ข้อความโดย: หมิง
« เมื่อ: ตุลาคม 31, 2013, 08:47:41 AM »
บทความเรื่อง การเตรียมความพร้อมหากคิดส่งลูกไปเรียนมาเลย์ ที่เมืองอิโป น่ะ
เนื่องจากปัจจุบัน มีผู้ปกครองหลายท่านให้ความสนใจที่จะส่ง บุตรหลานไปศึกษาที่ประเทศมาเลียเซีย เหตุก็เพราะ สามารถเรียนรู้ทั้งวิชาการ
และ เป็นอีกประเทศหนึ่งที่ลูกหลานเราได้ศึกษาคร่าวเดียว 2 ???าษา อังกฤษและจีนกลาง หรืออาจมากกว่านั้นก็เป็นได้แล้วแต่ความสนใจของตัวเด็กเอง
และที่สำคัญอีกอย่างคือ ค่าใช้จ่าย ไม่แพงพอๆกะบ้านเรา หรือ อาจมากกว่านิดหน่อย อีกทั้ง ความปลอด???ัยในชีวิตค่อนข้างสูง
และเป็นการเริ่มต้นที่ดีในการที่จะส่งลูกหลานตั้งแต่ยังเล็ก เพื่อให้เขาได้เรียนรู้ทั้งการใช้ชีวิตและวิชาการ ???าษา และฝึกความอดทนในการใช้ชีวิตโดยพึ่งตนเอง
สถานที่ที่ผมอยากส่งลูกไปเรียนผมพิจารณาแล้ว ผมจึงส่งไปเมือง อิโป(IPOH) มีคำถามว่าทำไมไม่ส่งไปปีนัง เหตุก็เพราะว่าคนไทยไปเรียนมากเกินไปจนวันๆอยู่แต่กับคนไทยด้วยกัน
ลูกของท่านแทบไม่ได้คุย???าษาอื่นเลยดังนั้นส่วนใหญ่ที่ปีนัง ลูกท่านจะได้แค่เพียง???าษาเดียวและเป็นช้ามากๆ เมื่อเทียบกับเด็กที่ไปเรียนที่ อิโป
โรงเรียนที่ผมส่งลูกไปเรียนคือ POI LAM HIGH SCHOOL IPOH เพราะ 1 . ค่าใช้จ่ายไม่แพง 2.เป็นโรงเรียนกินนอนมีหอพักอยู่???ายในโรงเรียน 3.เด็กไทยมีรวมๆทั้งโรงเรียนประมาณ 30 กว่าๆ
พอเรียนชั้น ม1 ขึ้นไปก็คิดว่ามีเด็กไทยไม่เกินห้องละ2คน 4.เป็นโรงเรียนที่มีคนหลายชาติไปศึกษา(แต่ไม่ใช่โรงเรียนอินเตอร์น่ะ) 5. ได้???าษาแน่ๆ2???าษา เพราะหนังสือเรียนเป็น???าษาอังกฤษแต่ครูสอนพูดจีนกลาง
6.???ายในห้องพักเขามีระเบียบที่เคร่งครัดมีเวลาเปิดปิดไฟ,เวลาอ่านหนังสือ,การเบิกจ่ายเงินประจำสัปดาห์ 7.โรงเรียนนี้นักเรียนส่วนใหญ่คือจีนมาเลย์ ชั้นหนึ่งจะมี 8 ห้องเรียน
ยกเว้นเด็กเข้าใหม่ ต้องเรียนชั้น ER ซึ่งมีห้องเดียว คิดง่ายคือตอนเรียน ER ก็ได้ฝึกๆ???าษาแบบค่อยเป็นค่อยไป เพราะมีคนไทยอยู่บ้างสัก5-6 คน ส่วนที่เหลือ จีนมาเลย์40
ER ในความหมายผมคือ เรียนปรับฐานเตรียมเข้า ม1 เพราะปัญหาของเด็กไทยคือ???าษา (แล้วต้องเรียนทีเดียว 2 ???าษาเลย ???าษาเดียวก็ปวดหัวตายแล้ว )
8. ที่นี่มีระบบรุ่นพี่รุ่นน้องพอฝากดูแลกันได้(แม้บางครั้งรุ่นพี่นั่นแร่ะที่แกล้งลูกเรา แต่จำไว้ว่าเวลาลูกเราไม่สบายก็พวกนี้แร่ะที่จะพาลูกเราไปหาหมอและเวลามีเรื่องกะเด็กมาเลย์พวกนี้แร่ะที่ช่วยลูกเรา)
และช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุดในการส่งลูกหลานไปเรียนต่อที่มาเลย์ สำหรับผมคือ จบ ป.5 ......เหตุก็เพราะว่า เด็กวัยยังเล็กจะมีการจดจำ???าษาได้ดีและไวกว่า
และเป็นช่วงรอยระหว่าง เด็กไปสู่วัยรุ่น จึงการปรับตัวในการใช้ชีวิตที่ต้องพึ่งพาจนเองมากขึ้น รับผิดชอบตนเองมากขึ้น ที่สำคัญคือจะต้องมีระเบียบวินัยมากขึ้น
อีกอย่างน่ะครับ ถ้าลูกท่านจบ ป6 แล้วไปเรียนต่อ ก็ต้องเรียน ER เหมือนกัน เพราะผลสุดท้ายลูกท่านก็ต้องสอบเข้า ม1 ของเขาเหมือนกัน ฉะนั้น จบ ป5 แล้วไปเรียน ER เลยดีกว่าครับ
อ่อ ต้องทำความเข้าใจก่อนน่ะว่าที่ มาเลย์ เขาเรียนแค่ ม5 เองน่ะ ถ้าต่อมหาลัยเขา ต้องเรียนเตรียม2 ปี แล้วเรียนมหาลัยอีก 3 ปี รวม5ปี จบเท่าเมืองไทยพอดี
แต่ คนแถวสงขลาเขาทำแบบนี้ คือให้ลูกเรียนจบ ม5 แล้วกลับมาเรียน อินเตอร์ที่ จุฬา หรือ ธรรมศาสตร์ 4 ปี จบมาลูกเรากำไร 1 ปี (เรียนแบบธรรมดาไม่ได้แล้วน่ะเพราะไม่มีคะแนน โอเนท เอเนท )
อีกอย่างลูกเราได้มีเพื่อนเมืองไทยครับ ไม่งั้นเขาคงไปอยู่ต่างประเทศต่อแน่เพราะอ้างว่าอยู่เมืองไทยไม่มีเพื่อน
ต้องทำความเข้าใจน่ะครับ โรงเรียนนี้อาจไม่ใช่โรงเรียนที่ทำให้ลูกท่านได้เก่ง???าษามาก แต่เป็นโรงเรียนที่เหมาะแก่การเริ่มต้น บางท่านส่งลูกมาเรียนที่นี่ 3 ปี จากนั้นก็ส่งไป สิงค์โปรต่อ ได้ผลดีน่ะครับ
เพราะสิงค์โปรยอดเยี่ยมมากทั้งวิชาการและ???าษา แน่นมากๆ ถ้าเราส่งลูกเราจากไทยไปสิงค์โปรเลย ลูกเราตามเขาไม่ทันหรอกครับสุดท้ายอาจไม่อยากอยู่ต่อ กลับมาก่อนที่จะได้???าษา
ส่วนถ้าลูกท่านจบชั้นอื่นมาแล้วอยากเข้าเรียน ต้องสอบเทียบก่อนครับ โดยสอบวัดผลที่โรงเรียนเลยครับใช้เวลา 2 ชั่วโมงรู้ผลครับ ได้ชั้นไหนก็ชั้นนั้นครับ ส่วนER ไม่ต้องสอบครับ
ขั้นตอนการเตรียมลูกหลานเราก่อนไปเรียนที่มาเลย์
1.สิ่งแรกเริ่มคือควรคุยกับลูกก่อนที่จะส่งเขามา ถ้าตั้งใจส่งแล้วคุยกับเขาล่วงหน้าได้เลยครับ ทำเขาให้เขาอยากมาเรียนเอง ไม่ใช่บังคับเขามาน่ะครับ เพราะถ้าบังคับเขามา คุณต้องใจแข็งพอควร
เพราะพอมันมาอยู่มันร้องเป็นเดือนแน่ๆครับ ถ้ามีเวลาเตรียมตัวมากพอ ให้กล่อมเขาก่อนเรื่อยๆเลยครับ ผมกล่อมลูก 2 ปีก่อนมาเรียนจริงได้ผลเกินคาด
เขาอยากมาเรียนมาก จนวันที่พามาดูโรงเรียนก่อนมาเรียนจริงๆ ลูกผมขออยู่เรียนเลยครับ ผมว่าไม่ได้ เราต้องไปเอาวุฒิ ป5 ก่อนเพราะไม่สอบปลาย???าคที
2.???าษาครับ ทั้งจีนและอังกฤษ อย่างน้อยให้พอฟังอังกฤษได้บ้าง ส่วนจีนกลางให้จำศัพท์ประจำวันได้ สัก 300 คำก็ยังดี
3.ให้ลูกเราไป ค้างคืนบ้านคนอื่นบ้างครับ ให้เขาห่างๆพ่อแม่บ้าง ไปอยู่กะญาติที่ต่างจังหวัดบ้างตอนปิดเทอม
4.ฝึกความอดทนให้ลูกเราบ้างครับ เช่นให้งานที่เหนื่อยๆ,งานที่ไม่ชอบ,ไม่ได้เล่นเกมส์ หรือ ให้เขาอยู่ในที่ๆรู้สึกอึดอัด แล้วอย่าลืมอธิบายเหตุผล ให้ลูกฟังด้วยน่ะครับว่าทำไมถึงเป็นเช่นนี้
5.ฝึกให้ลูกรู้จักใช้เงิน และ บริหารเงินที่เราจะให้เป็นรายสัปดาห์
6.ฝึกให้เขาช่วยเหลือตนเองเบื้องต้น เช่น ตักข้าวเอง,กวาดบ้านเอง,ซักกางเกงในเอง,ต้มม่าม่าเอง
แค่นี้พอครับ เพราะของจริงจะเจอหนักกว่านี้ พอได้ร้องไห้กัน ตอนมาใหม่ๆ จำไว้น่ะครับเด็กจะมีปัญหามากๆก็ตอน ปีแรกเท่านั้น หลังจากนั้นมันสบายแล้วครับ อาจไม่โทรหาคุณเลย
เพราะมันได้เพื่อนใหม่แล้ว เราก็ได้แต่นั่งดูอยู่ห่างๆ อ่อก่อนมาอยู่จริงๆถ้ามีโอกาสอยากให้ไปเยี่ยมชมโรงเรียนก่อนน่ะครับ พ่อแม่กะลูกได้ดูก่อนแล้วค่อยกลับไปถามเขาว่าอยากเรียนไหม
การเตรียมสิ่งของก่อนออกเดินทางไปเรียนที่มาเลย์จริงๆ
1.พาสปอร์ต
2.ใบรับรองการศึกษา ฉบับ???าษาอังกฤษ จากโรงเรียนที่ลูกเรา จบ ป5 (หรือ ป6 ) หรือชั้นที่จบล่าสุด
3.สูติบัตร ฉบับแปล???าษาอังกฤษ แปลโดยผู้ได้รับอนญาติให้แปลเอเกสาร???าษาอังกฤษ
4.รูปถ่าย นิ้วครึ่ง และ 2 นิ้ว เผื่อไว้ อย่างละครึ่งโหลก็พอ
5.เงินค่าเทอมประมาณ 7 หมื่นรวมทั้งปี กรุณาแลกเป็น เงิน ริงกิตด้วยน่ะครับ
6.เงินค่าหอพัก,ค่าอาหาร,ค่าเงินเบิกของลูก (อันนี้ต้องฝากไว้ที่หอพักน่ะครับ ) ถ้าเอาแบบเป็นปี ฝากไว้ เจ็ดหมื่นบาท อยู่ได้1 ปีเลยครับ เขาจะให้ลูกเราเบิกใช้ อาทิตย์ละ 50-100 ริงกิต อยู่ที่เราอนุญาติให้เบิกครับ
7.เงินค่าซื้อชุดนักเรียน,หนังสือเรียน ห้าพันบาทคงพอ ครับ ชุดไปซื้อในเมือง อิโป น่ะครับรุ่นพี่เขาพาไปเอง ส่วนหนังสือซื้อที่โรงเรียนครับ
8.ถ้ามีปฎิทิน มาเลย์จะดีมากๆ เพราะท่านจะทราบวันหยุดวันเปิดปิด เทอมของลูกท่านเอง เขาเปิดปิดเหมือนกันทุกโรงเรียนไม่แน่ใจว่า เหมือนกันทั้งรัฐหรือเหมือนกันทั้งประเทศน่ะครับ
อีกอย่าง มาเลย์เรียน4 เทอมน่ะครับ เริ่มต้นปี เปิดเทอม1 ต้นมกราคม เปิดเทอม2ต้นเมษา เปิดเทอม3ต้น มิย เปิดเทอม4 ต้น สิงหา เอาเป็นว่า เรียนประมาณ 2 เดือนครึ่ง หยุด 15 วันครับ
ปลายปีหยุดยาวหน่อย 1 เดือนกว่าๆ หยุดกลาง พ.ย พอดี
9.ของใช้ส่วนตัว เขามีให้แต่เตียงกะตู้น่ะครับ ห้อง1 อยุ่ 6 คน ห้องน้ำรวมที่ตากผ้ารวม ผ้าส่งซักได้กางเกงในซักเอง อุปกรณ์อิเล็กโทรนิคต่างๆ ห้ามมีมูลค่าเกิน 300 ริงกิตน่ะครับ ตามกฏหอพัก ไม่งั้นถูกยีด
เตรียมไฟฉายด้วยอย่าลืม 4 ทุ่มเขาปิดไฟให้นอน แต่ไฟฉายเอาไว้ตอนไปห้องน้ำ(เขาเปิดแอร์ให้อย่างเดียวน่ะตอนดึกๆ),กุญแจเล็กๆไว้ล๊อคของ,กระปุกข้าวห่อด้วยกรณียังไม่หิวให้ไปเอาข้าวใส่กระปุกก่อน
กระติกน้ำดื่ม,ปากกาเขียนชื่อลงบนสิ่งของๆเรา,ผ้าปูเตียงคนมักลืมเอาไป,รองเท้าฟองน้ำ สำหรับเด็กผู้หญิงเสื้อผ้าขอให้เป็นชุดเรียบร้อยน่ะครับ
10.ซื้อซิมโทรศัพท์ มาเลย์ เผื่อไว้ติดต่อลูก ของผมใช้เครื่อข่ายของ DIGI ครับเอาแบบเติมเงินน่ะ โทรศัพท์อย่าเอาหรูๆไปน่ะ หายได้ เอาแค่พอได้โทรคุยกะพ่อแม่ได้เป็นพอแล้ว
ของดีมากไปเด็กเล่นแต่เกมส์ครับ จากมาเลย์โทรกลับไทยก็ไม่แพง บางที นาทีละ3 บาท ผมงงกะการคิดราคาค่าโทรเขามาก บางทีก็6 บาท แต่จำไว้ โทรที่มาเลย์ถ้าไม่มีใครรับสายรีบวางน่ะ
เพราะแค่เข้าพูดสู่ระบบฝากข้อความมันคิดเงินทันทีเลย บ้านเราจะคิดตอนพูดระบบฝากข้อความจบ บ้านเขาพอมันพูดเราก็เสียเงินแล้วครับ
11.ยารักษาโรค อันนี้เตรียมไว้ดีคับ แต่สอนลูกให้รู้จักการใช้ยาน่ะครับ ที่มาเลย์ยาไม่แพงน่ะครับ แต่ค่าหมอที่มาเลย์ แพงมาก ไปหาหมอทีเป็นพันครับ (ถ้าลูกเราไม่สบายโรงเรียนจะพาไปหาหมอครับ
แต่เขาจะไม่พาไปถ้าไม่ได้รับอนุญาตจากผู้ปกครองก่อน เคยมีครั้งหนึ่งเด็กอินโดเจ็บหน้าอกต้องไปหาหมอข้างนอก โรงเรียนติดต่อผู้ปกครองไม่ได้ เขาก็ให้นอนรอที่หอพักน่ะครับ จนกว่าได้รับ
อนุญาติจากพ่อแม่ เพราะเขาจะหักค่าหาหมอจากบัญชี่ที่เราฝากครับ)
12.
เบอร์โทรที่ให้โรงเรียนติดต่อกลับ กรณีมีเหตุหรือมีการขออนุญาติให้ลูกเราออกนอกโรงเรียน ให้เขียนเบอร์พ่อแม่ เบอร์ญาติหรือใครที่พอรู้เรื่อง???าษาจีน ส่วนตัวผม
เขียนเบอร์ตนเอง ???รรยา และ บ้านแม่ผมครับ เพราะแกพูดจีนกลางได้ จะมีวันหนึ่งน่ะครับที่เขาต้องพาลูกเราถ่ายรูปไปทำวีซ่า แต่ถ้าแบบนั้นเขาไม่โทรมาขออนุญาติน่ะ
อ่อ บอกอีกนิด เด็กเข้าใหม่ปีแรก ไม่อนุญาติให้ออกนอกโรงเรียน ยกเว้นผู้ปกครองมารับน่ะครับ ส่วนปีอื่นๆเด็กขอนุญาติเองได้ อยุ่ที่ครูเฝ้าหอพิจารณา
แต่ตอนปิดเทอม ให้กลับเองได้ครับ เพราะรุ่นพี่ๆ จะรวมกันเหมารถตู้กลับไทยครับ
13.เสบียงส่วนตัวครับ (ม่าม่า,โจ๊กคัพ) เอาพอประทั่งชีวิตน่ะ เพราะอาหารที่เขาทำให้ทานส่วนใหญ่หนักไปทางไก่ครับ เรียกว่าทานไก่จนเบื่อเลยหมูแทบไม่เห็น บางทีเด็กก็เบื่อได้
แต่ที่หอพักมีร้านค้าให้ซื้อขนมน่ะครับ พอทานได้ครับ(ถ้าจะสั่งพิซซ่า แบบพิซซ่าฮัทจากข้างนอกมาทานก็ได้ แต่ต้องอนุญาติทางครูเฝ้าหอพักก่อนครับ )
แรกๆ ท่านซื้อไปจะถูกรุ่นพี่ขอไปบ้างน่ะ ลูกท่านอาจไม่ได้ทานเลยต้องทำใจครับ ไม่ให้ก็โดนแต่ทีหลังเขาจะซื้อของฝากให้ลูกท่านครับ เสน่ห์คนไทยแบ่งปั่นกันครับ
ค่าใช้จ่ายแรกเข้า ค่าเทอม,ค่าหนังสือ,ค่าทำวีซ่า ประมาณ 7000 ริงกิต ค่าหอพักทั้งปีรวมอาหาร 3000 ริงกิต ที่เหลือเป็นพ๊อกเก๊ตมันนี่และค่ากิจกรรม ส่วนตัวให้ฝากไว้ 4000 ริง กิตอยู่ได้ 1 ปี
เวลาเรียนหนังสือ เช้า 07:45 น - 15:30 น (เวลามาเลย์น่ะครับซึ่งเร็วกว่าบ้านเรา 1 ชั่วโมง) เรียน จันทรฺถึง เสาร์ ครับแต่เสาร์เรียนครึ่งวันครับ หลังจากเวลาเลิกเรียน
ก็เป็นเวลาของชมรม(อันนั้นลูกเราจะเลือกเอง???ายหลังครับ) แต่พวกมาใหม่ ER บังคับเรียนพิเศษ ???าษาอังกฤษและจีนก่อนครับ วันอาทิตย์หยุดครับ ทำตัวตามสบายๆ เด็กปีอื่นขออนุญาติไปเที่ยวข้างนอกได้ครับ
กิจวัตรประจำวัน สำหรับเด็ก ER มาใหม่ๆ เจอรับน้องครับ ตื่น ตี 5 มาเข้าแถวก่อนครับ ส่วนรุ่นพี่ก็ ตี 6 (ขอย้ำเวลามาเลย์น่ะครับ) ทานข้าว 7 โมง เข้าเรียน 7:45 น อิอิอิอิ วันแรกลูกผมตื่นตี 4 เมื่องไทย
ผมตกใจมากนึกว่าลูกนอนไม่หลับ เขาโทรมาบอกว่า ทางหอปลุกให้ตื่น ไปเข้าแถวก่อน โห้มันอยู่เมื่องไทย ตี6 มันยังไม่อยากลุกเลย นี่ตี 4 ต้องตื่นแล้ว เรียนหนังสือก็มีพักเบรกและมีพักทานเที่ยง
ตอนพักเที่ยงทานข้าวไวหน่อยน่ะ มีเวลาน้อยเด็กหอเยอะ เห็นเขาวิ่งกันไปเพื่อไม่ต้องรอคิวนาน เลิกเรียนถูกบังคับเรียนพิเศษ???าษาต่อ วันๆไม่ว่างครับเหนื่อยจริงๆ เลิกเรียนพิเศษ ก็ไปอาบน้ำ หลังจากนั้นไปทานข้าวเย็น
เวลาประมาณ 19:30 น ทางหอบังคับให้มาอ่านหนังสือรวมกันที่ห้องประชุม ถึง 21:30 น ไปรอคิวรีดผ้า 22:30 หอปิดไฟนอน อ่ออีกนิดครับโรงอาหารในโรงเรียนมี 2 ที่น่ะครับ มีของหอพักและของโรงเรียน(จ่ายเงินน่ะ)
ข้อที่ผู้ปกครองควรทำใจก่อนจะส่งลูกหลานไปเรียน
การที่ท่านส่งลูกไปเรียนที่นั่นอาจเป็นครั้งแรกที่ท่านและลูกห่างกันเป็นครั้งแรก และอาจเป็นครั้งแรกที่ลูกท่านไปใช้ชีวิตร่วมกับคนอื่น ที่ไม่เคยรู้จักมาก่อนต้องดูแลและช่วยเหลือตัวเองเกือบทุกเรื่อง
ร่วมทั้งอาจมีปัญหาในการเรียนและการสื่อสารในช่วงแรก ให้เข้าใจหน่อยน่ะครับว่าลูกท่านต้องเป็นโรคคิดถึงบ้านแน่นอนมีอะไรเขาก็จะโทรมาเล่ามาร้องให้ท่านฟัง ไม่ว่าการถูกรุ่นพี่แกล้งการถูกรุ่นพี่สั่งให้ชกต่อยกัน
การถูกขโมยของและในบางรายเด็กอาจเครียดมากๆจนเด็กไม่อยากกลับไปเรียน การฟ้องปกครองแล้วผู้ปกครองไปด่ารุ่นพี่จะทำให้รุ่นพี่ แบนลูกท่านน่ะครับ อีกอย่างบางรายถึงขั้นผู้ปกครองทะเลาะกันด้วย
ปัญหาเล่านี้ท่านต้องเจอแน่ๆครับ ทนได้ก็ต้องทนน่ะครับ ผ่านไปได้พอขึ้น ม1 ก็จบแล้วครับลูกท่านจะมีเพื่อนและพี่ๆมากมาย ผมกว่าจะผ่านไปได้เครียดมากๆเลยครับ นอนไม่หลับเป็นอาทิตย์แทบจะเอากลับบ้าน
พวกที่ส่งลูกไปก่อนก็ได้แต่ปลอบว่าทำใจต้องทน ต้องผ่านไปให้ได้ ผ่านได้ผลตอบแทนดีมากมายเลยครับลูกท่านจะเปลี่ยนแปลงมากมายครับ เป็นการฝึกที่ดีมากๆ แต่นานๆไปลูกจะไม่ค่อยโทรหาท่านน่ะ
อ่อ จำไว้น่ะครับลูกท่านจะกลัวรุ่นพี่มากกว่าท่านน่ะคับ(แค่ช่วงแรก) ผ่านตรงนี้ไปเขาจะรักกันครับ และตอนขึ้น ม. เขาจะเลือกให้ลูกท่านเองครับว่าจะให้เรียนห้องไหนสาขาไหน ขึ้นกับคะแนนที่เรียน
" สำหรับท่านที่ใจอ่อนกะลูก อย่าส่งไปเลยครับ เสียเงินเสียเวลาเปล่า เพราะบททดสอบแรกหนักทั้งเด็กและผู้ปกครองครับ เครียดมากๆ
สอบผ่านปีแรกไปได้ฉลุยทั้งชีวิตของเขาครับ (อย่ารักลูกด้วยการกอดลูกอยู่กับตัว เพราะท่านไม่สามารถดูแลเขาได้ชั่วชีวิตเขา)
จงพิจารณาว่าเหมาะกับเราและลูกของเราหรือไม่ในการที่จะส่งไปเรียน เพราะถ้าไปแล้วอย่าถอยกลับครับ พิจารณากันให้ดีๆ "
ป.ล ท่านสามารถดูโรงเรียนได้ที่กลูเกิ้ลน่ะครับ โดย ค้นหาตามชื่อโรงเรียน POI LAM (SUWA) ถ้าไม่มีคำว่า suwa จะกลายเป็นโรงเรียนประถมน่ะครับซึ่งอยู่ในเมืองอิโป
......ต้าหมิงซื่อ......