ตอบ

Warning: this topic has not been posted in for at least 120 days.
Unless you're sure you want to reply, please consider starting a new topic.
ชื่อ:
อีเมล์:
หัวข้อ:
ไอค่อนข้อความ:

แนบไฟล์:
(Clear Attachment)
(แนบไฟล์เพิ่ม)
Restrictions: 4 per post, maximum total size 192KB, maximum individual size 128KB
Verification:
กรุณาพิมพ์ชื่อนี้ Rakayang เป็น???าษาไทย:

shortcuts: กด alt+s เพื่อตั้งกระทู้ หรือ alt+p แสดงตัวอย่าง


สรุปหัวข้อ

ข้อความโดย: Rakayang.Com
« เมื่อ: เมษายน 05, 2017, 09:30:07 PM »


ถอยแล้ว!! นายกฯ ไฟเขียว ขยายเวลาจับปรับ นั่งแคป-ท้ายกระบะไปหลังสงกรานต์
 


              5 เม.ย.60 - พล.ต.ท.วิทยา ประยงค์พันธุ์ ผู้ช่วย ผบ.ตร.เปิดเผยกับ "คมชัดลึกออนไลน์" ถึงมาตรการห้ามนั่งท้ายกระบะรถ และ ห้ามนั่งแคปรถกระบะ อันสืบเนื่องมาจากคำสั่งตามมาตรา 44ในการแก้ พ.ร.บ.จราจร ว่า ล่าสุดทาง สตช.ได้หารือกับทางกรมการขนส่งทางบกเกี่ยวกับแล้ว เห็นว่าเพื่อไม่ให้ประชาชนเดือดร้อน เพราะยังเตรียมตัวไม่ทัน จึงเห็นร่วมกันว่าควรขยายเวลาในการประชาสัมพันธ์ทำความเข้าใจกับประชาชนเพิ่มขึ้นอีก จากเดิม 15วัน ซึ่งจะเริ่มจับปรับในวันนี้ (5เม.ย.)ออกไปเป็นหลังสงกรานต์


              ?ตอนนี้ยังไม่มีกำหนดเวลาชัดเจนว่าจะเริ่มจับปรับผู้ทำผิดอย่างจริงจังเมื่อไร แต่เบื้องต้นคือขยายไปหลังสงกรานต์ก่อน? ผู้ช่วย ผบ.ตร.กล่าว


              ทั้งนี้ พล.ต.ท.วิทยา เปิดเผยด้วยว่า ได้มีการนำเรียนเรื่องนี้ให้พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯทราบแล้ว โดยนำเรียนผ่านเลขาธิการนายกฯ ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ ก็เห็นด้วย


              ?ท่านนายกฯก็ไม่อยากให้ประชาชนเดือดร้อน ท่านสั่งให้ไปดูช่องทางช่วยเหลือประชาชนไม่ให้เกิดอุบัติเหตุในช่วงสงกรานต์ ซึ่งเราก็จะไปเข้มงวดในเรื่องการใช้ความเร็ว เรื่องเมา และเรื่องการฝ่าฝืนกฎจราจร? ผู้ช่วย ผบ.ตร.กล่าว


              ทั้งนี้ ทาง สตช.จะมีการแถลงร่วมกับกรมขนส่งทางบกในช่วงเย็นนี้


              การตัดสินใจเลื่อนการจับปรับผู้ทำผิดกฎหมายดังกล่าว สืบเนื่องมาจากหลังจากทางรัฐบาลและตำรวจประกาศว่า จะมีการเข้มงวด จับปรับผู้ทำผิดกฎหมายจราจรตามคำสั่งมาตรา 44 ซึ่งขยายไปถึงการห้ามนั่งท้ายรถกระบะ และห้ามนั่งแคปรถกระบะ หากฝ่าฝืนจะถูกดำเนินคดีข้อหาใช้รถผิดประเภท โดยจะเริ่มจับปรับอย่างจริงจังตั้งแต่วันที่ 5 เมษายน นี้เป็นต้นไป ซึ่งหมายถึงความเดือดร้อนของประชาชนในการเดินทางกลับบ้านในช่วงเทศกาลสงกรานต์ด้วย ทำให้มีกระแสแสดงความไม่เห็นด้วยอย่างมาก โดยเฉพาะในโซเชียลมีเดียมีการวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก


ที่มา :  คม ชัด ลึก
http://www.komchadluek.net/news/breaking-news/269875#.WOTRALTPLd4.twitter