ตอบ

Warning: this topic has not been posted in for at least 120 days.
Unless you're sure you want to reply, please consider starting a new topic.
ชื่อ:
อีเมล์:
หัวข้อ:
ไอค่อนข้อความ:

แนบไฟล์:
(Clear Attachment)
(แนบไฟล์เพิ่ม)
Restrictions: 4 per post, maximum total size 192KB, maximum individual size 128KB
Verification:
กรุณาพิมพ์ชื่อนี้ Rakayang เป็น???าษาไทย:

shortcuts: กด alt+s เพื่อตั้งกระทู้ หรือ alt+p แสดงตัวอย่าง


สรุปหัวข้อ

ข้อความโดย: Rakayang.Com
« เมื่อ: ตุลาคม 23, 2019, 08:40:35 AM »

รายงานพิเศษ: ผลิตยางเครปจำหน่าย...กู้วิกฤติราคาตก
23 ตุลาคม พ.ศ. 2562หนังสือพิมพ์แนวหน้า     
     
             กลุ่มเกษตรกรการยางแห่งประเทศไทย ทำสวนยางบ้านสูบต.น้ำสวย อ.เมือง จ.เลย เกิดจากการรวมตัวกันของเกษตรกรกลุ่มหนึ่งที่ได้รับความเดือดร้อนจากปัญหาราคายางพาราตกต่ำพร้อมกับร่วมกันหาแนวทางในการเพิ่มมูลค่ายางพาราให้สูงขึ้น เพื่อเพิ่มรายได้ให้กับเกษตรกรสมาชิก ขณะที่นายธวัชชัย แก้วดวงดี สมาชิกกลุ่มเกษตรกรการยางแห่งประเทศไทย ทำสวนยางบ้านสูบ บอกเพิ่มเติมว่า หลังจากทางกลุ่มฯ มีเครื่องทำยางเครป ทำให้ตนมีรายได้เพิ่มมากขึ้น จากที่เคยขายยางก้อนถ้วย จำนวน 500-600 กิโลกรัม มีรายได้ประมาณ 10,000 บาท ปัจจุบันเมื่อนำมาแปรรูปเป็นยางเครป แล้วขายในปริมาณเท่าเดิมทำให้มีรายได้อยู่ประมาณ 11,000 - 12,000 บาท ทำให้ตนมีกำลังใจที่จะประกอบอาชีพทำสวนยางต่อไป บรรยายใต้ภาพ พิสิฐ เพิ่มพูน สหกรณ์จังหวัดเลย แก้วใจ สุขธงสา ธวัชชัย แก้วดวงดี         

นายพิสิฐ เพิ่มพูน สหกรณ์จังหวัดเลย กล่าวว่า การผลิต ยางเครปเพื่อเพิ่มมูลค่าสินค้า เป็นแนวทางในการเพิ่มรายได้ให้กับสมาชิกกลุ่มเกษตรกรการยางแห่งประเทศไทย ทำสวนยางบ้านสูบ ที่นำผลผลิตยางพารามาขายให้กับกลุ่มฯ โดยได้รับการสนับสนุนงบประมาณ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2562 (งบอุดหนุน) ในการจัดหาเครื่องทำยางเครป ราคา 755,000 บาท โดยกรมส่งเสริมสหกรณ์สนับสนุน 70% และกลุ่มฯสมทบอีก 30% เพื่อสนับสนุนการดำเนินธุรกิจรวบรวมยางก้อนถ้วยและผลิตยางเครป จำหน่ายให้บริษัทเอกชน นอกจากนี้ ยังได้ความร่วมมือจากการยางแห่งประเทศไทยมาให้ความรู้ในการทำยางเครปด้วยซึ่งการผลิตยางเครปนั้น จะสามารถเพิ่มมูลค่าสินค้าได้มาก จากเดิมราคายางก้อนถ้วย จะอยู่ที่กิโลกรัมละ 16-17 บาท แต่เมื่อนำมาจำหน่ายเพื่อแปรรูปเป็นยางเครป จะเพิ่มมูลค่าได้ถึงกิโลกรัมละ 20-22 บาทเลยทีเดียว

ด้านนางสาวแก้วใจ สุขธงสา ประธานกรรมการกลุ่มเกษตรกรการยางแห่งประเทศไทย ทำสวนยางบ้านสูบ บอกว่า เดิมการดำเนินงานของกลุ่มฯ จะรวบรวมเพียงแค่ยางก้อนถ้วย

จากเกษตรกรสมาชิกเพื่อนำมาจำหน่ายให้กับพ่อค้าเพียงอย่างเดียว แต่ที่ผ่านมาการติดต่อหาพ่อค้าเข้ามาประมูลหรือรับซื้อยางก้อนถ้วยนั้นยากมาก เนื่องจากคุณภาพของยางที่รวบรวมจากเกษตรกรสมาชิกมีความแตกต่างกัน เป็นสาเหตุให้ถูกกดราคายางก้อนถ้วยลง แต่หลังจากได้รับการสนับสนุนเครื่องเครปยางพาราจากกรมส่งเสริมสหกรณ์ทำให้สามารถให้บริการเกษตรกรสมาชิกได้ทั่วถึงและสามารถควบคุมคุณภาพของยางได้เป็นอย่างดี ส่งผลให้มีอำนาจในการต่อรองมากขึ้น จากเมื่อก่อนรวบรวมผลผลิตจากเกษตรกรสมาชิกได้เพียงเดือนละ 2 ครั้ง ปัจจุบันสามารถเปิดรวบรวมผลผลิตของเกษตรกรสมาชิกได้ทุกวัน เมื่อเกษตรกรสมาชิกหรือเกษตรกรทั่วไปนำผลผลิตยางพารามาขายให้กับกลุ่มฯ ก็สามารถนำเข้าเครื่องผลิตยางเครปได้ทันที และสามารถประเมินราคาซื้อขายพร้อมกับรับเงินกลับบ้านได้เลย โดยเกษตรกรสมาชิกจะได้รับราคาขายยางก้อนถ้วยสูงกว่าเกษตรกรทั่วไป ประมาณ 20-50 สตางค์ต่อกิโลกรัม สร้างความสะดวกสบายและทำให้เกษตรกรสมาชิกมีรายได้เพิ่มจากเดิมมากขึ้น
<blockquote>"ซึ่งตลอดระยะเวลา 3 ปีที่ผ่านมา ที่กลุ่มฯ ได้จดทะเบียนกับทางกรมส่งเสริมสหกรณ์ ได้รับการดูแลในหลายด้านจาก เจ้าหน้าที่ของสำนักงานสหกรณ์จังหวัดเลย ทั้งการช่วยเหลือด้านเอกสาร งบประมาณ พร้อมทั้งเป็นพี่เลี้ยงหลักให้คำแนะนำในการดำเนินงานของกลุ่มฯ ทำให้ได้รับการพัฒนาอย่างรวดเร็วและ ต่อเนื่องจนได้รับรางวัลสถาบันเกษตรกรชาวสวนยางดีเด่น ระดับเขต  ประจำปี 2562 ประเภทกลุ่มเกษตรกรระยะเริ่มต้น จากการยางแห่งประเทศ" นางสาวแก้วใจกล่าว</blockquote><blockquote></blockquote>แม้กลุ่มเกษตรกรการยางแห่งประเทศไทย ทำสวนยางบ้านสูบ จะรวมกลุ่มกันได้เพียง 3 ปี แต่ถือว่าเป็นกลุ่มที่มีความเข้มแข็งเป็นอย่างมากเนื่องจากสามารถพัฒนาตั้งแต่การผลิต การแปรรูป รวมไปถึงการรับซื้อ และหาตลาดเพื่อจำหน่าย แก้ปัญหาราคาผลผลิต ตอบสนองความต้องการของเกษตรกรสมาชิก และส่งเสริมให้เกษตรกรสมาชิกพึ่งพาตนเองได้อย่างยั่งยืน