                                                                                                                                               
มีปริมาณซื้อขายรวมทั้งสิ้น135 สัญญา
ราคาส่งมอบเดือน ก.ย.-2025ซึ่งเป็นเดือนตัวแทนตลาด60 สัญญา
โดยเปิดซื้อขายกันที่ 295.20 เยน โดยราคาเปิดลดลง-2.40เยน
ขึ้นไปสูงสุด  296.30  เยน โดยราคาสูงสุดลดลง-1.30เยน
ลงไปต่ำสุด 293.60 เยน โดยราคาต่ำสุดลดลง-4.00เยน
ปิดตลาดที่ 294.90 เยน โดยราคาปิดลดลง-2.70เยน
คิดเป็นเปอร์เซนต์ -0.91%
คิดเป็นเงินไทย 63.10บาท/กก.ลดลง -0.63บาท
(คำนวณที่อัตราแลกเปลี่ยน 0.2343บาท)
หากคำนวณจากราคาเปิดราคา  ลดลง -0.30 เยน
ราคาต่ำสุดและราคาสูงสุด บวกลบกันแล้วห่างกัน 2.70 เยน

หมายเหต : ราคาปิดช่วง Night Session ดังกล่าวไม่ได้เป็นตัวตั้งในการคำนวณราคาในวันถัดไป การคำนวณราคาในวันถัดไปจะใช้ราคา settement price ของช่วง Day session เท่ากับ 297.60 เยน

        Open   Hi   Low   Close   Change   Volume   Settlement   %Change   คิดเป็นเงินไทย(บาท/กก.)   เปลี่ยน(บาท)
เม.ย.-25   296.5   0   0   0   0   0   0   296.5   0.00   -6.00   0.00
พ.ค.-25   296.5   299.2   300.7   296.5   299   2.5   25   296.5   0.84   64.06   0.59
มิ.ย.-25   295.4   293.9   294   293   294   -1.4   10   295.4   -0.47   62.88   -0.33
ก.ค.-25   296.9   293.7   295.3   293.7   295.3   -1.6   14   296.9   -0.54   63.19   -0.37
ส.ค.-25   297.6   294.9   295.5   294   295.5   -2.1   26   297.6   -0.71   63.24   -0.49
ก.ย.-25   297.6   295.2   296.3   293.6   294.9   -2.7   60   297.6   -0.91   63.10   -0.63
Total                       135            



จัดทำโดย ทีมงาน www.rakayang.net
77

ราคาปิดตลาด(Close)ยางเซี่ยงไฮ้ประเทศจีน(SHFE)ประจำวัน ศุกร์ ที่ 11 เมษายน 2568ก.ย.-2025 ราคาเพิ่มขึ้น 265หยวนปิดที่ราคา(close) 14,995 หยวน/ตัน  ปริมาณ493,933 สัญญา

มีปริมาณซื้อขายรวมทั้งสิ้น562,194 สัญญา *** Volume คือ จำนวนสัญญาที่มีการจับคู่ซื้อขายกันในแต่ละวัน
ราคาเดือนก.ย.-25ซึ่งเป็นเดือนตัวแทนตลาดมีปริมาณการซื้อขายทั้งสิ้น493,933 สัญญา
เปิดซื้อขายกันที่ 14,880 หยวน/ตัน ราคาเปิดตลาดเปลี่ยนแปลง  ราคาเพิ่มขึ้น 150 หยวน/ตัน  หรือ 1.02%
ขึ้นไปสูงสุดของวันที่ 15,010 หยวน/ตัน ราคาสูงสุดเปลี่ยนแปลง  ราคาเพิ่มขึ้น 280 หยวน/ตัน  หรือ 1.87%
ลงไปต่ำสุดของวันที่ 14,630 หยวน/ตัน ราคาต่ำสุดเปลี่ยนแปลง  ราคาลดลง -100 หยวน/ตัน  หรือ -0.68%
และมาปิดที่ 14,995 หยวน/ตัน ราคาปิดเปลี่ยนแปลง ราคาเพิ่มขึ้น 265 หยวน/ตัน  หรือ 1.77%
***ส่วนต่างคำนวณจาก(ราคาปิด)ลบ(ราคาSettleงวดก่อน)
หากคำนวณ(ราคาต่ำสุด)ลบ(ราคาสูงสุด) ห่างกัน380 หยวน/ตัน
หากคำนวณ(ราคาเปิด)ลบ(ราคาปิด)  บวก 115 หยวน/ตัน
ส่วนราคา settle ของยางเซี่ยงไฮ้ SHFE เดือนส่งมอบก.ย.-25 อยู่ที่ 14,825หยวน/ตัน เพิ่มขึ้น95 หยวน/ตัน หรือ 0.64%
ราคาปิดและราคาSettleเท่ากัน95 หยวน
เทียบจากราคา(Settle)คิดเป็นเงินไทย(หักค่าใช้จ่าย)48.24บาท/กก. ราคาเพิ่มขึ้น 0.44บาท/กก.
สัญญา(SHFE)ที่เปิดสถานะ(OI) ก่อนหน้า 179,503สัญญาสัญญาที่เปิดสถานะ(OI)วันนี้176,113สัญญา ลดลง -3,390สัญญา
***OI คือจำนวนของสัญญาที่มีการเปิดสถานะอยู่ ซึ่งจะคำนวณสะสมตั้งแต่วันแรกที่สัญญามีการซื้อขายจนถึงปัจจุบัน
(คำนวณที่อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท=4.6033บาท/หยวนและ อัตรา 1 ดอลลาร์ =7.3241หยวน)*ที่มา Bloomberg

แนวรับแนวต้านระยะสั้น สำหรับวันพรุ่งนี้         
รูปแบบของการคำนวณ/Pivot point           
Levels   Standard   Woodie   Fibonacci
แนวต้านที่ 3   15507   15668   15258
แนวต้านที่ 2   15258   15288   15113
แนวต้านที่ 1   15127   15185   15023
จุดกึ่งกลาง   14878   14908   14878
แนวรับที่ 1   14747   14805   14733
แนวรับที่ 2   14498   14528   14643
แนวรับที่ 3   14367   14148   14498
หมายเหตุ : แนวรับแนวต้านที่เห็นเป็นการคาดการณ์และการคำนวณตามสูตรเพื่อเป็นแนวทางและทางเลือก การใช้งานต้องอ้างอิงปัจจัยอื่นประกอบและรอบคอบให้มากก่อนการลงทุน         






Delivery monthPre settleOpenHighLowCloseSettleClose-ch1Settle-ch2VolumeTurnover
O.I & Change
O.I   Changeคิดเป็นเงินไทยบาทเปลี่ยนแปลง(บาท) Close Change (%)

2504

14425

14700

14700

14700

14700

14700

275

275

2

29.4

114

0
47.671.271.87

2505

14570

14755

14850

14445

14830

14650

260

80

52751

772994.09

31486

-3625
47.440.370.54

2506

14720

14770

14900

14520

14895

14735

175

15

369

5437.38

880

5
47.830.070.10

2507

14760

14830

14960

14590

14940

14775

180

15

330

4876.58

1875

-14
48.010.070.10

2508

14640

14925

15000

14640

14975

14825

335

185

267

3958.59

1418

20
48.240.851.24

2509

14730

14880

15010

14630

14995

14825

265

95

493933

7323179.3

126297

-1306
48.240.440.64

2510

14915

14880

15050

14775

15050

14880

135

-35

93

1383.88

167

-37
48.50-0.16-0.24

2511

14935

14980

15110

14765

15090

14920

155

-15

729

10879.31

2674

37
48.68-0.07-0.10

2601

15755

15885

15900

15585

15860

15760

105

5

13679

215614.74

11161

1534
52.550.020.03

2603

15705

15880

15925

15650

15870

15820

165

115

41

648.71

41

-4
52.820.530.72

??

 

 

 

 

 

 

 

 

562194

8339001.9

176113

-3390

จัดทำโดย ทีมงาน www.rakayang.net   
78

ราคาปิดตลาด TOCOM-RSS3 ช่วง Day Session ประจำวัน ศุกร์ ที่ 11 เมษายน 2568ก.ย.-2025 ลดลง -0.5เยน  Settle อยู่ที่ 297.60เยน ปริมาณ 395 สัญญา

มีปริมาณซื้อขายรวมทั้งสิ้น 702 สัญญา
ราคาส่งมอบเดือน ก.ย.-2025 ซึ่งเป็นเดือนตัวแทนตลาด 395 สัญญา
โดยเปิดซื้อขายกันที่ 289.80 เยน โดยราคาเปิด  ราคาลดลง -8.30 เยน(-2.78%)
ขึ้นไปสูงสุด 299.00 เยน โดยราคาสูงสุด  ราคาเพิ่มขึ้น 0.90 เยน(0.30%)
ลงไปต่ำสุด 289.00 เยน โดยราคาต่ำสุด  ราคาลดลง -9.10 เยน(-3.05%)
ปิดตลาดที่  297.60  เยน โดยราคาปิด  ราคาลดลง -0.50  เยน(-0.17%)
หากคำนวณ(ราคาต่ำสุด)ลบ(ราคาสูงสุด) 10.00 เยน
หากคำนวณ(ราคาเปิด)ลบ(ราคาปิด) 8.30เยน
ส่วนราคา Settle อยู่ที่297.60 เยน
ราคา Settle ราคาเพิ่มขึ้น -0.50 เยน
คิดเป็นเปอร์เซนต์ ราคาเพิ่มขึ้น -0.17%
เทียบจากราคา(Settle)คิดเป็นเงินไทย(หลังหักค่าใช้จ่าย)63.73 บาท/กก. ราคาลดลง -0.17บาท/กก. 
สัญญา(TOCOM-RSS)ที่เปิดสถานะ(OI) ก่อนหน้า 0 สัญญา วันนี้ 0 สัญญา  ลดลง 0 สัญญา
***OI คือจำนวนของสัญญาที่มีการเปิดสถานะอยู่ ซึ่งจะคำนวณสะสมตั้งแต่วันแรกที่สัญญามีการซื้อขายจนถึงปัจจุบัน
(คำนวณที่อัตราแลกเปลี่ยน 0.2343 บาท/เยนและ อัตรา 1 ดอลลาร์ = 143.74 เยน)

แนวรับแนวต้านระยะสั้น สำหรับ(ช่วง Night-Dayพรุ่งนี้)         
ระดับแนวรับ-ต้าน   สูตรแบบStandard   สูตรแบบWoodie   สูตรแบบFibonacci
แนวต้านที่ 3   311.4   315.8   305.2
แนวต้านที่ 2   305.2   305.8   301.4
แนวต้านที่ 1   301.4   302.6   299.0
จุดกึ่งกลาง   295.2   295.8   295.2
แนวรับที่ 1   291.4   292.6   291.4
แนวรับที่ 2   285.2   285.8   289.0
แนวรับที่ 3   281.4   275.8   285.2
หมายเหตุ : แนวรับแนวต้านที่เห็นเป็นการคาดการณ์และการคำนวณตามสูตรเพื่อเป็นแนวทางและทางเลือก การใช้งานต้องอ้างอิงปัจจัยอื่นประกอบและรอบคอบให้มากก่อนการลงทุน      


     Last Settlement Price   เปิด(Open)   สูงสุด(Hi)   ต่ำสุด(Low)   ปิด(Close)   เปลี่ยนแปลง(Change)   ปริมาณ(Volume)   Settlement   %Change   คิดเป็นเงินไทย(บาท/กก.)   เปลี่ยน(บาท)   ส่วนต่าง LastSettl-ราคาปิด
เม.ย.-25   299.1   289.1   296.5   289   296.5   -2.6   8   296.5   -0.87   63.47   -0.61   -2.6
พ.ค.-25   299.8   290.1   296.5   289   296.5   -3.3   9   296.5   -1.10   63.47   -0.77   -3.3
มิ.ย.-25   298   289.9   295.4   287.5   295.4   -2.6   8   295.4   -0.87   63.21   -0.61   -2.6
ก.ค.-25   299.4   290.5   297   289.6   296.9   -2.5   60   296.9   -0.84   63.56   -0.59   -2.5
ส.ค.-25   299.1   291   298.1   289.1   297.6   -1.5   222   297.6   -0.50   63.73   -0.35   -1.5
ก.ย.-25   298.1   289.8   299   289   297.6   -0.5   395   297.6   -0.17   63.73   -0.12   -0.5
Total                     702               




จัดทำโดย ทีมงาน www.rakayang.net

79

สรุปราคายางช่วงเช้า ประมูลและราคาโรงงานประจำวัน ศุกร์ ที่ 11  เมษายน  2568

สรุปราคายางแผ่น เศษยาง เครฟ โรงงานทั่วปท.11  เมษายน  2568
อาเมน (สาขาขุนทะเล)   แผ่น (หยุดสงกรานต์ ตั้งแต่ 11- 16 เม.ย. เปิด 17 เม.ย.68) /0
วงศ์บัณฑิต(สาขาขุนทะเล)   แผ่น รม62.5(1/4)ดิบ61 เศษเศษ48เคฟ48.5
ไทเทคปัตตานี แผ่น   เศษ(หยุดวันศุกร์)
ราคารง.อื่นๆ จะจัดส่งให้ทาง SMS หรือคลิก >> http://www.rakayang.net/vip/cat-sub.php?cat=3

รายละเอียดการประมูลยางแผ่นดิบคุณภาพดี,ชั้น4,ชั้น5 ณ.ตลาดกลางยางพารา

ยางแผ่นดิบคุณภาพดี(USS)
ตลาดกลางประมูลยางหาดใหญ่ (สงขลา) 59 บาท/กก.  ราคาเพิ่มขึ้น 0.99บาท/กก.

ตลาดกลางประมูลยางสุราษฯ63.19 บาท/กก.  ราคาเพิ่มขึ้น 1.28บาท/กก.

ตลาดกลางประมูลยางนครศรีฯ(จันดี) 58.88 บาท/กก.  ราคาเพิ่มขึ้น 0.6บาท/กก.

ตลาดกลางประมูลยางบุรีรีมย์  วันนี้ไม่มียาง

ตลาดกลางประมูลยางยะลา  วันนี้ไม่มียาง

ตลาดกลางประมูลยางระยอง  (ไม่เกิน1.5%) วันนี้ไม่มียาง

รวมปริมาณยางแผ่นดิบคุณภาพดีทั้ง3ตลาด   632  บาท/กก.  ลดลง -1,828บาท/กก. กก. จากวันก่อนหน้านี้

ส่วนราคาเฉลี่ยยางแผ่นดิบคุณภาพดีวันนี้ 60.36 บาท/กก. ราคาเฉลี่ยลดลง -3.50 บาท/กก. จากวันก่อนหน้านี้


รายละเอียดการประมูลยางแผ่นรมควันชั้น3,ชั้น4,ชั้น5,ฟอง,คัตติ้ง ณ.ตลาดกลางยางพารา

ยางแผ่นรมควันชั้น 3
ตลาดกลางประมูลยางหาดใหญ่ (สงขลา) 64.69 บาท/กก.  ราคาเพิ่มขึ้น 2.63 บาท/กก.

ตลาดกลางประมูลยางสุราษฯ 64.69 บาท/กก.  ราคาเพิ่มขึ้น 2.14 บาท/กก.

ตลาดกลางประมูลยางนครศรีฯ(จันดี) 64.69 บาท/กก.  ราคาเพิ่มขึ้น 2.62 บาท/กก.

ตลาดกลางประมูลยางยะลา วันนี้ไม่มียาง  บาท/กก.  ราคาเพิ่มขึ้น 0 บาท/กก.

รวมปริมาณยางแผ่นรมควันชั้น 1-3 นน.39221กก.ปริมาณยางวันนี้ เพิ่มขึ้น 26851 กก. จากวันก่อนหน้านี้

ส่วนราคาเฉลี่ยยางแผ่นรมควันคุณภาพดีวันนี้ 64.69 บาท/กก. ราคาเฉลี่ยเพิ่มขึ้น 2.46 บาท/กก. จากวันก่อนหน้านี้



ราคายางเฉลี่ยของโรงงาน และท้องถิ่นทั่วไป

จังหวัด สงขลา ยางแผ่นดิบคุณภาพ 3  = 55.85บาท/กก. ราคาเพิ่มขึ้น 0.6 บาท/กก. เศษยาง 48.3บาท/กก. ราคาเพิ่มขึ้น 1.35  บาท/กก. น้ำยางสด ราคา ณ โรงงาน 57.5บาท/กก. ราคาไม่เปลี่ยนแปลง

จังหวัด สุราษฏร์ธานี ยางแผ่นดิบคุณภาพ 3  = 55.5บาท/กก. ราคาเพิ่มขึ้น 0.5 บาท/กก. เศษยาง 47.5บาท/กก. ราคาเพิ่มขึ้น 0.5  บาท/กก. น้ำยางสด ราคา ณ โรงงาน 48.75บาท/กก. ราคาไม่เปลี่ยนแปลง

จังหวัด นครศรีธรรมราช ยางแผ่นดิบคุณภาพ 3  = 57บาท/กก. ราคาเพิ่มขึ้น 1.5 บาท/กก. เศษยาง 49บาท/กก. ราคาเพิ่มขึ้น 1  บาท/กก. น้ำยางสด ราคา ณ โรงงาน 55บาท/กก. ราคาเพิ่มขึ้น 2.5บาท

จังหวัด ยะลายางแผ่นดิบคุณภาพ 3  = 0 บาท/กก. ราคาลดลง -56 บาท/กก. เศษยาง 

เศษยาง (อุดร)  48.5 บาท/กก. ราคาไม่เปลี่ยนแปลง

เศษยาง (ยะลา)45 บาท/กก. ราคาไม่เปลี่ยนแปลง
*****หมายเหตุ : ราคานี้เป็นราคาเฉลี่ย บางโรงงานอาจเปิดสูงหรือต่ำกว่านี้ แต่ราคาที่ประกาศนี้เฉลี่ยไว้ ให้ดูแนวโน้มว่าโรงงานเปิดราคาวันนี้ไปทางไหน *****



รายละเอียดราคาประกาศเที่ยงวันยางส่งออก F.O.B. ส่งมอบ 

ยางแผ่นรมควันชั้น 3  ราคาวันนี้ 72.89 บาท/กก. ราคา ราคาเพิ่มขึ้น  https://rakayang.net/vip/view.php?idr=27327

ยางแท่ง STR20  ราคาวันนี้ 63.73 บาท/กก. ราคา ราคาเพิ่มขึ้น  https://rakayang.net/vip/view.php?idr=27327

และน้ำยางข้น 60%   ราคาวันนี้ 43.04 บาท/กก. ราคา ราคาลดลง  https://rakayang.net/vip/view.php?idr=27327

จัดทำโดย ทีมงานwww.rakayang.net

80
รายละเอียดราคาประกาศเที่ยงวันยางส่งออก F.O.B. ส่งมอบ ประจำวัน ศุกร์ ที่ 11  เมษายน  2568

ยางแผ่นรมควันชั้น 3  ราคาวันนี้ 72.89 บาท/กก. ราคา ราคาเพิ่มขึ้น  https://rakayang.net/vip/view.php?idr=27327

ยางแท่ง STR20  ราคาวันนี้ 63.73 บาท/กก. ราคา ราคาเพิ่มขึ้น  https://rakayang.net/vip/view.php?idr=27327

และน้ำยางข้น 60%   ราคาวันนี้ 43.04 บาท/กก. ราคา ราคาลดลง  https://rakayang.net/vip/view.php?idr=27327


อาจเป็นรูปภาพของ ข้อความพูดว่า "ชนิดยาง ชั้นยาง รายละเอียดราคาประกาศเ่ืยงวัยาส รายละเอียตราคาประกาศ เที่ยงวันยางส่งออก F.O.B. ส่งมอบ 11 เมษายน 2568 เดือนพฤษภาคม 2568 ยางแผ่นรมดวัน กรุงเทพ RSS 3 ส้วนต่าง +/ 72.89 STR 20 2.59 สงขลา 63.73 ส่วนต่าง +/- 1.47 น้ำยางขัน 60% หมายเหตุ 72.64 ราคาเพิ่มขึ้น ราคาเพิ่มขึ้น 43.04 2.59 -0.03 63.48 1.47 ราคาลดอง 42.79 ราคา FOB สมารเน้าใน้วจ้การารา ราคาเพิ่มขั้น ราคาเพิ่มชึ้น -0.03 ราคาลดอง"

จัดทำโดย ทีมงานwww.rakayang.net

***********************************************

ตัดสินใจใช้บริการเราเลยปีนี้สนุกแน่กับราคายาง????โปรดีๆ ยังคงรออยู่พิเศษหากเพื่อนต้องการเป็นครอบครัว"คนทำยาง"กับเรา สมัครเป็นสมาชิกใหม่หรือต่ออายุสมาชิก เรามีโปรพิเศษแนะนำทำตามขั้นตอนนี้คับ วิธีสมัครพรีเมียม และ `สมัครเลขาฯแจ้งส่วนตัวทางไลน์`
1. *ทักไลน์นี้ >  https://lin.ee/DIanguu
2. แจ้งเบอร์
3. โอนเงิน+ส่งสลิปที่ไลน์
4. รับรหัสใช้งาน
_*`(ปล. สามารถสมัครเป็นรายเดือน / 3 เดือน / หรือ 1 ปี แบบยาวไม่ต้องกังวลวันหมดอายุ ทักเรามาคับ)


หน้า: 1 ... 6 7 [8] 9 10