ข้อความโดย: Rakayang.Com
« เมื่อ: เมษายน 29, 2020, 09:46:29 PM »ว่ากันว่าที่ราคา STA ขึ้นแรงในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา เป็นเพราะ ?ถุงมือยาง? เป็นที่ต้องการอย่างมากในช่วง COVID-19 และเป็นสินค้าทีมีมาร์จิ้นสูง โดยถุงมือยางมีสัดส่วน 20% ของรายได้ STA
STA ทำธุรกิจตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ
ต้นน้ำ มีสวนยางพาราประมาณ 45,000 ไร่ ครอบคลุมพื้นที่ 19 จังหวัดในประเทศไทย
กลางน้ำ มีโรงงานผลิตยางธรรมชาติ 36 โรง ทั้งยางแท่ง ยางแผ่นรมควัน และน้ำยางข้น
ปลายน้ำ ก็มีโรงงานผลิตถุงมือยาง
และบริษัทที่กำลังเตรียมตัวเข้าตลาดหุ้นก็คือ STGT หรือ Sri Trang Gloves Thailand
วันนี้เรามาดูตัวเลขคร่าวๆ เกี่ยวกับถุงมือยางและ STGT สักเล็กน้อยนะครับ
ปี 2562 ความต้องการถุงมือยางทั่วโลก 300,000 ล้านชิ้น +12% เติบโตจากอุตสาหกรรมการแพทย์ โดยมาเลเซียครองส่วนแบ่งการตลาดมากที่สุด ตามมาด้วย ไทย จีน เวียดนาม
STGT มี 3 โรงงานที่หาดใหญ่ สุราษฎร์ธานี และตรัง กำลังการผลิต 27,153 ล้านชิ้นต่อปี ตอนนี้ใช้กำลังการผลิตเกือบ 90% ก็เรียกได้ว่าเกือบเต็ม
แผนการเพิ่มกำลังผลิต คือ
? 30,000 ล้านชิ้น ภายในปี 2563
? 50,000 ล้านชิ้น ภายในปี 2568
? 100,000 ล้านชิ้น ภายในปี 2575
สัดส่วนรายได้
? ขายในประเทศ 14% ต่างประเทศ 86%
? แบรนด์ตัวเอง 14% OEM 86%
รายได้และกำไร 3 ปี ย้อหลัง
? ปี 2560 รายได้ 11,765 ล้านบาท กำไรสุทธิ 214 ล้านบาท
? ปี 2561 รายได้ 11,079 ล้านบาท กำไรสุทธิ 981 ล้านบาท
? ปี 2562 รายได้ 12,224 ล้านบาท กำไรสุทธิ 614 ล้านบาท
รายได้ดูเติบโตได้ แต่กำไรผันผวนไปบ้าง ขึ้นอยู่กับราคายาง กำลังการผลิต ค่าเงินบาท ค่าเงินริงกิตมาเลเซีย ยกตัวอย่างเช่น ปี 2562 บาทแข็ง ริงกิตอ่อนมาก ทำให้ต้องปรับราคาลงมาพอสมควร จึงกระทบกับกำไร แต่ปี 2563 เงินบาทอ่อนลง และมาเลเซียมีการ lock down ทำให้ supply ลดลง ก็จะทำให้เป็นประโยชน์ต่อทั้งราคาและกำไรของ STGT
ผมเชื่อว่า ถุงมือยาง เจลล้างมือ หน้าการอนามัย สิ่งของเหล่านี้คงมีความต้อการที่สูงขึ้นต่อไปเรื่อยๆ นับจากนี้ไป แต่สิ่งที่เราคงต้องพิจารณากันคงเป็นเรื่อง ของการขยายกำลังการผลิต ราคายาง และค่าเงินครับ
วันนี้เล่าให้ฟังพอเห็นภาพกว้างๆ ของ STGT แบบนี้ก่อนนะครับ แล้วไว้มีข้อมูลเพิ่มเติมจะมาเล่าให้ฟังกันต่อ
STA ทำธุรกิจตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ
ต้นน้ำ มีสวนยางพาราประมาณ 45,000 ไร่ ครอบคลุมพื้นที่ 19 จังหวัดในประเทศไทย
กลางน้ำ มีโรงงานผลิตยางธรรมชาติ 36 โรง ทั้งยางแท่ง ยางแผ่นรมควัน และน้ำยางข้น
ปลายน้ำ ก็มีโรงงานผลิตถุงมือยาง
และบริษัทที่กำลังเตรียมตัวเข้าตลาดหุ้นก็คือ STGT หรือ Sri Trang Gloves Thailand
วันนี้เรามาดูตัวเลขคร่าวๆ เกี่ยวกับถุงมือยางและ STGT สักเล็กน้อยนะครับ
ปี 2562 ความต้องการถุงมือยางทั่วโลก 300,000 ล้านชิ้น +12% เติบโตจากอุตสาหกรรมการแพทย์ โดยมาเลเซียครองส่วนแบ่งการตลาดมากที่สุด ตามมาด้วย ไทย จีน เวียดนาม
STGT มี 3 โรงงานที่หาดใหญ่ สุราษฎร์ธานี และตรัง กำลังการผลิต 27,153 ล้านชิ้นต่อปี ตอนนี้ใช้กำลังการผลิตเกือบ 90% ก็เรียกได้ว่าเกือบเต็ม
แผนการเพิ่มกำลังผลิต คือ
? 30,000 ล้านชิ้น ภายในปี 2563
? 50,000 ล้านชิ้น ภายในปี 2568
? 100,000 ล้านชิ้น ภายในปี 2575
สัดส่วนรายได้
? ขายในประเทศ 14% ต่างประเทศ 86%
? แบรนด์ตัวเอง 14% OEM 86%
รายได้และกำไร 3 ปี ย้อหลัง
? ปี 2560 รายได้ 11,765 ล้านบาท กำไรสุทธิ 214 ล้านบาท
? ปี 2561 รายได้ 11,079 ล้านบาท กำไรสุทธิ 981 ล้านบาท
? ปี 2562 รายได้ 12,224 ล้านบาท กำไรสุทธิ 614 ล้านบาท
รายได้ดูเติบโตได้ แต่กำไรผันผวนไปบ้าง ขึ้นอยู่กับราคายาง กำลังการผลิต ค่าเงินบาท ค่าเงินริงกิตมาเลเซีย ยกตัวอย่างเช่น ปี 2562 บาทแข็ง ริงกิตอ่อนมาก ทำให้ต้องปรับราคาลงมาพอสมควร จึงกระทบกับกำไร แต่ปี 2563 เงินบาทอ่อนลง และมาเลเซียมีการ lock down ทำให้ supply ลดลง ก็จะทำให้เป็นประโยชน์ต่อทั้งราคาและกำไรของ STGT
ผมเชื่อว่า ถุงมือยาง เจลล้างมือ หน้าการอนามัย สิ่งของเหล่านี้คงมีความต้อการที่สูงขึ้นต่อไปเรื่อยๆ นับจากนี้ไป แต่สิ่งที่เราคงต้องพิจารณากันคงเป็นเรื่อง ของการขยายกำลังการผลิต ราคายาง และค่าเงินครับ
วันนี้เล่าให้ฟังพอเห็นภาพกว้างๆ ของ STGT แบบนี้ก่อนนะครับ แล้วไว้มีข้อมูลเพิ่มเติมจะมาเล่าให้ฟังกันต่อ